ในโลกยุคปัจจุบันที่มีแบรนด์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาใหม่มากมายไม่เว้นในแต่ละวันนั้น สำหรับแบรนด์เก่าที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานได้จนถึงทุกวันนี้ เชื่อเถอะว่าไม่ใช่แค่เรื่องฟลุ๊ก หรือแค่เพราะว่าสินค้าดี สิ่งสำคัญคือ “แนวคิด” อันเป็นแก่นของแบรนด์ ที่อยู่ในทุกเบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน และแน่นอนว่า “เรื่องราวของความสำเร็จ” นั้น คือสิ่งที่น่าฟังและน่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่เสมอ
หนึ่งในความสำเร็จที่มีความเป็นมาอย่างยาวนานจดถึงทุกวันนี้คือความคิดสร้างสรรค์ในการ Promote แบรนด์ที่มีความน่าสนใจและดึงดูดให้คนเข้ามาร่วมทำกิจกรรม Heineken® ถือเป็นหนึ่งในผู้นำทางการทำ Marketing ที่แปลกแหวกแนวเป็นอย่างมาก ในทุกๆปี Heineken® จะมีวิธีการ Promote ตัวเองในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่แล้วกับงาน Heineken® Behind the Star Experience ที่นำเอาเรื่องราวความสำเร็จต่างยุคต่างสมัยที่เคยเกิดขึ้นจนทำให้ Heineken® ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้ จนกระทั่งในปีนี้ Heineken® ต่อยอดความสำเร็จของงาน Heineken® Behind the star experience ที่ได้อธิบายเรื่องราวของความสำเร็จของ Heineken® ด้วยการจัดงานรูปแบบใหม่ที่ไม่เป็นเพียงแค่การจัดนิทรรศการเพื่อบอกเล่าประวัติอีกต่อไป
ในปีนี้ Heineken® ได้นำเอาเรื่องราวความสำเร็จที่มีมาอย่างยาวนานของแบรนด์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก ด้วยการจัดงานการแสดงที่สื่อถึงเรื่องราวความสำเร็จของ Heineken® ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนได้รับรางวัลชนะเลิศที่ Paris และเริ่มมีชื่อเสียงจนมีการส่งออกไปยังทวีปต่างๆกระทั่งได้รับยกให้เป็น Iconic ของยุค Pop Art กับสัญลักษณ์ดาวแดงที่คุ้นเคย แต่ถ้าจัดการแสดงธรรมดาที่ให้คนมานั่งดูก็คงจะไม่ใช่รูปแบบ Marketing ใน Style ของ Heineken® เพราะการแสดงในครั้งนี้ Heineken® ได้รับแรงบรรดาลใจมาจาก 1 ในการแสดงระดับโลกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในฝั่งตะวันออก นั่นคือการแสดงที่เรียกว่า Immersive Theatrical Experience ซึ่งถือเป็นรูปแบบการแสดงรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้คุณได้อินไปกับเรื่องราวมากกว่าแค่นั่งชมการแสดงจากนักแสดง เพราะคุณจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ ทั้งยังได้อยู่ในบรรยากาศที่ Heineken® เนรมิตขึ้นมาทั้ง 4 ยุค โดยใช้ทั้งเทคนิค แสง สี เสียง และนักแสดงมากความสามารถมากมายเพื่อสร้างให้เกิดเป็นการแสดงที่เรียกได้ว่าเป็น The Show of the year ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากหนึ่งในทีมงานการแสดง Sleep No More ที่ถือเป็นแม่แบบของการแสดงในครั้งนื้มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งงานที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีชื่อว่า “Heineken® Presents Star Venture The Immersive Theatrical Experience”
Immersive Theatrical Experience ครั้งแรกในประเทศไทย
Heineken® เลือกที่จะเล่าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ในรูปแบบ Immersive Theatrical ซึ่งเป็นการแสดงที่ให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมราวกับเป็นตัวละครที่มีตัวตนจริง ๆ ในเรื่องราวนั้น ๆ โดยภายในโชว์ยังมีเทคโนโลยี Interactive อยู่อย่างหลากหลาย ที่สำคัญ นี่คือครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดแสดงโชว์แบบนี้ โดยตัวงานจัดขึ้นที่ ไปรษณีย์กลาง บางรัก จนถึงวันที่ 1 เมษยนที่ผ่านมา
5 ข้อคิดที่ซ่อนอยู่ในความสำเร็จของแบรนด์นับตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1873
อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น ว่าทางแบรนด์ Heineken® นั้นได้สอดแทรกแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนานของตนไว้ในโชว์นี้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยดีกว่า
1.ความไม่ย่อท้อ จุดกำเนิดของ Heineken ณ ยุค Amsterdam Start-Up 1873
ในห้องแรกของโชว์นั้น จะพาเราย้อนเวลากลับไปปีค.ศ. 1873 ณ ตรอกข้างโรงหมักเบียร์ไฮเนเก้น และเมื่อเดินเข้าไปยังอีกห้องข้าง ๆ นั้น เราจะได้เห็นห้องทำงานของมิสเตอร์ไฮเนเก้น และความพยายามในการคิดค้นสูตรเบียร์ของเขา ด้วยวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ ทำให้เขาได้ค้นพบกับ A-yeast ® ยีสต์สูตรพิเศษที่ทำให้เบียร์ของ Heineken®มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบัน
2.มาตรฐานคุณภาพของสินค้าที่ดีเยี่ยม เบื้องหลังรางวัล Grand Prix Paris ที่คว้ามาได้ในปี 1889
เดินทางเข้าสู่อีกยุคสมัยที่สำคัญของ Heineken® ในปี 1889 ณ งาน World’s Fair ประเทศฝรั่งเศส ที่มีการประกวดนวัตกรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมิสเตอร์ไฮเนเก้นกับเบียร์ของเขานั้น สามารถคว้ารางวัลมาได้ ด้วยคุณภาพของสินค้าที่เกิดจากส่วนผสมอันพรีเมี่ยม ที่ให้รสชาติคงเดิมมาอย่างยาวนาน
3.ความกล้าหาญและมองการณ์ไกล สู่การส่งออกสินค้าไปยังทั่วโลก ในยุค Crossing Borders (1950)
หลังจากเริ่มเป็นที่นิยมแล้วนั้น Heineken® ได้ตัดสินใจขยับขยายอาณาจักรของตน ด้วยการส่งออกไปยังทวีปต่าง ๆ ซึ่งการส่งออกสินค้าในสมัยนั้น ไม่ได้ง่ายดายเหมือนในปัจจุบัน ต้องบรรทุกสินค้าลงเรือ ขับข้ามน้ำข้ามทะเลอันเต็มไปด้วยลมและพายุกระหน่ำ ซึ่งผลลัพธ์ของการตัดสินใจส่งออกสินค้าในครั้งนั้น คือความเป็นที่นิยมของแบรนด์ Heineken ในกว่า 192 ประเทศทั่วโลก ในปัจจุบัน
4.ความภาคภูมิในตัวแบรนด์ ที่แสดงออกผ่านโลโก้ ‘ดาวแดง’ นับตั้งแต่ยุค ‘Icons of the Making’ (1953)
ในห้องสุดท้ายก่อนกลับโลกปัจจุบันนั้น Heineken® ได้แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของแบรนด์ในปี 1953 ยุคเฟื่องฟูของป๊อปอาร์ต ซึ่งเป็นจุดสำคัญของแบรนด์ในการเชิญสัญลักษณ์ ‘ดาวแดง’ ที่การันตีในเรื่องคุณภาพและความพิถีพิถัน มาสถิตย์บนโลโก้ของแบรนด์อีกครั้ง และได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน
5.มองไปอนาคตข้างหน้าเสมอ แต่ไม่ลืมจุดยืนที่มีมาโดยตลอดของตน
ในห้องสุดท้ายนั้น เราจะเดินทางมายังยุคปัจจุบันแล้ว แต่ภายในห้องเราจะได้เห็นการเติบโตของ Heineken® ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงปัจจุบันอีกครั้ง ผ่านขวดและฉลากทั้งหมด 4 ยุคสมัย (อีกทั้งยังมีขวดของ Heineken® ยุคแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย) ซึ่งแสดงให้เห็นแก่นของแบรนด์ ที่มองไปยังอนาคตข้างหน้าเสมอ แต่ไม่เคยลืมก้าวเดินและความสำเร็จที่เคยทำไว้ตั้งแต่อดีต
จากเรื่องราวความสำเร็จที่ผ่านมาแต่จนกระทั่งปัจจุบันนี้…สามารถพูดได้เต็มปากว่า Heineken® แบรนด์ที่มีอายุมาอย่างยาวนานกว่า 145 ปีนั้น ไม่เคยหยุดคิดที่จะคิดค้นวิธีการทำการตลาดด้วยความคิดสร้างสรรค ทั้งยังผลิตวิธีการทางการตลาดดีๆออกมาสู่สายตาในระดับนานาชาติอยู่เรื่อยมา…ซึ่งต้องบอกว่า Slogan ที่อ่านว่า “Open Your World” นั้น คือคำที่เหมาะจะใช้กับ Heineken® ไม่ว่าจะยุคไหน สมัยไหน Heineken® ก็จะสร้างการตลาดรูปแบบใหม่มาเพื่อเปิดโลกให้คนทุกยุคทุกสมัยตลอดมา
httpv://youtu.be/aPoFOL-Pa5E
สำหรับใครที่อยากติดตามกิจกรรมดีๆจาก Heineken® นั้น สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Heineken และ Instagram @heineken_th #Heineken #StarVenture #OpenYourWorld