หนึ่งในเครื่องดื่มที่มีวัฒนธรรมมายาวนานนับพันปี และดื่มกันมากที่สุดในโลกคือ “ชา” ที่ต่อมาได้มีนวัตกรรมมากมาย ทั้งส่วนผสม กรรมวิธีการชง รสชาติ เกิดเป็นเมนูเครื่องดื่มชาหลากหลาย เพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัย และไลฟ์สไตล์ของผู้คน
ด้วยความมุ่งมั่นอยากเผยแพร่ “วัฒนธรรมชาจีนพรีเมียมในรูปแบบใหม่” ด้วยการใช้ใบชาแท้คุณภาพพรีเมียม ร่วมกับวัตถุดิบสดหลายชนิด สร้างสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มชาร่วมสมัย นี่จึงเป็นที่มาของการถือกำเนิดแบรนด์เครื่องดื่มชาจีนรูปแบบใหม่ “CHAGEE” (ชาจี) ร้านชาต้นตำรับจากยูนนานในปี 2017 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นร้านชาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ถึงปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 สาขาทั่วเอเชีย โดยล่าสุดได้มาเปิดสาขาที่ไทยแล้ว! นำร่อง 2 สาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสยามสแควร์ ซอย 1 พร้อมส่งมอบประสบการณ์ “ชาสด ชาดี ชาจี” ให้กับผู้บริโภคชาวไทย
ตามดูพัฒนาการตลาดเครื่องดื่มชา จากยุค 1.0 – 3.0
ตลาดเครื่องดื่มชา และร้านชา (Tea House) ในช่วงกว่า 20 – 30 ปีมานี้ มีพัฒนาการสำคัญแบ่งออกเป็น 3 ยุคหลักคือ
– ยุค 1.0 ช่วงปี 1990’s – 2000’s เป็นยุคขยายตัวของเครื่องดื่มชาที่ใช้ส่วนผสมสำเร็จรูป เช่น ชาผง, ครีมเทียม หรือนมผง
– ยุค 2.0 ช่วงปี 2000 – 2015 เป็นช่วงร้านเครื่องดื่มชาเพิ่มเติมสีสันความสนุกสนานให้กับเมนูชามากขึ้น ด้วยการใส่วัตถุดิบและตกแต่งท็อปปิ้งต่างๆ เช่น ผลไม้, โกโก้, เจลลี่ ฯลฯ
– ยุค 3.0 ช่วงปี 2015 – ปัจจุบัน เป็นยุคกลับมาให้คุณค่ากับความเป็น “Authentic” ของเครื่องดื่มชา ทั้งคุณภาพใบชาสดแท้ กรรมวิธีชงสดใหม่แก้วต่อแก้ว และวัตถุดิบทุกอย่างใช้ของสด
หากเปรียบเทียบพัฒนาการตลาดเครื่องดื่มชา และร้านชาในประเทศจีน กับไทยพบว่า ปัจจุบันในจีน ถือว่าเป็นประเทศที่มี Tea House จำนวนมาก ได้เข้าสู่ stage ยุค 3.0 แล้ว ขณะที่ประเทศไทย มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มจำนวนมาก โดยเฉพาะชานม – ชานมไข่มุก ตั้งแต่แมส ไปจนถึงพรีเมียม กำลัง “เปลี่ยนผ่าน” เข้าสู่ยุค 3.0 ที่หันมาโฟกัส “แก่นแท้” ของความเป็นเครื่องดื่มชา นั่นคือ คุณภาพวัตถุดิบ ทั้งใช้ใบชาแท้ในการชง กรรมวิธีการชง และความสดใหม่ของส่วนผสมต่างๆ
ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ตลาดเครื่องดื่มชา และร้าน Tea House เปลี่ยนผ่านสู่ยุค 3.0 มาจากการเติบโตของแนวโน้ม “Health Conscious” โดยผู้คนดูแลสุขภาพ หาข้อมูลและเลือกสรรอาหารการกินที่มีคุณประโยชน์ต่อมากขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคมีทางเลือกของ “เครื่องดื่มชาคุณภาพระดับพรีเมียม” มากขึ้นจากแบรนด์ Tea House ที่เข้ามาปักธงในยุคชา 3.0 หนึ่งในนั้นคือ “CHAGEE” (ชาจี) ร้านชาต้นตำรับจากยูนนาน
ทำความรู้จัก “CHAGEE” ร้านชาพรีเมียมต้นตำรับจากยูนนาน
จุดเริ่มต้นของ “CHAGEE” (ชาจี) ถือกำเนิดขึ้นในมลฑลยูนนาน ประเทศจีน เปิดสาขาแรกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 บนถนน 51 ในเมืองคุนหมิง ด้วยแรงบันดาลใจและความตั้งใจอยากรักษาวัฒนธรรมการดื่มชาจีนให้อยู่คู่กับผู้คนในทุกยุคสมัย พร้อมๆ กับการเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อชานมให้เป็นไปในเชิงบวก ทั้งได้คุณประโยชน์จากชา ความสดใหม่ ความสดชื่น และความอร่อย
เนื่องจากในช่วงเวลานั้น คนจีน ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน ไม่นิยมดื่มชาแบบ Traditional Tea แต่หันไปดื่มชานมมากขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยวัตถุดิบที่ใช้ทำชานมในยุค 1.0 และยุค 2.0 เน้นใช้ของสำเร็จรูป ประกอบกับการแข่งขันของตลาด และแนวโน้ม Health Conscious เริ่มขยายตัวมากขึ้น
“CHAGEE” จึงต้องการทรานส์ฟอร์มตลาดชาเข้าสู่ยุค 3.0 ที่กลับมาหาแก่นแท้ของเครื่องดื่มชาจีน ด้วยจุดเด่นการ นำเสนอเครื่องดื่มชาทำจากใบชาสดแท้คุณภาพระดับพรีเมียม ในหลากหลายชนิดชา อาทิ
– ชาเขียว (Green Tea) เช่น ชาเขียวใบข้าว และชาเขียวมะลิ
– ชาอู่หลง (Oolong Tea) ชาจีนที่คนชื่นชอบในรสชาติและกลิ่นหอม มีให้เลือกทั้งอู่หลงทิกวนอิม, อู่หลงไวท์พีช, อู่หลงต้าหงเผา เปรียบเสมือนราชันแห่งชาอู่หลง, อู่หลงดอกกุ้ยฮวา
– ชาผู่เอ๋อร์ (Pu’er Tea) ชาจีนที่ให้ความสดชื่น และช่วยคลายเครียด
ใบชาคุณภาพพรีเมียมของ CHAGEE ปลูกจากไร่ชาออร์แกนิกของตัวเองที่ตั้งอยู่ในเมืองหลินซาง เขตปกครองตนเองซวงเจียง มณฑลยูนนาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,588 เมตร คัดสรรเฉพาะต้นอ่อน เพื่อให้ได้กลิ่นชาที่หอม และรสชาติสดชื่น
โดยทุกเมนู ทุกแก้วชงสดโดย “Tea Master” ผู้เชี่ยวชาญด้านชาที่ได้รับการฝึกอบรมจาก CHAGEEผสมผสานเข้ากับ “วัตถุดิบสดใหม่” ไม่ว่าจะเป็นนมสด และผลไม้สด เช่น เกรปฟรุต, มะนาว, แตงโม รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูเครื่องดื่มชา 3 ซีรีส์หลัก ได้แก่ กลุ่มชานมสด, กลุ่มชาผลไม้สด และกลุ่มชาสดพรีเมียม
จากความมุ่งมั่น และคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ CHAGEE ที่กล้าปฏิวัติตลาดชา และ Tea House เพื่อปักธงการเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชา “Chinese Chic” ทำให้ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี CHAGEE สามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว และครองใจผู้บริโภคชาวจีน กลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชาชั้นนำในยูนนาน และขยายสาขาสู่ภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศจีน เช่น เซียงไฮ้, เสฉวน, ฉงชิ่ง, กวางตุ้ง, กุ้ยโจว ฯลฯ
ไม่เพียงแต่ปูพรมขยายสาขาในจีนเท่านั้น CHAGEE ยังได้ออกสู่ตลาดต่างประเทศเช่นกัน ทั้งมาเลเซีย, สิงคโปร์ และล่าสุด “ประเทศไทย” เปิดสาขาแรกที่ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่ง Beacon และสาขา 2 ที่สยามสแควร์ ซอย 1
ยกทัพกว่า 30 เมนู สู่ตลาดไทย สร้างประสบการณ์ “ชาสด ชาดี ชาจี” – ตั้งเป้าเปิด 10 สาขาในปี 2023
สำหรับเหตุผลที่ CHAGEE เลือกปักหมุดตลาดไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ทั้งขนาดตลาดชานม-ชานมไข่มุก คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดกว่า 26,000 ล้านบาท แม้จะเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายเครื่องดื่มชาจำนวนมาก ทั้งรูปแบบคีออส และรูปแบบมีที่นั่งรับประทาน แต่ก็ยังมี “ช่องว่างตลาด” อีกมาก
เพราะไลฟ์สไตล์ของผุ้บริโภคไทยในทุกวันนี้ ดูแลสุขภาพมากขึ้น เน้นบริโภคอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ รับประทานหวานน้อยลง และหันมาบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น เป็นตัวเร่งให้ตลาดเครื่องดื่มชาในไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 3.0 เร็วขึ้น ขณะเดียวกันจากการศึกษาตลาดพบว่า ในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีแบรนด์ชาพรีเมียมที่ทำจากชาแท้ 100%
“CHAGEE มองเห็นโอกาสในการทำตลาดที่เน้นคุณภาพชาเป็นสำคัญ ชาทุกแก้วที่ชง ทางร้านใช้ใบชาแท้ระดับพรีเมียม 100% และมี Tea Master เป็นผู้ชงทุกแก้ว เพื่อส่งมอบประสบการณ์ “ชาสด ชาดี ชาจี” จึงมั่นใจได้ว่าว่าผู้บริโภคจะได้รับเครื่องดื่มชาพรีเมียมที่สดใหม่ กลิ่นหอม สดชื่นในทุกแก้ว” คุณอภิชาติ ชวนชัยวงศ์ ผู้บริหาร CHAGEE ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการทำตลาดในไทย
CHAGEE ประเทศไทยได้นำเข้าชาจากจีนโดยตรงถึง 7 ชนิด ประกอบด้วยชาเขียว 2 ชนิด, ชาอู่หลง 4 ชนิด และชาผู๋เออร์ นำมารังสรรค์เป็นเครื่องดื่มชากว่า 30 เมนู ครอบคลุมทั้งกลุ่มชานมสด, ชาผลไม้สด และชาสดพรีเมียม จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 85 บาท
อย่าง กลุ่มเมนูชานมสด ทำจากใบชาแท้ 100% ชงเข้ากับนมสด ซึ่งแตกต่างจากชานมทั่วไปในตลาดที่มักจะใช้ชาผง และนมผง หรือครีมเทียม ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ลูกค้านิยมสั่งกันในกลุ่มชานมสด เช่น ชานมมะลิ ได้ความหอมละมุน-สดชื่นทั้งจากชามะลิผสานกับนมสดอย่างลงตัว
หรือ กลุ่มเมนูชาผลไม้สด ทำจากใบชาแท้ 100% เช่นกัน และใส่ผลไม้สดแต่ละชนิดลงไป เช่น เมนูชามะนาว ก็ใส่มะนาวสดลงไป แตกต่างจากเครื่องดื่มชามะนาวส่วนใหญ่ใช้ผงชามะนาวสำเร็จรูป เช่นเดียวกับชาเกรปฟุต ฝานผลเกรปฟุตใส่ลงไปในเครื่องดื่มชา โดยเมนูแนะนำในกลุ่มนี้ เช่น ชามะนาวใบข้าวง, ชามะลิเกรปฟรุต
หรือใครที่ชื่นชอบเครื่องดื่มชาแบบเพียวๆ ก็ต้อง กลุ่มเมนูชาสดพรีเมียม โดยเมนูที่คนรักชาต้องไม่พลาด เช่น ชาเขียวใบข้าว, ชาต้าหงเผา, ชาผู่เอ๋อร์, ชาทิกวนอิม
การใช้ใบชาแท้ระดับพรีเมียมจากไร่ออร์แกนิก กับวัตถุดิบสดแต่ละประเภท นอกจากลูกค้าจะได้รสชาติจากธรรมชาติ ความสดใหม่ และความปลอดภัยแล้ว ยังตอบโจทย์ด้านคุณประโยชน์จากใบชาสด นมสด ผลไม้สดชนิดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
นอกจากเมนูประจำแล้ว CHAGEE ประเทศไทย ยังเตรียมพัฒนาเครื่องดื่มชา Local Menu สำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ และจะมี Seasonal Menu ในแต่ละช่วงเทศกาลของปี รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ และให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกกับแบรนด์ CHAGEE
ขณะที่แผนการขยายสาขาในไทย หลังจากเปิดสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาสยามสแควร์ ซอย 1 แล้ว CHAGEE ประเทศไทย ยังเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขาภายในปี 2023 และตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
“CHAGEE วางแผนขยายสาขาต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งไม่ใช่แค่ตลาดไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตีตลาดเอาใจคนรักชาทั่วโลกอีกด้วย โดยเรามีความตั้งใจนำวัฒนธรรมการดื่มชาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี มาผสมผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม ในบรรยากาศการตกแต่งร้านแบบร่วมสมัย ผสานวัฒนธรรมตะวันออก และเมนูชาพรีเมียมที่หลากหลาย เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในใจของผู้บริโภคทั้งสมัยนี้ และในอนาคตต่อไป” คุณอภิชาติ กล่าวทิ้งท้าย