Endorsed Marketing แค่ทำตามกัน หรือทำแบบมีหลักการ? ทำ Endorsed Marketing แบบนี้ซิถึงจะเวิร์ค

  • 25.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

aia-1

ปัจจุบันวิธีการทำการตลาดของหลายธุรกิจเปลี่ยนไป ปัจจัยสำคัญมาจากพฤติกรรมผู้บริโภค ทุกวันนี้ผู้บริโภคไม่ชอบการยัดเยียดขายสินค้า หรือฮาร์ดเซลเกินไป ในทางตรงกันข้าม ผู้บริโภคชอบให้แบรนด์แสดงความจริงใจ นำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความสนใจของตัวเอง การทำตลาดในยุคนี้จึงนิยมใช้วิธีการเล่าเรื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่าย และรู้สึกว่าแบรนด์นั้น ๆ Engage กับตัวเอง

และเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น นักการตลาดส่วนใหญ่จึงเลือกใช้กลยุทธ์ Endorsed Marketing ในการทำการตลาด โดยจะช่วยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทำตลาดผ่าน Endorsement หรือที่หลาย ๆคนเรียกว่า Influencer อาทิ ดารา นักแสดง เซเลบริตี้ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและคล้อยตาม

ทั้งนี้ การใช้ Endorsed Marketing มีหลากหลายรูปแบบ บางองค์กรอาจแค่ต้องการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยใช้คนกลุ่มนี้ถือสินค้า แล้วบอกว่าสินค้านี้ดีอย่างไร ในความเป็นจริง ผู้บริโภคไม่ทางรู้เลยว่าพวกเขาใช้สินค้าจริงหรือเปล่า เผลอ ๆ คำบรรยายใต้ภาพอาจไม่ได้คิดเองด้วยซ้ำ

สำหรับใครที่ยังมองภาพไม่ออก ลองศึกษาการทำตลาดของบริษัทประกันชั้นนำอย่าง เอไอเอ ประเทศไทย ที่เพิ่งเปิดตัว โครงการ AIA Vitality โปรแกรมดูแลสุขภาพแนวใหม่ ที่กระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และยังเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงรายเดียวที่มอบส่วนลดเบี้ยประกัน พร้อมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าตั้งแต่ปีแรก ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการประกันชีวิตในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และเพื่อเสริมให้โครงการแข็งแกร่งขึ้น ในการเปิดตัวโครงการ เอไอเอ ได้เลือกใช้กลยุทธ์การทำตลาดด้วย Endorsed Marketing ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ โดยใช้หลักการ 3 ข้อง่าย ๆ ที่นักการตลาด หรือแบรนด์ควรรู้และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้

1) เลือก Influencer ที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ใช่แค่ยอด Followers สูง ๆ

เพื่อเสริมให้โครงการแข็งแกร่งขึ้น เอไอเอ ได้ร่วมมือกับ 3 Influencer รักสุขภาพมาร่วมโปรโมทโครงการ ได้แก่ นาวิน ต้าร์ เยาวพลกุล, กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ และพล ตัณฑเสถียร ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ ที่ดูแลและใส่ใจสุขภาพตัวเอง ทั้งการออกกำลังกาย และการเลือกรับประทานอาหาร ทำให้พวกเขากลายเป็นไอดอลด้านการดูแลตัวเองที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ

aia-2

2) เน้นการให้ความรู้ ไม่ฮาร์ดเซล และไม่ยัดเยียดคอนเทนต์

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ผู้บริโภคชอบให้แบรนด์แสดงความจริงใจ การเลือกใช้ Influencer ของเอไอเอ จึงไม่ใช่แค่การถือป้ายแล้วถ่ายรูป ซึ่งทั้ง 3 คน ก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ ดังกล่าว โดย นาวิน ต้าร์ เยาวพลกุล เล่าว่า “การดูแลสุขภาพ การออกกำลัง การเล่นกีฬา จนมาถึงการเป็นนักวิ่งมาราธอนและการเล่นไตรกีฬา เป็นเส้นทางที่ทำให้ผมได้ค้นพบศักยภาพที่มีอยู่ของตัวเอง ผมเชื่อว่ามนุษย์เรา หากทำอะไรด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจย่อมประสบความสำเร็จได้ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่มีตัวช่วยอย่างโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ทำให้สนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น”

ด้าน กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ เผยถึงการดูแลตัวเองในสไตล์ของเธอว่า “การจะทำให้ชีวิตมีความสุขทั้งกายและใจ ทุกอย่างต้องมาพร้อมกัน คือ ต้องสร้างสมดุลชีวิต ในเรื่องการออกกำลังกาย และการพักผ่อนด้วยกิจกรรมที่ทำให้มีความสุข โดยส่วนตัวกิจกรรมที่ชอบมากที่สุดคือ การเดินทางท่องเที่ยว เพราะได้เห็นสถานที่ใหม่ ๆ ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป ซึ่งสำหรับสิทธิพิเศษที่ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ มอบให้ค่อนข้างตอบโจทย์การไลฟ์สไตล์ตัวเอง ทั้งส่วนลดสมาชิกโยคะที่แอ๊ปโซลูท ยู ส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินทั้งแอร์ เอเชีย และเอมิเรตส์ สูงสุด 50% โรงแรมที่พักในเครือแมริออท โดยรวมแล้วโครงการนี้มีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากดูแลตัวเองมากขึ้น”

ปิดท้ายด้วย เชฟพล ตัณฑเสถียร กูรูการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพกล่าวว่า “สุขภาพดีเป็นสิ่งที่เราเลือกได้ด้วยตัวเอง จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เลือกกิน ดังนั้น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์จึงมีผลต่อสุขภาพของตัวเองมาก ๆ เพราะร่างกายจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต การมีโครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้ จึงส่งผลดีต่อตัวคุณโดยตรง เพราะจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยหันมาสนใจสุขภาพ และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินมากขึ้น โดยมีพันธมิตรอีกหลายรายที่ร่วมมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกในโครงการ รวมถึงส่วนลด 15% เมื่อซื้อผักและผลไม้ในท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต”

ทั้งหมดนี้ แสดงถึงว่าการจะมีสุขภาพดีในระยะยาวได้นั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องเริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเราเองและทำอย่างสม่ำเสมอ

3) ย้ำ! ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่ต้องเลือก Influencer ที่เหมาะสม เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสื่อสารออกมาได้ชัดเจนที่สุด

ทั้งนี้ การเลือกใช้ Influencer ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่เหมาะสม และสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน อย่างเอไอเอ การเลือกใช้ Influencer ที่เป็นไอดอลเรื่องการดูแลตัวเอง มาเป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องสุขภาพ และเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการโปรโมทโครงการฯ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในด้านคุณภาพของคอนเทนต์ที่สื่อสารออกไป ฐานผู้ติดตามของ Influencer รายนั้น ๆ รวมถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์

สำหรับภาพรวมของโครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้ เป็นโครงการที่กระตุ้นให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น การทำการตลาดด้วย Endorsed Marketing โดยใช้ Influencer ที่เป็นต้นแบบในการดูแลสุขภาพมาเป็นสื่อกลางในการโปรโมท ทำให้โครงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และสร้างการมีส่วนร่วมกับสมาชิกของเอไอเอได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่การตอบสนองเชิงรุก ที่สนับสนุนให้สมาชิกสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ด้วยจำนวนพันธมิตรที่เข้าร่วมมากมาย การสะสมคะแนนที่ล้อไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเป็นแรงกระตุ้นให้สมาชิกใส่ใจในสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

ในขณะเดียวกัน โครงการนี้ยังจะช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจประกันภัยและเสริมความแข็งแกร่งในฐานะบริษัทประกันชั้นนำที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคน สอดคล้องกับสโลแกนของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ที่ว่า ‘สุขภาพดี คุณกำหนดเอง’

สำหรับผู้สนใจอยากเริ่มต้นมีสุขภาพที่ดีขึ้นกับ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.aiavitality.co.th 


  • 25.2K
  •  
  •  
  •  
  •