รุกตลาดใหญ่สุดในอาเซียน เอสซีจี ซื้อหุ้น 29% ในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุอินโดนีเซีย 2,400 ล้านบาท

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

2 ภาพประกอบ Mitra10

เอสซีจี ยังคงเดินหน้าลงทุนนอกประเทศกระจายความเสี่ยง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 29 ใน PT Catur Sentosa Adiprana Tbk (CSA) ที่ถือเป็นธุรกิจชั้นนำของอินโดเซีย ที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ สำหรับสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุก่อสร้าง ภายใต้ในชื่อ Mitra10 ซึ่งเปิดดำเนินการอยู่จำนวน 27 สาขา ในเมืองหลักเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ

นอกจากนี้ รวมทั้งธุรกิจกระจายสินค้า ที่มีเครือข่ายร้านค้าปลีก สำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้างมากกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เอสซีจีสามารถขยายฐานธุรกิจในตลาดอินโดนีเซีย ที่กำลังเติบโตและเป็นตลาดขนาดใหญ่

อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของเอสซีจีในอินโดนีเซีย

สำหรับธุรกรรมดังกล่าว คิดเป็นมูลค่า 1,035 พันล้านรูเปีย หรือประมาณ 2,400 ล้านบาท

คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ซึ่งการเข้าถือหุ้นดังกล่าว เอสซีจี จะดำเนินการผ่านบริษัทเอสซีจี รีเทลโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่เอสซีจีถือหุ้นทั้งหมด

โดยเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดของรายการเท่ากับร้อยละ 0.41 ของมูลค่าของสินทรัพย์รวม ตามงบการเงินรวมของเอสซีจี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561

โดยเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้ จะเท่ากับร้อยละ 4.84

1 ภาพประกอบ Mitra10

CSA ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย ในชื่อย่อหลักทรัพย์ “CSAP.JK” ที่ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านสมัยใหม่

ในปี 2560 CSA มียอดขายรวมประมาณ 23,700 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท

เมื่อปีที่แล้ว ในส่วนของธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี ได้ลงทุนใน Indocorr ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษคุณภาพสูง ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตรวม 32,000 ตันต่อปี

เอสซีจี มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ รวมทั้งหมด 1,045,000 ตันต่อปี (ตัวเลขปีที่ผ่านมา) นอกจากนี้ยังหาโอกาสในการลงทุนในบรรจุภัณฑ์ทุกประเภท ทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษ และ Flexible Packaging เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เน้นการบริโภคอาหารนอกบ้านมากขึ้น

ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2560 เอสซีจี มีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจเคมีภัณฑ์

สำหรับการลงทุนอาเซียน สถานการณ์คืบหน้าไปอย่างชัดเจน ทั้งการจับมือกับพันธมิตรในเวียดนาม พร้อมกับลงทุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์อินโดนีเซีย สอดคล้องการเติบโตตลาดอุปโภคบริโภคในไทยและอาเซียนที่โตต่อเนื่อง


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •