ทุกวันนี้แบรนด์ใช้โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดและการสื่อสารหลัก พร้อมทั้งช่วงชิงพื้นที่หน้าฟีด เพื่อให้ได้ ยอดไลก์, ยอดแชร์ และยอดวิว ทว่าปัจจุบันหลายแบรนด์เริ่มตั้งคำถามแล้วว่ายอด Engagement ที่เกิดขึ้นนั้น นำมาสู่ผลลัพธ์ “ยอดขาย” ได้จริงมากน้อยเพียงใด ?!? ยิ่งในยุคการแข่งขันสูง และเศรษฐกิจไม่แน่นอน แน่นอนว่าแบรนด์ที่มียอดขายแข็งแกร่ง ย่อมอยู่รอดและไปต่อได้
นี่จึงทำให้หลายแบรนด์หันมาทบทวนถึงกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างการเติบโตด้านยอดขาย ซึ่งนั่นคือ กลยุทธ์ “O2O Campaign” (Online to Offline Campaign) สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ไปพร้อมกับยอดขายธุรกิจ
รู้จักกลยุทธ์ “O2O Campaign” และสำคัญต่อการตลาดยุคนี้อย่างไร ?
O2O Campaign คือ กลยุทธ์แคมเปญการตลาดที่เชื่อมต่อประสบการณ์ลูกค้าจากออนไลน์ เช่น ช่องทางโซเชียลมีเดีย, แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ สู่ออฟไลน์ เช่น การชมสินค้าจริงที่ร้าน, การเข้าร่วมกิจกรรมที่แบรนด์จัดขึ้น นำไปสู่ผลลัพธ์ด้านยอดขาย
อันที่จริงกลยุทธ์ O2O เป็นที่พูดถึงมาสักพักแล้ว แต่เหตุผลที่นับวันกลยุทธ์นี้จึงมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารและการทำตลาดมากขึ้น นั่นเพราะด้วยไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่ได้อยู่เฉพาะโลกออนไลน์ หรือออฟไลน์อย่างเดียว แต่ผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่ทั้งบนออนไลน์ และออฟไลน์ ดังนั้นการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และสร้างประสบการณ์ด้านแบรนด์ จำเป็นอย่างยิ่งที่แบรนด์ต้องมีตัวตนทั้งบนออนไลน์ และออฟไลน์ ที่สำคัญต้องเชื่อมต่อการสร้างประสบการณ์ลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ
IdeasLabs ผู้นำด้าน MarTech Solution ฉายภาพสถิติพฤติกรรมผู้บริโภคสนับสนุน O2O เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่น
– 78% ของผู้บริโภคชาวไทย ค้นหาโปรโมชันออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อหน้าร้าน
– 63% ของแบรนด์ ต้องการโซลูชันที่วัดผล Return on Marketing Investment (ROMI) ได้แบบเรียลไทม์
3 องค์ประกอบเบื้องหลังความสำเร็จกลยุทธ์ O2O
การทำ O2O ให้ได้ผลสำเร็จ ต้องมีองค์ประกอบที่ชัดเจน 3 อย่างดังนี้
1. Content ที่ใช่
สร้างแรงดึงดูดและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์/สินค้าให้เกิดขึ้นตั้งแต่บนโลกออนไลน์ ผ่านการใช้ Publisher, KOL หรือ Social Media
2, Data ที่แม่นยำ
เก็บข้อมูลพฤติกรรมการคลิกและการแลกรับสิทธิ์ เพื่อวิเคราะห์ความสนใจของผู้บริโภค
3, Conversion ที่ใช้ได้จริง
มอบสิทธิพิเศษที่สามารถนำไปใช้ได้ ณ จุดขาย เช่น QR Code หรือ LINE Coupon
“ในช่วง ปี 2024 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจำนวนลูกค้าจาก Online–to-Offline (O2O) Campaign เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าและบริการที่ต้องการผลลัพธ์แบบจับต้องได้ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), กลุ่มความงาม (Beauty) และ กลุ่ม Lifestyle ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มตั้งคำถามว่า “ยอดวิว” และ “ยอดไลก์” ยังเพียงพอหรือไม่ในการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ ทำให้กลยุทธ์ “O2O Campaign” ก้าวขึ้นมาเป็นเทรนด์สำคัญที่กำลังมาแรงในวงการการตลาดไทย” คุณธนดล พิทยานุวัฒน์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอเดียแล็บ จำกัด (IdeasLabs) ฉายภาพถึงแนวโน้มของกลยุทธ์ O2O Campaign
3 ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ดูคอนเทนต์ไวรัล
จากตัวอย่างแคมเปญ O2O ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ต้องการเนื้อหาที่น่าสนใจ หรือคอนเทนต์ที่เป็นไวรัล หรือกระแสเท่านั้น แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันอยากได้สิทธิพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ที่ใช้ได้จริง และสามารถใช้สิทธิ์นั้นได้ใกล้บ้าน
– ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและโปร่งใสจากแบรนด์
– สิทธิพิเศษที่จับต้องได้
– ความสะดวกในการใช้สิทธิพิเศษจากแคมเปญ เช่น การรับโปรโมชันผ่าน LINE Coupon หรือ QR Code เพื่อใช้ได้จริงที่ร้านค้าใกล้บ้าน
#MilkTeaCampaign ตัวอย่างความสำเร็จจากแคมเปญ O2O
หนึ่งในแคมเปญที่สร้างขึ้นจริงและประสบความสำเร็จอย่าง “Milk Tea Campaign” ที่ร่วมมือกับแบรนด์ชานมกว่า 10 เจ้า ซึ่ง IdeasLabs ได้ใช้กลยุทธ์การสร้างเทรนด์ O2O ให้ประสบความสำเร็จผ่านเพจ Prohub Promotion และเพจ Cafe Story x ติดเล่า ช่องทางออนไลน์ที่เน้นคอนเทนต์จริง เรียลไทม์ จับต้องได้ ไม่ใช่รีวิวไวรัล แต่ให้ข้อมูลโปร่งใส ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น:
– แคมเปญนี้เข้าถึงผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคน ทั่วประเทศ
– ยอดขายแบรนด์ชานมที่เป็นพาร์ทเนอร์เข้าร่วมแคมเปญนี้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20%
– LINE OA ของ Prohub Promotion มีผู้ติดตามกว่า 30,000 คนที่แลกสิทธิพิเศษและนำไปใช้ที่ร้านขานมที่ร่วมแคมเปญ
– Cafe Story x ติดเล่า สามารถเพิ่ม Engagement เพิ่มได้กว่า 768% พร้อมกับมียอด Walk-in conversion เข้าร่วมกิจกรรม 100%
“IdeasLabs ได้ใช้กลยุทธ์การสร้างเทรนด์ O2O ให้ประสบความสำเร็จผ่านเพจ Prohub Promotion และเพจ Cafe Story x ติดเล่า ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์ที่เน้นคอนเทนต์จริง เรียลไทม์ จับต้องได้ ไม่ใช่รีวิวไวรัล แต่ให้ข้อมูลโปร่งใส ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ชัดว่า O2O Campaign ช่วยให้แบรนด์เพิ่มยอดขายได้จริงในช่วง 15-30% ต่อแคมเปญ พร้อมสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคซ้ำในระยะยาว
O2O Campaign จึงไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือหัวใจของการตลาดที่วัดผลได้ ตอบโจทย์ลูกค้าที่มองไกลกว่าการมองเห็น แต่สร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่งผลลัพธ์ที่วัดผลได้”
สำหรับในปี 2025 IdeasLabs เตรียมเดินหน้ากับแคมเปญใหม่ เช่น Rina Check-In (กลุ่ม Beauty / Travel) และ CafeHubbing (กลุ่ม Lifestyle) ที่เน้นคอนเทนต์พร้อมใช้จริง ณ จุดขาย โดยคาดว่าธุรกิจครึ่งปีหลัง ยอดลูกค้าที่เลือกใช้บริการ O2O Campaign จะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 35%