เราทุกคนต่างมองหาความมั่นคงทางการเงิน “การลงทุน” คือหนึ่งในเส้นทางที่จะพาไปถึงจุดนั้น แต่เมื่อพูดถึงการลงทุน ในอดีตอาจดูเป็นเรื่องซับซ้อนและเข้าถึงยาก แต่ปัจจุบันในยุคดิจิทัล “แพลตฟอร์ม” และมี “คอนเทนต์การเงินการลงทุน” มากมาย ทำให้ใครๆ ก็เข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ง่ายขึ้น เรียนรู้และเริ่มต้นลงทุนได้ ประกอบมีตัวเลือกการลงทุนหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเงินทุน ความสามารถในการรับความเสี่ยง ระยะเวลา และเป้าหมายของแต่ละคน เพื่อสร้าง “Passive Income” ในระยะยาว
การเข้ามาของ “Webull Thailand” ภายใต้การจดทะเบียนในนาม บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด แพลตฟอร์มการลงทุนในเครือของ Webull Corporation จากสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการกระจายพอร์ตฯ การลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศที่มีศักยภาพ อย่าง “หุ้นอเมริกา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตลาดหุ้นใหญ่ที่สุดในโลก!
ซีรีส์ “EXECUTIVE PLAYBOOK” ตอนที่ 2 พาไปพูดคุยกับ “คุณชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด” ถึงเทรนด์การลงทุน พร้อมค้นคำตอบทำไมหุ้นอเมริกาถึงมาแรง และทำความรู้จักแพลตฟอร์มการลงทุน “Webull” ทั้งจุดเด่นของแพลตฟอร์ม, กลยุทธ์การตลาด และการใช้โซลูชันเพื่อธุรกิจของ LINE เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคไทย ดำเนินรายการโดย “คุณคิม–ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ” (Kim Property Live)
สำรวจเทรนด์การลงทุน
คุณชลเดช เริ่มต้นด้วยการพูดถึงรวมการลงทุนในวันนี้ ทั้งตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ การกระจายความเสี่ยง และการมาของเทคโนโลยี AI ไว้อย่างน่าสนใจว่า
– ตลาดหุ้นไทย: แม้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นไทยอาจไม่ปรับตัวมากนัก แต่ยังมีหลาย sector ที่ผลกำไรเติบโต ดังนั้นราคาหุ้นไทยที่ปรับลงมา เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะสมหุ้น หรือเก็บเงินปันผล
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โอกาสการเติบโต: สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ GDP ใหญ่สุดในโลก และเป็นแหล่งรวม “หุ้นเติบโต” (Growth Stock) เช่น หุ้นสาย Tech, AI, Health Tech และ “หุ้นคุณค่า” (Value Stock) ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ยังเป็นจุดหมายของบริษัทชั้นนำของโลกที่ต้องการ IPO
– การลงทุนไร้พรมแดน และกระจายความเสี่ยง: นักลงทุนไม่ควรลงทุนในหุ้นไทยอย่างเดียว แต่ควรมองการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น หุ้น Growth หรือกองทุนรวม ETF สหรัฐฯ เช่น ETF บนดัชนี S&P 500, บนดัชนี Nasdaq 100 หรือดัชนีบนหุ้นแต่ละภูมิภาค แต่ละประเทศ เป็นต้น
– เทรนด์ AI: สร้างการเปลี่ยนแปลงด้าน Productivity ที่ส่งผลกระทบในหลายกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเทคโนโลยี AI ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ และจีน
ทำความรู้จัก “Webull” แพลตฟอร์มการลงทุนจาก US
Webull โบรกเกอร์จากสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันดำเนินธุรกิจใน 14 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, เม็กซิโก, บราซิล, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, แอฟริกาใต้, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมาได้เปิดตัวในไทย เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของตลาดไทย ที่นักลงทุนไทยมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ และมีแนวโน้มลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากขึ้น
จุดเด่นที่ทำให้ Webull ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในไทย เช่น
– ข้อมูลราคาหุ้น Real-time: ทั้งข้อมูล Level 1 Quotes ที่แสดงราคาเสนอซื้อ & ราคาเสนอขาย จาก Stock Exchange 10 แห่งในอเมริกา และ Level 2 Quotes แสดง 50 อันดับราคาซื้อและขายดีที่สุด พร้อมนำเสนอรูปแบบกราฟิก ช่วยให้เห็นแรงซื้อและแรงขายได้อย่างชัดเจน
– เครื่องมือวิเคราะห์หุ้น: ให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์สามารถใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์หุ้น
– ฟีเจอร์เทรด 24 ชั่วโมง: ลูกค้าสามาถซื้อขายหุ้นได้ตลอดทั้งวัน ทั้งช่วงเวลาซื้อขายปกติของตลาดอเมริกา (9.30 – 16.00 น.), Pre-Market, Post-Market และ Overnight ผ่านกลไก Market Maker
– รองรับทุกสไตล์การลงทุน: ทั้งสายเทรด ได้รับรายงานราคาหุ้นแบบ Real-time และสายลงทุนระยะยาว มีฟีเจอร์ DCA แบบไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และฟีเจอร์ Dynamic DCA ระบบปรับจำนวนเงินลงทุนตามสภาวะตลาดให้กับนักลงทุน
– ฟีเจอร์ Dividend Reinvestment Plan: สามารถตั้งค่าให้นำเงินปันผลที่ได้รับ กลับไปซื้อหุ้นตัวเดิม หรือ ETF เดิมโดยอัตโนมัติ
ชูกลยุทธ์ “Localization” เข้าถึงคนไทย
ขณะที่กลยุทธ์การตลาดและการสื่อสาร เพื่อสร้างการรับรู้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคท้องถิ่นในทุกประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ “Webull”แต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน นั่นคือ แพลตฟอร์มและ ผลิตภัณฑ์-บริการมาจากบริษัทแม่ที่สหรัฐฯ แล้วนำมา Localize ให้เหมาะกับแต่ละประเทศ
ตัวอย่างกลยุทธ์ Localization “Webull ประเทศไทย” เช่น
– เชื่อมกับธนาคารในไทย
– สร้างสรรค์คอนเทนต์ และทำการตลาดเข้าถึงนักลงทุนไทย และผู้บริโภคไทย อาทิ
- แบรนด์ดิ้ง: สร้างการรับรู้ และความน่าเชื่อถือ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น สื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH Media), สื่อรถไฟฟ้า, แพลตฟอร์ม LINEรวมถึงสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจลูกค้า
- ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ: Webull เปิดกว้างในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลายราย เช่น มีโฆษณาแบนเนอร์บนช่องทางของพาร์ทเนอร์
- ร่วมกับ MONOMAX: เป็นสปอนเซอร์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย (Official Broadcast Sponsor) พร้อมทั้งทำโปรโมชั่นร่วมกัน
“เราทำการตลาดหลายอย่าง ทั้ง OOH, สปอนเซอร์กีฬา, ยิงโฆษณา เพราะถ้าคนเห็นเราเยอะ จะทำให้นักลงทุนรู้สึกมั่นใจและสบาบใจว่า Webull มีความน่าเชื่อถือ มีตัวตนจริง”
อยู่ใน Customer Journey ด้วยโซลูชันเพื่อธุรกิจจาก LINE
จากกลยุทธ์ Localization ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคไทย “Webull ประเทศไทย” จึงเลือกแพลตฟอร์ม LINE เป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญ ดังที่ คุณชลเดช ย้ำว่า “ถ้าไม่ใช้ LINE แล้วจะไปทำกับแพลตฟอร์มไหน” นั่นเพราะ LINE ไม่ได้เป็นแค่แอปพลิเคชันแชท แต่ยังมีโซลูชันสำหรับธุรกิจที่แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตลอดทั้ง Full-funnel
โซลูชันเพื่อธุรกิจของ LINE ที่ Webull ประเทศไทยใช้ในการเข้าไปอยู่ใน Journey ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
– LINE Ads: Webull ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE เพื่อสร้างแบรนด์ดิ้ง การรับรู้ และการมองเห็น (Brand Visibility) โดยสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อนำไปสู่ Conversion ให้คนไปที่ Landing Page
– LINE OpenChat: เข้าถึงกลุ่มผู้สนใจการเงินการลงทุนได้โดยตรง หรือเข้าไปอยู่ในกลุ่มฟุตบอล ในช่วงที่ Webull เป็นสปอนเซอร์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เพื่อนำเสนอโปรโมชั่น และทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
– LINE Today Wealth: หมวดเฉพาะภายใน LINE Today เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง ด้วยการนำเสนอข่าวสารทางการเงิน บทวิเคราะห์ ข้อมูลตลาดหุ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน Webull จึง takeover “Tab Wealth” โดยจะมีโลโก้ Webull ปรากฏอยู่ด้านบน Tab และโฆษณาขึ้นระหว่างฟีดคอนเทนต์
นอกจากนี้ยังอยู่ในฟีเจอร์ Rich Menu ของ “LINE Today Wealth Official Account” เพื่อให้ผู้ใช้งานกดเข้าไปดูเทรนด์หุ้น พร้อมอัปเดตข่าวการลงทุนและการเงินที่เชื่อมต่อไปยังหน้า LINE Today Wealth ได้ทันที
– เตรียมเปิดตัว LINE Official Account Webull: ศูนย์กลางรวมบริการ Webull ครบวงจร ครอบคลุมทั้งอัปเดตข้อมูลข่าวสารการลงทุน เช็คราคาหุ้น ตลอดจนเชื่อมต่อระบบบัญชี Webull กับ LINE OA
คุณชลเดช ฉายภาพถึงการนำแบรนด์เข้าไปอยู่ใน Journey ของลูกค้า เริ่มตั้งแต่ให้กลุ่มเป้าหมายเห็นแบรนด์ Webull ผ่านแบนเนอร์โฆษณาบนLINE ขณะเดียวกันอยู่ใน LINE OpenChat ที่เกี่ยวกับการเงินการลงทุน และกีฬา รวมทั้งอยู่ใน LINE Today และ LINE Today Wealth Official Account หลังจากนั้นพาผู้ใช้งานไปอยู่ใน LINE Official Account ของ Webull
“เราจะพาผู้ใช้งานไปอยู่ใน LINE Official Account เป็นช่องทางรับข้อมูลข่าวสาร สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ กับผู้ใช้งาน และอาจเปิดบัญชี Webull ผ่าน LINE Official Account เลยก็ได้ หรือคนที่มีบัญชี Webull แล้ว สามารถเชื่อมต่อ เพื่อเช็คพอร์ตหุ้น เช็คข้อมูลข่าวสาร เป็นแผนที่เราจะใช้ LINE Official Account ให้ครบลูป”
ในช่วงท้ายของการพูดคุยครั้งนี้ คุณชลเดช ได้ฝากทิ้งท้ายถึงการสร้างความมั่งคั่งในยุคนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า การลงทุนต้อง “เน้นวินัย” อาจเริ่มด้วยการลงทุนแบบ DCA ในหุ้นใหญ่ หรือ ETF ด้วยเงินเย็น หรือเงินจำนวนน้อย เพื่อได้เรียนรู้ และเมื่อรู้สึก “อิน” กับการลงทุนแล้ว เราจะหาความรู้และข้อมูล เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้น
“ถ้าเป็นรุ่นน้อง หรือคนเพิ่งเริ่มทำงาน ยิ่งเหมาะกับการลงทุน เพราะเวลาเราลงทุนด้วยเงินน้อยๆ อาจจะผิด หรือถูก พลาดไป ก็ยังเงินน้อย และเมื่อหน้าที่การงานก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เงินเดือนมากขึ้นเรื่อยๆ พอร์ตก็โตไปเรื่อยๆ เป็นการสร้าง Passive Income เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย และมีวินัย” คุณชลเดช สรุปทิ้งท้ายถึงความสำคัญของการลงทุน
