Google เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลงโฆษณาสำหรับการทำแคมเปญทางการตลาดที่ได้ผลดี แต่อาจมี Painpoint บางอย่างเช่นการตั้งค่าค่อนข้างยาก รวมไปถึงข้อมูลหลายอย่างที่ต้องใส่ไมว่าจะเป็น รูปภาพ ข้อความ คำบรรยาย รวมถึงวิดีโอ หลากหลายแบบเพื่อที่จะใช้นำไปแสดงผลในช่องทางต่างๆของ Google ไม่ว่าจะเป็น Google Search, Shopping, YouTube, Gmail, หรือ Google Map เป็นต้น นั่นจึงทำให้ Google เลือกที่จะนำ Generative AI เข้ามาช่วยให้นักการตลาดสามารถทำแคมเปญทางการตลาดกับ Google ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Product Studio
หนึ่งใน painpoint สำหรับสำหรับคนขายของออนไลน์ก็คือ “ภาพสินค้า” ที่เป็นจุดสำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจสินค้าหรือแม้แต่เข้ามาซื้อสินค้ากับแบรนด์ของเรา แต่ในอีกแง่การถ่ายภาพสินค้าก็ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากเช่นกัน
ดังนั้น Google จึงเปิดตัวฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Product Studio ที่เข้าถึงได้ผ่าน Merchant Center Next (ฟังก์ชั่นที่พัฒนาต่อมาจาก Google Merchat Center) ขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักการตลาดหรือเจ้าของร้านค้าสามารถปรับแต่งรูปภาพเช่นลบหรือเพิ่มพื้นหลัง หรือแม้แต่เพิ่มความละเอียดให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้นได้ และที่สำคัญฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ตัวอย่างการเปลี่ยนภาพพื้นหลังสินค้าสกินแคร์ให้ตรงตามฤดูกาล ด้วย Promt “Search, Display, Shopping, YouTube, Discovery, Gmail, และ Google Map”
- ตัวอย่างการลบภาพพื้นหลังที่ไม่ต้องการออกให้เหลือแต่เป็นพื้นหลังสีขาว
- ตัวอย่างการเพิ่มความละเอียดของภาพสินค้าให้คมชัดมากขึ้น
สำหรับ Product Studio ที่จะมีให้ใช้ใน Merchant Center Next จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มใช้กันก่อนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก่อนที่จะขยายไปในประเทศอื่นๆทั่วโลกต่อไป
Merchant Center Next
อีกหนึ่งส่ิงที่พัฒนาขึ้นก็คือ Merchant Center ฟังก์ชั่นสำหรับการสร้าง Shoping Ads ที่แสดงผลเป็นรูปของสินค้าพร้อมราคา และเว็บไซต์ปลายทาง แสดงผลได้โดดเด่นมากๆในหน้าผลลัพท์การค้นหาของ Google โดยจะพัฒนาโดยใช้พลังของ AI เข้ามาช่วยเป็นระบบใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้นเรียกว่า Merchant Center Next ที่ AI จะเรียนรู้ข้อมูลจาก link landing page จากร้านของเราไปสร้างเป็นภาพสินค้า ราคา คำอธิบายสินค้า โดยอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการทำงานลงได้มาก และนอกจากนี้ยังมีการรายงาน insight ให้ติดตาม performance การขายได้สะดวกมากขึ้นด้วย
เริ่มออกใช้บ้างแล้วกับผู้ใช้งานใหม่และจะค่อยๆอัพเดทระบบให้กับธรุกิจขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้และเตรียมที่จะขยายออกใช้ไปทั่วโลกในปี 2024 โดยผู้ใช้ง่านจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อระบบพร้อมที่จะใช้ในเวลานั้น
Google Ads กับพลัง AI
Google Ads เป็นอีกฟังก์ชั่นที่ร้านค้าและนักการตลาดใช้สำหรับการสื่อสารแคมเปญออกไปสู่กลุ่มเป้าหมายผ่าน Search Ads ที่เราเห็นคุ้นตาในหน้าเพจค้นหาของ Google แต่ละครั้งและฟีเจอร์นี้ Google AI ก็จะเข้าามีบทบาทอีกเช่นกันในการดึงข้อมูลจาก landing page ไปสร้างเป็น Keyword, headline, description, ภาพปรกอบ และส่วนประกอบอื่นๆให้โดยอัตโนมัติ และสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ผ่าน promt แบบ Chat เหมือนกับการคุยกับเพื่อนร่วมงานทางด้านซ้ายมือ และสามารถแก้ไขได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นนี้จะช่วยลดเวลาในการทำงานไปได้มากเลยทีเดียว
นอกจากนี้พลังของ Generative AI ยังจะนำมาใช้ในการพัฒนาระบบ automatically created asset (ACA) ที่ทาง Google เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วให้มีความสามารถมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนเนื้อหาไปตามคำค้น ให้ headline มีความใกล้เคียงกับคำค้นหามากขึ้นและจะช่วยดึงดูดความสนใจ และทำให้แคมเปญทางการตลาดประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์มากขึ้นได้
AI เสริมพลัง Performance Max
สำหรับฟังก์ชั่นโฆษณาที่ทำงานผ่าน Performance Max ที่ช่วยให้บริหารจัดการโฆษณาในทุกๆช่องทางของ Google ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นก็ถูกเชื่อมต่อเข้ากับ Google AI ด้วยเช่นกันให้สามารถบริหารจัดการ assets ได้ง่ายรวดเร็วขึ้น และสามารถขยายเนื้อหาเหล่านั้นไปใช้ได้ในหลายๆรูปแบบรวมไปถึงการใช้ AI สร้างภาพใหม่เพื่อนำมาใช้ในการโฆษณาในช่องทางต่างๆ และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นด้วย
ทั้งหมดนี้คือฟังก์ชั่นหลักๆของการทำโฆษณาบน Google ที่พัฒนามากขึ้นโดยใช้พลังของ AI เข้ามาช่วย นอกเหนือไปจากความสามารถอันน่าตื่นตาตื่นใจของ AI ที่ Google เปิดเผยออกมาผ่านงาน Google I/O ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ค้นหา การแสดงผลโฆษณาเปลี่ยนแปลงไปรวมไปถึง การผนวกรวม AI เข้าไปใน Ecosystem ของ Google ที่น่าจะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันกันพัฒนา AI ในปัจจุบันก็ว่าได้ และนั่นก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ใช้งานอย่างเราในการติดตามความสามารถของ AI ที่จะพัฒนาไปอย่างคาดไม่ถึงนับจากนี้เช่นกัน
