เชื่อว่าหลายคนถูกคลิปสั้นตามแพล็ตฟอร์มต่างๆ ตกเอาอย่างงายดาย หลายครั้งที่เราใช้เวลาไปกับวิดีโอแบบสั้นต่างๆ เหล่านั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงทีเดียว
จากรายงานแนวโน้มการตลาดปี 2025 ของ HubSpot บอกว่า การเล่าเรื่องด้วยภาพ (visual storytelling) เป็นบรรทัดฐานใหม่ (new norm) และเนื้อหาวิดีโอแบบสั้น (Short-form video) ก้าวมามีบทบาทสำคัญ โดย 29.18% ของนักการตลาดระบุว่าเป็นรูปแบบที่ใช้มากที่สุด และ 21.02% ระบุว่าให้ ROI สูงสุด
แต่เพราะเหตุใดวิดีโอแบบสั้นจึงเป็นที่นิยม ปรากฏว่ามีเหตุผลบางประการ แล้วยังเป็นในเชิงจิตวิทยาด้วย ลองมาฟังกัน!
วิดีโอแบบสั้นคืออะไร?
หลายคนอาจจะรู้แล้ว แต่เพื่อให้เห็นภาพที่ตรงกัน สำหรับวิดีโอแบบสั้นคือ วิดีโอที่มีความยาวน้อยกว่า 60 วินาที อย่างไรก็ตาม นักการตลาดและผู้สร้างเนื้อหาบางคนยอมรับว่าวิดีโอแบบสั้นสามารถยาวได้นานถึง 3 นาที ก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม วิดีโอแบบสั้นจะให้ข้อมูลในรูปแบบขนาดพอดีคํา ที่ย่อยง่าย เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมและบุ๊กมาร์กเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว หากพวกเขากําลังเดินทางหรือดูหลายครั้ง
และหากคุณกําลังจะทําให้เนื้อหาของคุณยาวกว่า 60 วินาที ให้พยายามโหลดสิ่งสําคัญทั้งหมดไว้ช่วงต้นของวิดีโอ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชมจะเห็นสิ่งที่สําคัญที่สุด
ความสนใจหดตัว – ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัด
มีเหตุผลบางประการที่วิดีโอแบบสั้นเป็นที่นิยมมากกว่าที่เคยในหมู่ผู้บริโภคและนักการตลาด หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่หลายคนคิดตรงกันคือ “ช่วงความสนใจของผู้บริโภคกําลังหดตัวลง”
แม้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันเช่นกัน โดยบอกว่าเหตุผลสําคัญประการหนึ่งที่เราชอบวิดีโอแบบสั้นก็คือช่วงความสนใจของเราสั้นลงเรื่อยๆ
ดร. กลอเรีย มาร์ค นักจิตวิทยา เพิ่งเขียนหนังสือชื่อ Attention Span: A Groundbreaking Way to Restore Balance, Happiness, and Productivity และงานวิจัยของเธอบ่งชี้ว่า ช่วงความสนใจของผู้คนลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (ดร. มาร์ค ยังเผยแพร่การวิจัยของเธอใน Speaking of Psychology ซึ่งเป็นพอดคาสต์ของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน) การค้นพบของเธอมาจากการทดลองที่ยาวนานหลายปี ซึ่งดําเนินการครั้งแรกโดยการติดตามกิจกรรมของพวกเขาร่วมการทดลองผ่านนาฬิกาจับเวลา
รายงานระบุว่า ย้อนกลับไปในปี 2004 เราพบว่าช่วงความสนใจโดยเฉลี่ยบนหน้าจอใด ๆ อยู่ที่สองนาทีครึ่งโดยเฉลี่ย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันสั้นลง ดังนั้นประมาณปี 2012 เราพบว่ามันอยู่ที่ 75 วินาที
ดร. มาร์ค กล่าวว่าตัวเลขยังคงลดลง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากนั้นในช่วงห้าหกปีที่ผ่านมา เราพบว่ามีค่าเฉลี่ยประมาณ 47 วินาที และคนอื่นๆ ได้ทําซ้ําผลลัพธ์นี้ภายในไม่กี่วินาที ดังนั้นมันจึงดูเหมือนจะค่อนข้างชัดเจนในข้อสันนิษฐานดังกล่าว
และแนวโน้มของช่วงความสนใจที่ลดลงนี้ส่งผลต่อวิธีที่เราบริโภคเนื้อหา และไม่ได้พูดถึงแค่วิดีโอสั้นบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น แม้แต่เนื้อหาบนโทรทัศน์และภาพยนตร์ก็สั้นลงด้วย
มากไปกว่านั้นคือ ณ ตอนนี้ผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับเนื้อหาที่สั้นลงมากขึ้น และมันก็หลั่งไหลเข้าไปในประเภทของเนื้อหาที่เราบริโภคในรูปแบบที่หลากหลาย และสิ่งที่กําลังสร้างขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ การศึกษาพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะดูวิดีโอทั้งหมดก็ต่อเมื่อมีความยาวน้อยกว่า 60 วินาที จากนั้นคุณมีแอปเช่น TikTok, YouTube Shorts และ Instagram Reels ที่ส่งวิดีโอแบบสั้นไปยังผู้ใช้ในรูปแบบการเลื่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วทำไมมันถึงป๊อปนักล่ะ?
เนื้อหาแบบสั้นเหมาะอย่างยิ่งที่จะบริโภคได้ทุกที่ เพราะถ้าดูวิดีโอแบบเนื้อหายาวบนหน้าจอเล็กๆ แน่นอนว่ามันไม่ถนัดเท่าไหร่นัก ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนต้องการ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นวิดีโอสั้น ๆ นั้นดูง่ายขึ้น เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเวลาไม่กี่นาที ไม่ว่าคุณจะเลื่อนดูบนโซฟาในเวลากลางคืน หรือมีเวลาสองสามนาทีในขณะที่คุณขึ้นรถ หรือระหว่างรอรถติดนานๆ ฯลฯ มันง่ายและสะดวกมาก แค่เลื่อนไถ TikTok หรือ Reels ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับประสบการณ์มือถือ
มากไปกว่านั้น เนื้อหาส่วนใหญ่ของวิดีโอแบบสั้น ดึงดูดอารมณ์ ความอยากรู้อยากเห็น หรือบางครั้งก็กระตุกความรู้สึกทางจิตใจ
ง่ายต่อการแชร์หรือส่งต่อให้คนอื่น บ่อยครั้งทีเดียวที่เราดู Reel หรือ TikTok หรือ Youtube Shot แล้วแชร์ส่งต่อให้กับเพื่อนๆ โดยที่เราอาจจะไม่รู้สึกผิดมากนัก เพราะมันใช้เวลาแป๊ปเดียวก็ดูจบได้ และส่วนใหญ่มักจะเป็นวิดีโอสั้นที่มีเนื้อหาที่แต่ละคนมีร่วมกัน ซึ่งช่วงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันแบบไม่ต้องมี text เข้ามาช่วยสื่อสาร ประเด็นคือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลก เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ หรือช่วงเวลาที่สร้างแรงบันดาลใจ การส่งต่อวิดีโอสั้นให้เพื่อนเป็นเรื่องง่าย
ทำไม Brand ต้องสนใจการสร้างวิดีโอแบบสั้น ?
สำหรับเนื้อหาวิดีโอแบบสั้นสามารถเปลี่ยนความสามารถของแบรนด์ในการเชื่อมต่อกับผู้ชมได้อย่างไร มีหลายแบรนด์ใหม่ในปัจจุบันทีเดียว ที่หันมาทำวิดีโอสั้นอย่างจริงจัง และสามารถนำเสนอโปรดักส์ได้อย่างยอดเยี่ยมบน TikTok และ Instagram
จากข้อมูลของ HubSpot Research นักการตลาดวางแผนที่จะรักษาหรือเพิ่มการลงทุนในวิดีโอแบบสั้นในปีนี้ นอกจากนั้น 90.35% วางแผนที่จะทําเช่นเดียวกันกับการลงทุนวิดีโอโดยรวม นั่นเป็นเพราะเนื้อหาแบบขนาดพอดีคําเหล่านี้ กําลังกลายเป็นวัตถุดิบหลักในการตลาดสมัยใหม่
วิดีโอแบบสั้นมีความสําคัญมากขึ้นถึง 15% สําหรับนักการตลาดในปีที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาณใหญ่ที่ธุรกิจไม่สามารถเพิกเฉยต่อรูปแบบนี้ได้ ด้วยการกระตุ้นความสนใจของผู้คน คุณจะสามารถทําให้พวกเขาโต้ตอบกับเนื้อหาได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้นอื่นๆ วิดีโอแบบยาว หรือแม้แต่เนื้อหาประเภทอื่นๆ
6 เหตุผลสำคัญที่ Brand ควรหันมาทำวิดีโอสั้น
ต่อไปนี้คือเหตุผลอีก 6 ประการที่ทําให้แบรนด์และนักการตลาดต้องหันมาให้ความสำคัญกับวิดีโอสั้น
1.คุ้มค่าและสร้างได้ง่ายกว่าวิดีโอแบบยาว
นักการตลาดและครีเอเตอร์ต้องทํางานหนักเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วม นั่นหมายถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเนื้อหาด้วยช็อตแบบไดนามิก ดนตรีที่สร้างอารมณ์ และสคริปต์ที่ยาวแต่น่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องใช้เวลา ความพยายาม และ (ที่สําคัญที่สุด) ใช้เงินมากขึ้น
ปัจจุบันมี tools ด้าน MarTech มากมายที่ช่วยสร้างวิดีโอสั้นได้ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างวิดีโอคุณภาพสูงแบบกําหนดเองสําหรับธุรกิจของคุณในเวลาเพียงเสี้ยวเดียว วิดีโอแบบสั้นตรงประเด็นมากกว่า แล้วแถมในปัจจุนันการเน้นคุณภาพหรือความหรูหราไม่ต้องมีทมาก กลับมีประสิทธิภาพมากกว่าเสียอีก
ยกตัวอย่างเช่น TikTok ของ Duolingo แพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษามีผู้ติดตามมากกว่า 10.8 ล้านคน และเป็นหนึ่งในบัญชีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในแอป เนื่องจากวิดีโอที่สั้น ตลก และสร้างอารมณ์ร่วมได้ วิดีโอยอดนิยมมียอดดู 57.7 ล้านครั้ง และง่ายมากในแง่ของการทำ มีบางคลิปถ่ายด้วยสมาร์ทโฟอย่างชัดเจน โดยไม่มีมุมหรือแสงที่สวยงาม เพลงก็มาจากเพลงไวรัลที่มีอยู่แล้วผ่านคลังเสียง ง่ายมาก ราคาถูก แต่มีประสิทธิภาพมาก
2.แบรนด์สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าในระยะเวลาอันจำกัดได้
จากการสํารวจของ Adobe เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวอเมริกัน 2 ใน 5 ใช้ TikTok เป็นเครื่องมือค้นหา และเกือบ 1 ใน 10 Gen Z มีแนวโน้มที่จะพึ่งพา TikTok มากกว่า Google เป็นเครื่องมือค้นหา
ผู้คนใช้คลิปสั้นในการค้นหาเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สูตรอาหาร เรื่องงาน ครอบครัว งานอดิเรก และการพักผ่อน เมื่อเวลามีค่าวิดีโอแบบสั้นช่วยให้เราซึมซับข้อมูลที่เราต้องการได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที
3.สามารถรับชมได้เกือบทุกที่ทุกเวลา
ไม่ว่าเมื่อไหร่ จะบนรถไฟฟ้า หรือรถติดในรถยนต์ ก็สามารถไถ YouTube Shorts หรือ Instagram Reels บนโทรศัพท์ของคุณได้ แม้แต่ต้องการใช้เวลาพัก 5 นาทีระหว่างการประชุมเพื่อค้นหาว่าทําไมทุกคนถึงพูดถึงข่าวดราม่าล่าสุด ก็ยังเข้าไปค้นที่ TikTok ได้เช่นกัน
วิดีโอแบบสั้นนั้นง่ายต่อการรับชมเกือบทุกที่ทุกเวลาจากสมาร์ทโฟนของเรา
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สะดวกสําหรับผู้บริโภค แต่ยังช่วยนักการตลาดได้ เพราะหมายความว่าเราสามารถนําเนื้อหาของเรากลับมาใช้ใหม่บนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยรู้ว่ามีคนจะเห็นเนื้อหาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
4.เนื้อหาแต่ละชิ้นยืนหยัดด้วยตัวเอง (stands on its own)
วิดีโอแบบสั้นไม่จําเป็นต้องลงทุนในระยะยาว ดังนั้นจึงรู้สึกง่ายดายและปราศจากความเครียด ไม่จําเป็นต้องติดตามโครงเรื่องหรือจําไว้ว่าคุณค้างไว้ตรงไหน ผู้ชมสามารถคลิก ดู และดําเนินการต่อได้ตามต้องการ ในท้ายที่สุด เนื้อหาก็เข้าถึงได้มากขึ้น และประสบการณ์การรับชมก็เบาลงและเป็นอิสระมากขึ้น
ยิ่งเมื่อผู้คนค้นหาข้อมูลผ่านบนวิดีโอสั้น ก็ยิ่งยืนยันความเป็นอิสระที่คลิปสั้นสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ คุณสามารถแบ่งแนวคิดที่ใหญ่กว่าด้วยการแตกประเด็นมากมายออกเป็นเนื้อหาแบบสแตนด์อโลนที่เล็กลงได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
5.สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้ในทุกที่ที่พวกเขาอยู่
และยังมีอีกมุมมองที่น่าสนใจจาก Durga Kudumula หัวหน้าฝ่ายการตลาดเพื่อการเติบโตของ Designity ซึ่งระบุว่า “เชื่อว่าช่วงความสนใจของผู้บริโภคจะหดตัวลงเมื่อพูดถึงเนื้อหาที่ผู้ชมไม่ได้แสวงหาอย่างแข็งขัน เนื้อหาแบบยาวยังคงเติบโตเมื่อสอดคล้องกับความสนใจหรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ทว่า อย่างไรก็ตาม หากคุณกําลังแข่งขันกันเพื่อเรียกร้องความสนใจในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน วิดีโอแบบสั้นก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องความกระชับเท่านั้น มันเกี่ยวกับการพบปะกับผู้ชมในที่ที่พวกเขาอยู่ ไม่ว่าพวกเขาต้องการความบันเทิง หรือการศึกษา หรือทั้งสองอย่าง”
ในฐานะผู้บริโภค เรายินดีที่จะลงทุนเวลาในสิ่งที่เราสนใจและแสวงหาอย่างแข็งขัน แต่นั่นคือจุดที่การตลาดวิดีโอแบบสั้นนั้นยอดเยี่ยมมาก
Kudumula อธิบายปรากฏการณ์นี้เพิ่มเติมว่า มันคือกุญแจสําคัญ คือการเข้าใจช่วงเวลา เมื่อผู้ชมกําลังเลื่อนดู พวกเขามักจะมองหาเสียงหัวเราะอย่างรวดเร็ว วิดีโอแบบสั้นมีความเป็นเลิศในเรื่องนี้ เป็นวิธีที่รวดเร็วและคุ้มค่าสําหรับแบรนด์ในการสร้างความประทับใจในขณะที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมและ Conversion และคงความเกี่ยวข้องระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคได้
6.เนื้อหาที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ (Human-driven content) มีความสําคัญมากขึ้น
AI กําลังเปลี่ยนวิธีที่เราค้นหาและสร้างเนื้อหามากขึ้นในปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันผู้คนกําลังมองหาเนื้อหาที่เห็นได้ชัดว่าสร้างขึ้นโดยมนุษย์คนอื่น พูดเพื่อตัวเอง เพราะมันรู้สึกจริงใจและน่าเชื่อถือมากกว่า
Ivan Venberg หัวหน้าฝ่ายเนื้อหาของ Yango Ads เห็นด้วยว่า สิ่งที่สําคัญคือคนจริง (โลกของเนื้อหาที่สร้างโดย AI ดูเหมือนจะอยู่ใกล้มาก) ดังนั้น สําหรับวัตถุประสงค์ด้านผลิตภัณฑ์และเป้าหมยทางการตลาด วิดีโอสั้น ๆ ที่มีคนจริงน่าจะทํางานได้ดี แต่ AI ก็ยังสามารถใช้เพื่อช่วยให้คุณเร่งด้านความเร็วได้เช่นกัน
วิดีโอสั้นกลายเป็นหัวใจของกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ เพราะสามารถดึงดูดความสนใจผู้ชมได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที เหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชอบเนื้อหากระชับ เข้าถึงง่าย และแชร์ต่อได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วม (engagement) และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (brand awareness) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok, Reels และ YouTube Shorts ซึ่งกำลังกลายเป็นพื้นที่แข่งขันของแบรนด์ทั่วโลกในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ “สั้น กระชับ แต่ทรงพลัง” เพราะฉะนั้นแล้วแบรนด์และนักการตลาดไม่ควรมองข้ามและเพิ่มความสำคัญในการทำคอนเทนต์แบบคลิปสั้นอย่างต่อเนื่อง บนความคิดสร้างสรรค์และการเข้าถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด.
Source: