หลายคนอาจสงสัย ว่าแบรนด์ที่มีอายุเกิน 100 ปี จะรักษาความนิยมและความต้องการในตลาดได้อย่างไรโดยไม่โรยราตามกาลเวลา? วันนี้ Mitsubishi Heavy Duty คือกรณีศึกษาที่ให้คำตอบเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ใช่แค่ “อยู่ได้นาน” แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ ด้วยการผสมผสานระหว่าง “ความเชื่อมั่นจากรากฐาน” และการปรับตัวอย่างเข้าใจผู้บริโภค
ภาพจำว่า Mitsubishi Heavy Duty เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่ทั้งเย็นเร็ว ทนทาน และประหยัดไฟนั้นถือเป็นความเข้มแข็งที่เกิดได้จาก Mitsubishi Heavy Industries บริษัทแม่ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมหนักนั้นไม่ได้ขับให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือและทรงพลังด้วยอายุเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบมากมายที่ชูให้ Mitsubishi Heavy Duty เป็นกรณีศึกษาที่ดีมาก
น่าเชื่อถือ + ความเป็นผู้นำ
องค์ประกอบแรกที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty โดดเด่นคือความน่าเชื่อถือและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม บนเส้นทางการนำเทคโนโลยีระดับอุตสาหกรรมหนัก มาถ่ายทอดสู่ผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน
ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty นั้นมีหลายกลุ่มบริษัท หนึ่งในนั้นคือ Mitsubishi Heavy Industries หรือ MHI ที่ดันตัวเองจากจุดเริ่มต้นในอุตสาหกรรมหนัก มาสู่เครื่องปรับอากาศระดับโลก โดย Mitsubishi Heavy Industries ก่อตั้งขึ้นในปี 1884 จากพื้นฐานอุตสาหกรรมต่อเรือที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีต้นกำเนิดจาก Tsukumo Shokai ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1870
ในช่วงเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา MHI ได้เติบโตจนเป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าของโลก มีธุรกิจครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ อวกาศ และพลังงาน
ตั้งแต่เครื่องจักรหนัก จรวด ดาวเทียม ไปจนถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และแม้แต่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่าง Urawa Red Diamonds
ท่ามกลางการพัฒนาเทคโนโลยีในหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่เครื่องจักรขนาดใหญ่ไปจนถึงพลังงานสะอาด อีกสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ MHI คือผู้พัฒนาเครื่องปรับอากาศเครื่องแรกของญี่ปุ่นที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำในปี 1953 และกลายมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาดเครื่องปรับอากาศในระดับโลกนับแต่นั้น
พันธมิตรแข็งแกร่ง
ความเข้มแข็งของ Mitsubishi Heavy Duty ยังมาจากฐานพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างมหาจักรดีเวลอปเมนท์ ซึ่งร่วมกันก่อตั้งโรงงาน MACO ที่รับประกันคุณภาพมาตรฐานสากล
เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty นั้นเป็นแบรนด์ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Mitsubishi Heavy Industries และกลุ่มบริษัทมหาจักร เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของธุรกิจเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย เมื่อ Mitsubishi Heavy Industries และกลุ่มบริษัทมหาจักร ได้ร่วมกัน ก่อตั้งโรงงาน Mitsubishi Heavy Industries – Mahajak Air Conditioners (MACO) ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จากสถิติล่าสุด MACO มีพื้นที่โรงงานกว่า 100,000 ตร.ม. ผลิตเครื่องปรับอากาศส่งออกกว่า 65 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด ทั้งที่พักอาศัย ธุรกิจขนาดเล็ก และระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่
บริษัทชั้นนำด้านการตลาดและบริการในไทยอย่าง Mahajak Development ถือเป็นอีกกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ในประเทศไทยแบบครบวงจร ตั้งแต่การตลาด การจัดจำหน่าย จนถึงบริการหลังการขาย โดยกว่า 50 ปีของ Mahajak ชื่อเสียงด้านภาพลักษณ์มืออาชีพและบริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดนั้นโดดเด่นมาก โดยเฉพาะแนวคิด “Omotenashi” แบบญี่ปุ่น คือใส่ใจลูกค้าทุกขั้นตอนและเหนือความคาดหวัง รวมถึงเปิดบริการ “Mahajak Service Center 1516” ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่การล้าง ซ่อม ติดตั้ง หรือให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพ ทั้งกลุ่มแอร์และเครื่องเสียงในเครือ
ล่าสุดคือนโยบาย Mission Net Zero ภายในปี 2040 แบรนด์ยังมุ่งสู่การลดคาร์บอนด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ยั่งยืน นี่จึงไม่ใช่แค่เครื่องปรับอากาศธรรมดา แต่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะท้อนวิสัยทัศน์ระดับโลก
น่าเชื่อถือเพราะความเก่ง
องค์ประกอบต่อมาที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty โดดเด่น คือสุดยอดเทคโนโลยีนวัตกรรมและความทนทาน ไม่เพียงการพัฒนา Real Inverter, คอยล์ทองแดงแท้ 100%, และระบบกระจายอากาศ Jet Flow & 3D Auto แต่ยังมีการเลือกใช้วัสดุเกรดสูง เช่น พลาสติก ABS UV Protection เพื่อความคงทนของตัวเครื่อง และการรับประกัน 5 ปีทุกชิ้นส่วน สะท้อนถึงความมั่นใจในคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในส่วนของเทคโนโลยี Real Inverter นั้นเป็นอินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบที่รวม 4 ส่วนหลัก ทั้ง Expansion Valve, DC Inverter, Compressor และ Motor เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดพลังงาน และรักษาอุณหภูมิให้คงที่
สำหรับด้านความทนทานทุกสภาพอากาศ ต้องยกความดีให้คอยล์ทองแดงแท้ 100% เคลือบสาร Blue Fin ป้องกันสนิม รวมถึงโครงสร้างพลาสติกแบบ ABS ทนแสง UV ไม่เหลือง ไม่กรอบ แม้ใช้งานนานหลายปี
ที่สำคัญคือระบบกระจายลมล้ำสมัย ทั้งแบบ Jet Flow ส่งลมไกลสุดถึง 17 เมตร แบบ Hi Power เย็นเร็วภายใน 15 นาที และแบบ 3D Auto กระจายลมครอบคลุมทั่วห้อง ทั้งหมดนี้รับประกัน 5 ปี ทุกชิ้นส่วน ทั้งคอมเพรสเซอร์ แผงวงจร และอุปกรณ์ทุกชิ้น ได้รับการรับประกันเท่ากันหมด
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยคุณค่า 3 ประการ นั่นคือ
“เย็นเร็ว” เพราะเทคโนโลยีการกระจายลมที่มีประสิทธิภาพสูง, “ทนทาน” วัสดุที่แข็งแรงและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ยาวนาน และ “ประหยัดไฟ” ระบบอินเวอร์เตอร์ที่แท้ทำให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทำให้เกิดความประหยัดที่มากกว่า
ที่สุดแล้ว Mitsubishi Heavy Duty คือกรณีศึกษายอดเยี่ยมเรื่องการสร้างแบรนด์ด้วยการผสมผสานระหว่าง ความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ เทคโนโลยีที่เหนือชั้น และการให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกได้ว่าแบรนด์เป็นตัวเลือกที่น่าใช้งาน เหมือนที่ Mitsubishi Heavy Duty ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกรู้สึกมาแล้ว 150 ปี.