ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยมากมายที่ระบุถึงเหตุผลที่มาจากปัญหาราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้ผู้บริโภคลังเลที่จะใช้รถยนต์ EV เนื่องจากแบตเตอรี่มีราคาแพง
แต่ข้อมูลจาก Streelight Data ระบุว่า ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ EV นั่นก็คือ โลเคชั่นที่ติดตั้งแท่นชาร์จไฟ ซึ่งใน data ที่ทำการสำรวจผู้บิโภคในหลายประเทศที่มีการเติบโตในเรื่องการใช้รถยนต์ EV มากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้รถรู้ตำแหน่งของแท่นชาร์จไฟที่แน่นอน และเป็นโลเคชั่นที่สะดวกสบาย เข้าถึงง่าย
ในแง่ของ Mobility data ที่แยกเลเยอร์ออกไปเฉพาะการใช้รถยนต์ EV พบว่า ความสำคัญของจุดติดตั้งแท่นชาร์จไฟ ผู้บริโภคยกให้เป็นเรื่องที่กังวลอันดับต้นๆ รองลงมาจากค่าใช้จ่ายของแบตเตอรรี่รถ
ขณะที่ data ของ Streelight สามารถระบุตำแหน่งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว, คนใช้รถส่วนบุคคล ไปจนถึงคนขับรถบรรทุกในระยะทางที่ 100 – 200 ไมล์ (ประมาณ 160 – 321 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นระยะที่น่าสนใจสำหรับการติดตั้งแท่นชาร์จไฟ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Streelight ได้พูดว่า “การจัดลำดับความสำคัญขององค์ประกอบเหล่านี้ ตั้งแต่เรื่องราคา, ระยะทาง, จำนวนของจุดติดตั้งแท่นชาร์จ ไปจนถึง ราคาสำหรับการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องศึกษานอกเหนือจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะบางทีเราสามารถช่วยดีไซน์ความต้องการของผู้บริโภคได้ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไร”
“กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดในการจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ EV มากขึ้น คือ ดีไซน์ความต้องการของผู้บริโภค โดยต่อยอดจากพฤติกรรมในปัจจุบัน ลดช่องว่างของอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ให้ได้มากที่สุด นี่ถือว่าเป็นการ predict สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอย่างหนึ่ง ซึ่งธุรกิจไหนที่ kick off ได้ก่อน ธุรกิจนั้นก็จะได้เปรียบก่อนนั้นเอง”
ที่มา: fastcompany