ใครที่พอรู้ว่า อัลกอริธึ่มของ “Facebook” จะทำให้เราได้เห็นโพสต์คอนเทนต์ที่เราไป “Engage” หรือไลค์ คอมเมนต์ แชร์บ่อยๆ ยิ่ง Engage บ่อย โพสต์ของเพจนั้นก็โผล่มาให้เราเห็นเรื่อยๆ มันก็ดีนะ เราจะได้เห็นแต่สิ่งที่เราสนใจอย่างเดียว
แต่นั่นแหละที่มันรู้สึกว่า “ไม่ใช่” และนี่คือสองเหตุผลดีๆที่อัลกอริธึ่มของ “Facebook” พลาด
1. มันจำกัดเราอยู่ในกลุ่มที่เราสนใจเท่านั้น
ก็ในเมื่อ Facebook โชว์แต่เรื่องที่เราสนใจ Facebook ก็จะแนะนำกลุ่มเพื่อนที่สนใจเรื่องเดียวกับเรา ใน New Feed ก็เต็มไปด้วยเรื่องที่เราสนใจเท่านั้น เราก็ยิ่งคุ้นเคยกับเรื่องที่เราชอบอย่างเดียว นั่นแหละที่ Facebook กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา เราก็จะอยู่แต่กลุ่มนั้น สนใจแต่เรื่องแบบนั้น เราก็จะถูกแยกออกจากเพื่อนที่ไม่ได้สนใจในเรื่องที่เราสนใจและห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
2. “Engagement” มันก็แค่ตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราไม่ได้กดไลค์ คอมเมนท์ แชร์ในเรื่องที่เราชอบอย่างเดียว แต่เป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้เราด้วยไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม อุบัติเหตุ สงคราม การก่อการร้าย ยิ่งเราไป Engage กับมันมาก Facebook ก็ยิ่งให้เนื้อหาทำนองนี้ให้เราเห็นมากขึ้น เรายิ่งได้เห็นคอนเทนต์ในแง่ร้าย Facebook กลับส่งเสริมเนื้อหาแบบนี้โดยไม่รู้ตัว ไม่เว้นแต่ข่าวปลอมและเนื้อหาที่แบ่งขั้วทางการเมืองด้วย
ซึ่งปัญหานี้เป็นหาของการนำเสนอข่าวมาตั้งแต่ยุคโทรทัศน์แล้ว
Facebook อาจจะนำเสนอเนื้อหาที่สนองโจทย์ของแต่ละคนได้ดีก็จริง แต่ “Engagement” มันก็แค่ตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง เรา Engage เนื้อหาแบบไหนมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย เผลอๆกลับทำให้เรารู้สึกแย่ลงด้วยซ้ำ ดังนั้นแบรนด์ของเราจะต้องช่วยกันเลี่ยงการทำคอนเทนต์ที่ส่งเสริมอารมณ์ในแง่ลบกับสาวกของแบรนด์
มิฉะนั้นในระยะยาวแล้วอารมณ์ของชุมชนออนไลน์นี่แหละจะส่งผลเสียต่อแบรนด์เช่นกัน
แหล่งที่มา