ปรับโฉม “เขาค้อทะเลภู” ครั้งใหญ่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ กับ 3 กลยุทธ์สำคัญที่ตอบความต้องการผู้บริโภค

  • 1.4K
  •  
  •  
  •  
  •  

สำหรับนักการตลาดคงทราบกันดีว่า “การสร้างแบรนด์” ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากรู้จักใช้สื่อและการสร้างสรรค์วิธีสื่อสารที่ดึงดูดความน่าสนใจ รวมถึงการสื่อสารที่ง่ายเข้าถึงผู้บริโภคตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนักการตลาดจะทราบดีว่าการสร้างแบรนด์เป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะหากสร้างแบรนด์ได้ดีหมายถึงมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ถ้าสร้างแบรนด์ออกมาได้ไม่ดีก็ต้องแก้ปัญหาจุดอ่อนที่มีโดยเฉพาะช่องทางและวิธีการสื่อสาร

หนึ่งในแบรนด์ที่เรียกว่าท้าทายนักการตลาดอย่างมากคงหนีไม่พ้นแบรนด์ที่มีความเก่าและมีเรื่องราวมาอย่างยาวนาน รวมถึงแบรนด์ที่มีความเป็นไทยดั้งเดิม เนื่องจากการ Rebranding จำเป็นต้องมีการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ เปลี่ยน Mindset ในการทำธุรกิจใหม่ รวมถึงต้องเพิ่มช่องทางการสื่อสารและการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ

หนึ่งในนั้นคงต้องยกกรณีศึกษา (Case Study) ของแชมพูสมุนไพรสูตรธรรมชาติ “เขาค้อทะเลภู” ซึ่งเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 กว่า 30 ปี โดยเป็นการเลือกสรรสมุนไพรธรรมชาติ เพื่อทดแทนและลดการใช้สารเคมีในผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเส้นผมในราคาที่จับต้องได้ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องราคาและความปลอดภัย 100%

โดยแบรนด์ “เขาค้อทะเลภู” ถูกส่งต่อมาสู่ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการยกระดับและผลักดันผลิตภัณฑ์ของไทยให้ก้าวสู่แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ทั้งในเรื่อง No Harmful Chemicals การใช้สมุนไพรธรรมชาติแทนสารเคมี, Effective คุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และ Affordable ราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

นอกจากนี้แบรนด์ “เขาค้อทะเลภู” ยังเน้นไปที่กลุ่มคนเมืองในการ Rebranding ครั้งสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลเส้นผม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหลังจากที่ต้องเผชิญกับมลภาวะของเมืองหลวงตลอดช่วงการทำงาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ยิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมียิ่งทำให้กลุ่มคนทำงานในเมืองหลีกเลี่ยงอาการผมร่วงไม่ได้

และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนทำงานในเมือง “เขาค้อทะเลภู” จึงเลือกสื่อสารการตลาดผ่านรูปแบบสื่อ OoH (Out of Home) ทั้งป้ายหน้าร้านสะดวกซื้อ, Bus Side, Bus Back โดยเฉพาะบน BTS ทั้งในส่วนของตัวขบวนรถไฟฟ้าและที่สถานี ตอบโจทย์การสื่อสารของคนทำงานที่ต้องใช้บริการรถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

ที่สำคัญแคมเปญดังกล่าว ยังสร้างความโดดเด่นด้วยการดีไซน์โฆษณาภายใต้คอนเซ็ปต์ “ผมไม่ร่วงง่ายๆ” โดยออกแบบให้นางแบบห้อยหัว ก่อให้เกิดกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ส่งผลให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความสงสัยจนต้องกลับไปหาข้อมูลของแคมเปญดังกล่าวในโลกออนไลน์ ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและเข้าถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการบอกต่อ (Word of Mouth)

ไม่เพียงแค่นี้ “เขาค้อทะเลภู” ยังมีการปรับ 5 ด้านเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนทำงานในเมืองอย่าง ด้านการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด นอกจากจะใช้สื่อ OoH แล้ว ยังมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียร่วมด้วย โดยเฉพาะการนำ Influencer และ Blogger ในการรีวิวผลิตภัณฑ์ผ่านมุมมองของผู้ใช้จริง (Testimonial) เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ “เขาค้อทะเลภู”

ด้านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากได้มาตรฐานการผลิตระดับสากลแล้ว ยังมีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนเมือง เช่น มาส์กมะขามธรรมชาติในรูปแคปซูล

ด้านการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในเมืองที่มองหาความเป็นธรรมชาติควบคู่กับการดูแลสุขภาพ ซึ่งการมีผลิตภัณฑ์อื่นนอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผม จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (Facial care) เป็นต้น

ด้านการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย นอกจากเรื่องการสื่อสารและพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ผลิตภัณฑ์ยังต้องสะดุดตาและกลมกลืนกับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในเมืองที่มีความเร่งรีบ พกพาสะดวก สามารถใช้งานได้ทุกที่ “เขาค้อทะเลภู” จึงมีการปรับโลโก้และแพคเกจจิ้งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยยังคงรูปแบบความเป็นไทยไว้

และ ด้านการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคสมัยใหม่ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งหากสินค้ามีคุณภาพดีแต่ถ้าลูกค้าหาซื้อไม่ได้ก็หมดความสำคัญ นั่นทำให้ “เขาค้อทะเลภู” จึงให้ความสำคัญกับช่องทางการขายอย่างมาก

โดยเน้นช่องทางการขายในรูปแบบ O2O (Online to Offline) เพื่อตอบสนองผู้บริโภคผ่านทุกช่องทาง ทั้งช่องทางร้านค้าสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น หรือซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำ เช่น ท็อปส์ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี เป็นต้น ควบคู่กับช่องทางออนไลน์โดยขยายช่องทางไปสู่ e-Commerce ทั้ง LAZADA และ Shopee จากเดิมที่เคยขายแค่ใน Facebook หรือ Line@ เท่านั้น

สำหรับเป้าหมายของ “เขาค้อทะเลภู” คือการสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับผู้บริโภคถึงแบรนด์ไทยที่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ผ่านแคมเปญบนรถไฟฟ้าและบน Feed Facebook สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน หรือสามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมส่งสินค้าถึงหน้าบ้านโดยไม่ต้องออกเดินทางไปไหน

ที่สำคัญแบรนด์ “เข้าค้อทะเลภู” ยังมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา และยังคงเติบโตต่อไปด้วยความแข็งแกร่งทางธุรกิจจนสามารถผ่านวิกฤต COVID-19 มาได้ ผ่านกลยุทธ์บอกต่อ (Word of Mouth) ที่ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน โดยแบรนด์ “เขาค้อทะเลภู” ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากสมุนไพรธรรมชาติที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติอื่นๆ ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

นี่ถือเป็นกรณีศึกษา (Case Study) ที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ SME ของไทยที่เน้นความเป็นไทย ทั้งที่แบรนด์มีอายุมากว่า 30 ปี แต่ยังคงปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว


  • 1.4K
  •  
  •  
  •  
  •