Brilliant & Million เอเจนซี่ Youngster พลังของคนรุ่นใหม่ กับรางวัล Agency of the Year 4 ปีซ้อน

  • 35
  •  
  •  
  •  
  •  

B&M Hili

Brilliant & Million ดิจิทัลเอเจนซี่สัญชาติไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Digital Agency of the Year จาก นิตยสาร Campaign Asia Pacific ถึง 3 ปีติดต่อกัน และล่าสุดยังคว้ารางวัล Thailand Independent Agency of the Year อยู่ในวงการงานโฆษณาบนสื่อดิจิทัลมาแล้วถึง 8  ปี  มีผลงานออกมามากมายและเป็นที่วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายแบรนด์

แต่ Brilliant & Million กลับเลือกที่จะอยู่อย่างเก็บตัว ไม่มีข่าวอะไรออกมาให้หวือหวามากนัก ทำให้คนในวงการได้ยินแต่ชื่อแต่ยังไม่เคยได้สัมผัสหรือรู้จักจริงๆ ซึ่งวันนี้ Marketing Oops! จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ คุณโศรดา ศรประสิทธิ์หรือ “พี่จุ๊” ผู้อยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของ Brilliant & Million เอเจนซี่แห่งนี้กันเลย

B&M 1

จุดสตาร์ทของ Brilliant & Million

“คุณโศรดา ศรประสิทธิ์” หรือ “พี่จุ๊” ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการบริษัท Brilliant & Million เล่าว่า เธอเริ่มจากการทำงานสายการตลาดทำให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มาก่อน แล้วก็เริ่มมีความชอบในงานมาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปี 2551 ก็เริ่มเห็นว่าทิศทางของงานดิจิทัลเริ่มเติบโตมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง

จากจุดเริ่มต้นแค่เพียงคน 5 คน ก็ได้มีการต่อยอดธุรกิจมาเรื่อยๆ ซึ่งก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายแบรนด์ จนปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 100 คนแล้ว ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดที่รวดเร็วของเราในระยะเวลาแค่ 8 ปี

ลูกค้าและการให้บริการของ Brilliant & Million

ลูกค้าที่เราดูแลอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจประเภท FMCG ประมาณ 70% ส่วนอีก 30% ที่เหลือเป็น Banking และ Telecommunication ซึ่งส่วนใหญ่ทำสัญญากันเป็นปีทั้งหมด

สำหรับการบริการของเรานั้นจะเป็นแบบทำงานร่วมไปกับลูกค้าตลอดเวลา โดยหลักๆ เราจะดูแลในส่วนของดิจิทัล เช่น ทำงานร่วมกับ customer service, crisis management และยังมีงานด้านแคมเปญอื่นๆ หรืองานอีเว้นท์ อาจจะด้วยความที่ทีมงาน เป็นคนรุ่นใหม่หมด จึงชอบท้าทายตัวเองด้วยการลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เราได้ปรับตัวเองให้เป็น Integrated servicesซึ่ง ถือเป็นการพัฒนาและปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลา

B&M 2

ทีมงานหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรง กับการปลูกฝังเรื่องจริยธรรมและวินัย

แม้จะมีพนักงานกว่า 100 คน แต่อายุโดยเฉลี่ยกลับอยู่ที่ 25 ปีเท่านั้น ซึ่ง “พี่จุ๊” ได้เล่าถึงแรงผลักดันที่สำคัญ ที่ได้คัดเลือกแต่ทีมเด็กรุ่นใหม่เสียส่วนใหญ่ มากกว่าที่จะใช้วิธีดึงคนเก่งมีฝีมือมากประสบการณ์มาร่วมงานด้วย โดยไอเดียเริ่มต้น จากการที่มองเด็กๆ แล้วมีความรู้สึกว่าเราอยากเอาประสบการณ์เอาความรู้ที่มีมาสอนพวกเขา

พี่จุ๊ เผยว่า ส่วนตัวแล้วต้องการให้กับสังคมได้บ้าง เพราะเด็กจบใหม่ก็เหมือนไม้หนึ่งที่สามารถปลูกฝังทั้งในด้านจริยธรรมและวิธีคิด Thinking Framework ให้ได้ง่ายกว่า เพราะว่าเราไม่ได้สอนเขาแค่เนื้องานหรือให้ทำงานตามหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเน้นเรื่องการสอน จริยธรรมเพราะว่าการทำงานดิจิทัล เอเจนซี่ มันเป็นอะไรที่โกงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง data หรือ stat อีกเรื่องคือ เรื่องการทำงานเป็นทีม งานเอเจนซี่นี่ไม่มีงานไหนเลยที่ทำคนเดียว เราควรนึกถึงการทำงานร่วมกับคนอื่นให้มาก

เคล็ดลับในการทำงานกับกลุ่มคน Millennial

แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น “พี่จุ๊” เล่าว่า ก็มีบ้างที่บางคนอาจจะรู้สึกไม่พอใจกับแนวทางของเรา เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอ่านใจเขาให้ออก อย่างเวลาที่จะดุก็ต้องดุอย่างมีเหตุผล ซึ่งสุดท้ายมันก็จะพิสูจน์ในตอนท้ายเองว่าสิ่งที่เราเตือนไปนั้นจริงหรือไม่ ที่สำคัญคือเราพูดกับเขาด้วยความจริงใจ

ส่วนในพาร์ทของการทำงานนั้น “พี่จุ๊” ระบุว่า จะมีกติกาว่าเวลาที่เราได้แอคเคาท์มาทุกคนที่ทำงานกับแอคเคาท์นั้นๆ จะต้องนั่งทำงานร่วมกัน พร้อมกับระบุ job description ของแต่ละคนอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือ งานทุกชิ้นที่ทำจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร คือจะไม่มีการสั่งงานหรือส่งงานกันแบบลอยๆ ทำให้การทำงานเป็นระบบ ส่งต่องานได้ง่าย

B&M 3

จุดแข็งของ Brilliant & Million ที่ทำให้ลูกค้ารัก

พี่จุ๊ ตอบอย่างไม่ลังเลว่า สิ่งที่เรามีเสมอเลยก็คือ “ความยืดหยุ่น” Flexibility ด้วยความที่เราทำงานด้านดิจิทัล ดังนั้น ทุกอย่างไปอย่างเร็วมาก เราจึงต้องปรับตัวให้ทัน ซึ่งเรามีให้ด้วยเหตุและผล เพื่อให้ลูกค้าขับเคลื่อนได้อย่างว่องไว ถ้าลูกค้าอยากจะปรับอะไรก็สามารถคุยกับเราได้

นอกจากนี้ก็คือ “ความซื่อสัตย์” , “ความโปร่งใส” และ “ความตรงไปตรงมา” ต่อให้ทำงานพลาดยังไง เราก็จะขอบอกลูกค้าตรงๆ ว่าทำงานพลาด จะไม่โยนไปโยนมา นี่คือสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับเรา ซึ่งทำให้ลูกค้าไว้วางใจใน B&M ตลอดมา

เทรนด์มาแรงที่ได้รับการร้องขอจากลูกค้าในขณะนี้

จากประสบการณ์ที่สั่งสม และการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้ามาตลอด “คุณจุ๊” ระบุว่า มันคือ Social Listening ซึ่งเป็นเสียงหรือความต้องการหรือฟีดแบ็คของผู้บริโภคที่มีการแชร์และส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ บนโลกออนไลน์ มีอะไรที่สามารถเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้บ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีอยู่มหาศาลแต่มีความจำเป็นสำหรับนักการตลาดอย่างมาก

แต่สิ่งที่สำคัญคือการรับฟังความต้องการของลูกค้าก่อน แล้วค่อยมาปรับใช้ในแผนการตลาด ก่อนที่จะนำไป roll out ให้ถูกต้อง แต่สิ่งหนึ่งที่ตนชอบมากในการใช้ Social Listening ก็คือการทำงานโดยผูกกับทีม customer service แล้วเราก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เลย จนสามารถ convert เขากลายมาเป็นลูกค้าที่ Loyalty ได้

B&M 4

มุมมองและคำแนะนำในการแก้ปัญหาวิกฤตใน Social Media

ในทุกๆ วันและทุกๆ นาทีสามารถเกิดวิกฤตบนโซเชียล มีเดียได้ ดังนั้น สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ อยากให้แบรนด์หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของการทำความเข้าใจ หรือลำดับขั้น (Stage) ของการจัดการ Crisis Management ให้ได้

อย่างแรกเลยต้องรู้ว่าเหตุเกิดที่ไหน แล้วใครคือ Key Influencer ระดับความรุนแรง มากขนาดไหน อยู่ใน area ของเราหรือไม่ เมื่อเราทราบสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมดแล้ว ต้องมีอีกทีมหนึ่งจะต้องไปปรึกษากับแบรนด์ว่า จะให้แก้ปัญหาออกมาในทิศทางไหน เช่น เลือกที่จะเงียบหรือออกมาชี้แจง หากเลือกที่จะชี้แจงก็ต้องตัดสินใจด้วยว่าว่าจะให้ออกไปในพ้อยท์ไหน ซึ่งเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปในทิศทางไหน ทางผู้บริหารก็ต้องมีการเตรียมการตั้งรับให้ดีด้วย

B&M 5

ความภูมิใจกับรางวัล Agency of the Year 4 ปีซ้อน

“พี่จุ๊” กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า ก็เป็นความภูมิใจของ B&M อย่างมากที่ได้รางวัลมา นั่นเป็นเพราะส่วนหนึ่งเราพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง กับรางวัลตรงนี้นั้นเราก็ไม่ได้แข่งกับใครแต่แข่งกับตัวเอง และยืนยันที่จะรักษามาตรฐานตรงนี้ไว้

และที่ข้ามไม่ได้เลยคือ รางวัลที่ได้มาไม่ใช่เพราะบริษัทอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องขอบคุณไปถึงลูกค้าทุกท่านด้วยที่ไว้วางใจในทีมงานของ B&M ซึ่งทุกวันนี้ก็ทำให้บริษัทของเราเติบโตมาได้ และเรียกได้ว่าโตแบบดับเบิ้ล ไซส์ เลยทีเดียว

“เราดีใจเสมอนะคะที่เราได้รางวัล แต่เราก็คิดเสมอว่าทุกรางวัลที่เราได้ คือความสำเร็จของลูกค้าด้วย และเรายังคงตั้งมั่นที่จะทำงานให้ดีที่สุด และนอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่มีความตั้งใจมากและจะแน่วแน่ต่อไปก็คือ การเป็นสถาบันที่จะผลิตคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความสามารถและได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังๆ มากมายให้เราได้ร่วมงานด้วย” 

B&M 6

ตบท้ายด้วยสาเหตุที่เลือก “เป็ด” เป็นมาสคอต

พี่จุ๊ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า คือคิดว่าเราน่าจะมีมาสคอตนะ แต่เป็นอะไรดี ก็มีน้องคนหนึ่งบอกว่า เป็น “เป็ด” ล่ะกัน เพราะเป็ดบินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ ทำได้หมดทุกอย่างเหมือนพวกเรานี่ล่ะ คือ Duck can fly, duck can swim แล้วถ้ามีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมที่ Brilliant & Million ก็จะพบว่ามีสัญลักษณ์อะไรเกี่ยวกับเป็ดเต็มไปหมดเลย

“สุดท้ายที่อยากจะฝากก็คือ อยากให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงได้ทำงานกัน ที่สำคัญคือให้ความเชื่อใจ และให้งานที่ท้าทายแก่พวกเขา แล้วสิ่งเหล่านี้จะส่งเขาไปได้ดี”

ได้ฟังทั้งหมดนี้แล้ว คงพอเห็นภาพแล้วว่าอะไรที่ทำให้ทีม Young Generation ของ Brilliant & Million ผลิตผลงานที่ดีออกมา จนประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องแบบนี้ รวมถึงวิสัยทัศน์ มุมมอง และแง่คิดการบริหารงานคนรุ่นใหม่ของขุ่นแม่จุ๊ ที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นตัวอย่างการบริหารทีมงานคนรุ่นใหม่ให้กับอีกหลายๆบริษัทได้เป็นอย่างดี และถ้าต้องการทำความรู้จักกับ Brilliant & Million มากขึ้นสามารถคลิกเข้าไปดูผลงานด้านอื่นๆ ของเขาได้เลยที่ www.brilliantmillion.com


  • 35
  •  
  •  
  •  
  •