ศิรเดช โทณวณิก ทายาทอาณาจักรดุสิตธานี แบบฉบับคน Gen M.

  • 81
  •  
  •  
  •  
  •  

Image_e1137e2

รู้สึกไหมว่า ผู้คนรอบๆ ข้างของเราทุกวันนี้ ท่องเที่ยวมากขึ้น เดินทางกันมากขึ้น

อาจจะเป็นเพราะไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป ตามโลกและข่าวสาร ที่รับรู้ถึงกันได้รวดเร็วตามเทคโนโลยีที่ล้ำขึ้นทุกวัน

การเดินทางท่องเที่ยวที่มากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เติบโตมากขึ้นไปด้วย เช่น ธุรกิจสายการบิน โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร มีกิจกรรมและคอนเทนท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน การรีวิวที่กินที่เที่ยวในโลกโซเชียล นำเสนอคอนเทนท์ด้านท่องเที่ยว ในสื่อทุกช่องทาง ทีวีทุกช่องต้องมีรายการพากิน พาเที่ยว มีสอนวิธีทำครัว แนะนำอาหารสุขภาพ ฯลฯ

ขณะที่ธุรกิจโรงแรมของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กำลังอยู่ในช่วงการเติบโตที่สำคัญ

ปัจจุบันดุสิตธานี บริหารโรงแรมทั้งหมด 27 แห่ง รวม 4 แบรนด์ และมีโรงแรมที่กำลังจะเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 70 แห่งทั่วโลกใน 3-4 ปี ข้างหน้า

Web

การเดินหน้าขยายการเติบโตของธุรกิจหลัก  ด้วยการเปิดตัวกลุ่มโรงแรมใหม่ ภายใต้ชื่อ “อาศัย” (ASAI) ถือเป็นมิติใหม่ และเป็นแนวรุกจับตลาดท่องเที่ยวแนวใหม่ ที่กำลังเป็นกลุ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าสนใจ

นั่นคือกลุ่มนักเดินทาง ที่มองหาประสบการณ์ แตกต่างไปจากกรอบแนวคิดเดิมๆ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละบุคคล มีไลฟ์สไตล์แบบ Millennium ชื่นชอบการเดินทาง ใช้ชีวิตไม่ยึดติดกับกรอบแบบเดิมๆ มองหาประสบการณ์เที่ยว แบบคนในท้องถิ่น

ช่องทางใหม่ในการเพิ่มรายได้ กลุ่มดุสิตธานี จะใช้ ASAI เป็นแบรนด์หลักเจาะเข้าไปยังกลุ่มใหม่ดังกล่าว และ ASAI จะถูกส่งต่อถึงมือเจน 3 หลานย่า และหลานชายคนโต ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย อย่าง “ศิรเดช โทณวณิก

“คุณแชมป์” ศิรเดช ปีนี้มีอายุครบ 32 ปี และมีน้องสาว 2 คน ของคุณชนินทธ์ โทณวณิก Vice Chairman & Chairman of the Executive Committee ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เติบโตใช้ชีวิตในต่างประเทศ ทำอาหารกินเอง ทำงานพิเศษ หาเงินจากการเป็นบาร์เทนเดอร์ ขัดห้องน้ำ ทำงานที่โค้ก แมคโดนัลด์ และเป็นวาณิชธนกิจ ฯลฯ

เขาชอบเดินทางท่องเที่ยวจนเป็นนิสัย บุกบั่นไปทุกที่ ตอนอายุ 17-18 ก็ออกท่องเที่ยว สไตล์แบ็คแพ็ค จองตั๋วเครื่องบินเอง นอนตามโฮสเทล ไม่ได้อยู่โรงแรมหรู ชอบธรรมชาติ จนมีประสบการณ์ และนำกลับมาใช้ในธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ที่กำลังเกิดเป็นแนวทางใหม่

ยิ่งรูปแบบการให้บริการของกลุ่มโรงแรม ASAI ที่เขาต้องเป็นผู้บริหารจะเป็น “รูปแบบ” ที่แตกต่างออกไป จากกรอบการบริหารโรงแรมในรูปแบบเดิมๆ

Image_ebcd84a

และยิ่งทุกวันนี้ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่ได้ถูกแบ่งตามหลักประชากรศาสตร์เสมอไป ความซับซ้อนและความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ ลึก มาก และหลากหลาย ทำให้โปร์ดักส์ประเภทโรงแรมห้องพักเปลี่ยนแปลงไปตามการใช้ชีวิต ตัวอย่างการเกิดขึ้นของโมเดลธุรกิจในโลกโซเชียลมีเดียอย่าง “Sharing Economy” สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจนี้ ที่ต้องปรับตัวมากขึ้น

MarketingOOps! ถือโอกาสนัดพบทายาทหนุ่ม Generation 3 แห่งอาณาจักรดุสิตธานี ธุรกิจโรงแรมเบอร์ต้นของเมืองไทย และเก่าแก่ระดับตำนานกว่า 65 ปีกับศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการบริษัท อาศัย โฮลดิ้ง จำกัด ที่เข้าใจสไตล์ท่องเที่ยวแบบ Enjoy Experience มากที่สุดคนหนึ่ง เพราะตัวเองก็เป็นนักเดินทาง ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวแบบหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อฟังวิธีคิด ไอเดียธุรกิจ ตามแบบฉบับของคนยุค Gen M.

สมุย ASAI Tropical ในประเทศแห่งแรก

ASAI ที่พักคอนเซ็ปต์ใหม่ของดุสิตธานี ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัวเมื่องสองเดือนก่อน รวมทั้งกำลังมองหาดีลใหม่ๆ เพื่อไปเปิดเพิ่มที่ต่างประเทศ จากเดิมที่ประกาศว่าจะเปิด 6 แห่งในปีนี้

ซึ่งโครงการที่เป็นแฟล็กชิพของ ASAI จะอยู่ที่ สาธร ซอย 12 ซึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างขอ EIA (การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) โดยเป็นการลงทุนเองของกลุ่มดุสิต พื้นที่ 208 ตารางวา มี 106 ห้อง ที่จอดรถ 35 คัน เตรียมเปิดให้บริการในปี 2562

ASAI Hotels was launched by Dusit's executives on 3 April 2018. (2)

คุณศิรเดช กล่าวว่า ตอนนี้กำลังหาดีลเพิ่ม จาก 6 แห่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ ล่าสุดจะเป็นโครงการ ASAI Tropical บนเกาะสมุย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Resort Residence โดยอยู่ระหว่างคัดเลือกที่ดิน ทำดีล รวมขั้นตอนแล้วน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนครึ่ง

“จริงๆ แล้วคอนแซ็ปต์นี้ถูกใช้กับโปรเจคที่เซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เป็น ASAI ที่แรกที่เป็น Resort Destination ในต่างประเทศ สมุยก็จะเป็นที่แรกในประเทศที่เราลงทุนเองในสไตล์ ASAI Tropical ขนาด 180 ห้องบนที่ดินประมาณ 8 ไร่เศษ แถวๆ หาดแม่น้ำ อยู่ติดชายหาดเลย ASAI Tropical คอนเซ็ปต์ห้องจะใหญ่กว่า ASAI สาธร” ”

ซึ่งจริงๆ แล้วจิตวิญญาณของ ASAI ในเมือง  ห้องจะกระทัดรัด เล็กลงหน่อย (ประมาณ 16 ตารางเมตร) คนที่มาในเมือง จะใช้เวลาอยู่ในห้องน้อย อยู่ไม่นาน ส่วนใหญ่มาติดต่องานบ้าง เป็น Thailand Traveler ท่องเที่ยวทั่วๆ ไป อยากไป Explore ไปกินอาหาร ไปบาร์ดึกๆ”

IMG_4476

“แต่ที่สมุย เราคิดว่าคนจะไปพักผ่อน จะใช้เวลาอยู่ในห้องเยอะกว่า ห้องจึงน่าจะใหญ่กว่า กลายเป็นประมาณ 20-22 ตารางเมตรไม่เกินนี้ ห้องนอนจะเป็น balcony ด้วย แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เล็กกระทัดรัดอยู่”

“แน่นอนปัจจัยสำคัญของ ASAI ในแง่จิตวิญญาณ เราจะเน้น Public Area ให้มีแอคทิวิตี้ ทั้งการเล่นโยคะ การนั่งสมาธิ มีไลฟ์สไตล์เรื่องของสุขภาพ มีสระว่ายน้ำ บีชบาร์ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญของคนเดินทางรุ่นใหม่ๆ จากปกติ ASAI ที่อยู่ในเมืองจะไม่มีสระว่ายน้ำเลย” คุณศิรเดชกล่าว

ซึ่ง ASAI ในต่างประเทศ จะอยู่ในเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยจะเริ่ม 2-3 โปรเจคควบคู่กันไป เช่น ที่ญี่ปุ่น รวมทั้งก่อนปลายปีนี้อาจจะมีข่าวดีออกมาอีก 2-3 โปรเจค

IMG_4478

“ความต้องการของตลาดไปทางไหน เราก็สร้างตามนั้น จากการศึกษาทั้งแอคทิวิตี้ คนมาชอบทำอะไร สมุยมีความเป็นการพักผ่อนเชิงสุขภาพ มีรีสอร์ทเปิดค่อนข้างมาก แต่ปกติการท่องเที่ยวตามเกาะบ้านเราอาจจะมีปาร์ตี้บ้าง มี Cheap Tourism บ้าง ในสายตาคนข้างนอก”

“แต่อิมเมจสำหรับสมุยอาจแยกออกไป บางกอกแอร์เวยเป็นโมโนโปลี การเข้าออกอาจจต้องใช้เงินค่อนข้างเยอะ แพงกว่าเกาะอื่น ไฟล์ของสมุยอาจแพงกว่าสองสามเท่า กลุ่มตลาดก็อาจสูงขึ้นมาหน่อย ซึ่งเข้าท่ากับสิ่งที่เราจะทำอยู่ ปีนี้ถ้าดีไซน์ได้ถึง 4 โปรเจค เป้าหมายโรงแรม 10 แห่งในปีนี้ ก็คงเป็นไปตามนี้ได้”

ASAI ยังมองที่เชียงใหม่ เพราะเป็นเมืองเกตเวย์ ซิติ ของประเทศ มีทั้งวัฒนธรรม อาหารอร่อย มีธรรมชาติ รวมทั้งแสงสีเสียงสำหรับคนรุ่นใหม่ในยามค่ำคืน ในแง่ Enjoy Experience ทำอะไรได้ค่อนข้างเยอะ เป็นเมืองที่เข้ากับคอนเซ็ปต์แบรนด์ ASAI มาก ถ้ามีโอกาส ASAI ก็อยากไปทำเพราะเข้ากับสไตล์คอนเซ็ปต์คือ ไม่จำเป็นต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่

IMG_4483

“ของเราอยู่ที่ 200 ตารางวา ก็ใส่ได้ 106 ห้อง แถมพร้อมกับที่จอดรถอีก 35 คันด้วย”

ดีไซน์ ไดเร็กชั่น ของ ASAI คือ ทำทุกอย่างให้กระทัดรัด บางอย่างถ้าสะดวก มันอาจไม่สบาย แต่ ASAI จะได้ทั้ง 2 อย่าง ได้ทั้งประโยชน์ใช้สอย และได้ทั้งรความสะดวกสบาย ไม่ใช่ได้อย่างหนึ่งแล้วเสียอย่างหนึ่ง

ASAI กับ โฮสเทล

กว่าจะออกมาเป็น ASAI คุณศิรเดชและทีมจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเพื่อ Design Thinking เนื้อหาของโรงแรมคอนเซ็ปต์ใหม่ ประติดประต่อเป็นรูปเป็นร่างให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ของ ASAI มากที่สุด แน่นอนว่า มีลิสต์รายชื่อโรงแรมและโฮสเทลหลายแห่งอยู่ใน Research และเป็นเป้าหมายที่ต้องไปค้นหา Inspiration

แต่เมื่อถามว่าอยากไปแข่งขันในตลาดนี้ไหม คุณศิรเดชตอบว่า ไม่อยากแข่งขันตรงนั้น การเป็นครอบครัวในธุรกิจกิจโรงแรม ทำให้รู้จักโรงแรมดีที่สุด ถึงอย่างไรโรงแรมต้องมี ความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย รวมทั้งประสิทธิภาพบริการต้องมีอยู่แล้ว

“แนวทางของโฮสเทลสามารถนำมาใช้ได้กับโรงแรม โดยเฉพาะที่ใน ASAI ทำได้ค่อนข้างเต็มที่เราเรียนรู้จากโฮสเทลว่าส่วนไหนจะดึงมาเติมกับ ASAI ได้บ้าง”

“หนึ่งในนั้นคือในแง่ Public Area โฮลเทลจะเป็นแพลทฟอร์ม ที่ทำให้คนหลายๆ คนที่อยู่ในโฮสเทลมารวมตัวกัน ในคอฟฟี่ช็อป บาร์ ร้านอาหาร ให้คนมาอยู่พูดคุยเรื่องราวการเดินทาง เรื่องนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเดินทางของคนรุ่นใหม่ เค้าต้องการเรียนรู้ พูดคุยแลกเปลี่ยน แชร์ไอเดีย เราจะไปดึง Transform มาอยู่ในโรงแรมได้ยังไง”

IMG_4492

“เราเลยดีไซน์ Public Area ของเรา เป็นไอเดียเพื่อให้ออกมาตอบสนองให้เกิดการเรียนรู้ รวมทั้งโรงแรมที่มาก่อนเรา เช่น แบรนด์ใหม่ Joe & Joe ที่คล้ายกับโฮสเทล หรือทาง Accor ที่มีแบรนด์ Mama Shelter ซึ่งเป็นเทรนด์ที่คาดว่าจะมาแรงในภายภาคหน้า เป็นโฮลเทลที่ใส่ดีไซน์ มีแอดติวิตี้ ดูใหม่ และดู freshy มากกว่า”

ในประเทศไทยเอง ที่พักแนวโฮสเทลก็มีการอัพตัวเองขึ้นมา เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เจ๋งๆ มีเยอะ แถวสุขุมวิท ข้างในมีร้านกาแฟ เบียร์บาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เบียร์บาร์ที่อยู่ใต้โฮลเทล คุณภาพมักไม่ดี แต่ที่สุขุมวิทคุณภาพของเบียร์ ขึ้นชั้นนานาชาติ และทุกอย่างเป็นเบียร์สดทั้งหมด

IMG_4500

“คนเช็คอินเป็นแนวอาร์ตติส คนครีเอทีฟ เพราะจะมี co-working space ด้วย เราชอบในแง่ของเอ็นเนอร์ยี่ เบียร์บาร์ ร้านอาหาร ดนตรี คนเดินเข้าเดินออก สร้างแอคทิวิตี้ตลอดเวลา Lively ดี เป็นคอมมูนิตี้ ซึ่งการสร้างค่อนข้างสำคัญ ปัจจัยสำคัญคือ เราต้องการสร้างคอมมูนิตี้ของ neighborhood ที่เราอยู่ อันนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากที่สุด”

“เราอยากจะหาเซ็กเมนต์ที่เรายังไม่เคยมีอยู่ด้วย ดุสิตจะเป็นฟูลเซอร์วิส เป็นในแง่ของลักชัวรี่ Traditional Hotel ต้องมีสปา  เป็นอีกตลาดหนึ่ง แต่เราอยากจะหาสิ่งที่เราอาจจะไม่เคยได้ทำมาก่อน และก็ได้เรียนรู้ไปกับมันด้วย ในแง่ Millennial หรือ Millennial Mindset เป็นเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างใหญ่มากที่สุด ไม่กี่ปีข้างหน้าจำนวนจะอยู่ที่เศษหนึ่งส่วนสามของอินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลของทั่วโลก”

IMG_4497

“เป็นตลาดซึ่งค่อนข้างสำคัญ เราจะดีไซน์คอนเซ็บต์ ดีไซน์บิซิเนสโมเดลยังไง ให้ตอบสนองกับตลาดที่จะไปตรงนี้ด้วย เป็นตลาดที่ค่อนข้างน่าสนใจมากที่สุด ตลาดที่ very dynamics  ค่อนข้างเปลี่ยนใหม่ตลอดเวลา เราไม่จำเป็นต้องเราต้องซัพพลายทุกอย่างเอง เหมือน Traditional Hotel เช่น อาหาร บาร์ สปา หรืออะไรหลายๆ อย่าง”

มุ่ง Sharing Economy

การนำประสบการณ์ Collab กับคนภายนอก เข้ามาหนุนกับสิ่งที่ทำอยู่ ซึ่งเป็นแนวความคิดของคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับคุณศิรเดช เพราะสามารถนำประสบการณ์ที่ได้ สร้างแวร์ลูสำหรับลูกค้า เป็น Dynamic ที่ค่อนข้างน่าสนใจ

K Champ2

“สำหรับผมดีมากที่จะได้เรียนรู้จากคนอื่น เช่น เราลองไปทำกับเชฟที่มีชื่อเสียง ฝีมือดี ที่อยู่ข้างนอก เราได้เรียนรู้จากคนอื่น อะไร ที่เราไม่ต้องทำเอง เราก็ไปทำกับคนอื่น และเรียนรู้กับคนอื่น มีแต่บวกกับบวก เราไม่รู้ว่า เรารู้อะไร เพราะฉนั้น ถ้าเราได้ทำกับคนอื่น ไม่ใช่แค่สร้างแวร์ลูให้กับแขกของเรา แต่จะเป็น Learning Curve ของเราด้วย ตรงนี้เป็นปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับ Dynamic ของการทำโรงแรมแบบนี้เหมือนกัน และมันทำให้ชีวิตประจำวันของผม น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย”

“เช่นเรานำกาแฟจากชาวเขามาใช้ เราได้เรียนรู้โปรเซสของการแบ่งปันให้คอมมูนิตี้ ทำให้ ASAI ก็มีจิตวิญญาณ ซึ่งสำหรับผมมัน very meaning full มากเลย เราไม่ได้ดูแค่ท็อปไลน์อย่างเดียว แต่เราใส่ความ creativity เข้าไป ใส่ความเป็นคอมมูนิตี้เข้าไป ไม่ใช่แค่ลูกค้าอย่างเดียว แต่เป็นคอมมูนิตี้ของซพพลายเออร์ของเราด้วย พยายามหาอะไรที่เป็นออร์แกนิค หาอะไรที่ค่อนข้างดีกับสังคม ดีกับสภาพแวดล้อม อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม”

K Champ1

แนวความคิดดังกล่าวเขาเชื่อว่า จะกลายเป็นแวร์ลูสำหรับผู้เข้าใช้บริการ ในแง่ของความคิด guest ไม่ได้มาเป็นแค่แขกผู้เข้าพักอาศัย แต่เขาจะมามีส่วนร่วมในการเข้ามาอยู่ใน Supply chain ของการสร้างระบบนิเวศ ที่ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ทำให้สภาพแวล้อมสมบูรณ์มากขึ้น ช่วยสังคมให้มบูรณ์มากขึ้น ทุกอย่างจะเป็นวัฎจักรของเรื่องนี้

“ซึ่งผมคิดว่าเป็นคอนเซ็ปต์ซึ่งน่าสนใจ ทำให้เรามีคุณค่า และสนุกกับมัน”

“แต่เราไม่ได้กำหนดว่า คุณต้องมาเรียนรู้นะ ว่าเราทำสิ่งนี้นะ ความยั่งยืนจะเป็นเรื่องของการกำหนด หรือบังคับให้คนทำไม่ได้ ที่เราทำไปเพราะอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม โดยที่ไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำว่าเขาทำอยู่ เพราะเราทำให้เขาแล้ว ให้เขามาใช้บริการ ให้เขามีความสุข เมื่อเขาได้มาเรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา และตัวเขาเองด้วย มันไม่ได้เป็นอะไรที่เราต้องมานั่งติดป้ายไว้ด้วยซ้ำ”

Superior quality beds & high pressure rain showers come as standard at ASAI (1)

ASAI จึงถูกดีไซน์ให้เป็นโรงแรมประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลาสติกให้มากขึ้น จำกัด food waste ให้ดีขึ้น ทำโดยแขกไม่ต้องรู้ก็ได้ ถ้าอยากถามก็ดี อยากเรียนรู้ยิ่งดี ASAI จะมีคำตอบให้ได้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีป้ายกำกับ ว่าพวกเราต้องช่วยโลกกันยังไง เพราะเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องทำกันอยู่แล้ว

“ลองนึกถึงแปรงสีฟันที่เราใช้กันตอนอายุสองสามขวบ ตอนนี้เราอายุเท่านี้ แปรงเหล่านั้น ตอนนี้มันยังอยู่ที่ไหนซักที่หนึ่งในโลกนี้ เราใช้กันมาสามสิบสี่สิบปี ตอนนี้มันไม่ไปไหน พลาสติกเป็นร้อยปีมันยังอยู่ที่ไหนของโลก ด้ามนี่ยังใช้ได้อยู่มัน amazing มาก”

A typical ASAI guest room (1)

จาก Full Service Hotel สู่ Flashpacker

คุณศิรเดชในฐานะเอ็มดีของ อาศัย โฮลดิ้งส์ ที่เป็นบริษัทย่อยของ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จะทำหน้าที่ดูแลและบริหารกลุ่มโรงแรม ASAI แบรนด์โรงแรมใหม่ ที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักเดินทาง ที่มองหาประสบการณ์เที่ยวกินแบบคนท้องถิ่นแท้ๆ ตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก

ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรมและด้านการศึกษา ของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ดูแลทางด้านการค้นหาโอกาสและพัฒนาธุรกิจ รวมไปถึงการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการเมือง (Economic and Political Development) จากมหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ (University of Exeter) ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ 2550 ก่อนร่วมงานกับดุสิต เคยร่วมงานกับสถาบันการเงินและบริหารสินทรัพย์ในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ (Trinity  Securities) ในตำแหน่งนักวิเคราะห์และผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน

เคยร่วมงานกับเอชเอสบีซี ประเทศไทย ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ดูแลการจัดการทางการเงินของลูกค้าในกลุ่มเอชเอสบีซี พรีเมียร์

A. HUB-the mixed-use space where guests & locals can eat, work & play (1)

การเข้าสู่ตลาดกลุ่ม Millennium ที่จะเป็น guest ที่มีอิทธิพลกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก จากที่ทำตลาด Full Service Hotel มาสู่กลุ่ม Flashpacker ที่เป็นนักเดินทางกลุ่มใหม่ ที่แสวงหาประสบการณ์คุณภาพ ซึ่งคาดว่าในปี 2020 จะมีการเดินทางจากปัจจุบันที่ 190 ล้านทริปต่อปี เป็น 320 ล้านทริปต่อปีจากการคาดการณ์ของ World Travel Market (WTM) มีการใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต และแชร์เรื่องราวความชอบผ่านโซเชียลมีเดีย

ไลฟ์สไตล์ที่เกิดขึ้นจะอยู่ระหว่าง การเดินทางทำงาน ติดต่อธุรกิจ กับการ Enjoy Experience สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยว ทั้งด้านการกิน การใช้ชีวิต ช้อปปิ้ง ทำงานไปด้วย ท่องเที่ยวไปด้วย

ตามแบบฉบับคน Gen M. เช่นเดียวกับคุณแชมป์-ศิรเดช โทณวณิก

IMG_4558


  • 81
  •  
  •  
  •  
  •