น้ำดื่มสิงห์ เลือก ‘เจ้านาย’ หวังมัดใจ Millennials ปรับกลยุทธ์ใหม่เพิ่มการทำตลาดออนไลน์ 60%

หลังจาก “น้ำดื่มสิงห์” เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ได้แก่ “น้องเจ้านาย” แบบไวรัลสุดฮือฮาในโลกออนไลน์ไปแล้ว ก็มาถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแถลงข่าวถึงสาเหตุการเลือก “น้องเจ้านาย” และทิศทางการตลาดของน้ำดื่มสิงห์ในปัจจุบันและอนาคต

“น้ำดื่มสิงห์” ผู้นำตลาดน้ำดื่ม ซึ่งต้นปีที่ผ่านมาเปิดตัวแคมเปญ A Part of You  โดยใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing สร้างปรากฏการณ์ดึง 5 ตัวแทนกลุ่มผู้นำความคติดและไลฟ์สไตล์ จากวงการหนัง ดนตรี เน็ตไอดอล ได้แก่ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์, เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา, วี-วิโอเล็ต วอเทียร์, และวง South side ล่าสุดของน้ำดื่มสิงห์ได้สร้างกระแสอีกครั้ง โดยการคว้า น้องเจ้านาย-จิณเจษฎร์ วรรธนะสิน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ควบคู่กับการเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่เป็นวัยรุ่น และอายุน้อยลงมากขึ้น จนได้ผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลิปไวรัลที่ น้องเจ้านาย ไปขายน้ำดื่มที่ร้านสะดวกซื้อ โดยมียอดวิวสูงถึง 2 ล้านกว่าวิวและเป็นออแกนิคล้วนๆ

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงสาเหตุการเลือกน้องเจ้านายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ว่า เราต้องการทำตลาดด้วยการใช้ Influencer มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และต้องเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีคาแร็คเตอร์ที่เป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่าย แต่การเปิดตัวต้องเป็นอะไรที่นอกกรอบ สร้างความแตกต่าง แปลกใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเกิดการจดจำแบรนด์มากยิ่งขึ้น ท่ามกลาการแข่งขันการตลาดที่ดุเดือดของน้ำดื่มทั้งแบรนด์เก่าและแบรนด์ใหม่ ดังนั้น จึงลงตัวกับ “น้องเจ้านาย” ที่สำคัญคือเป็นการเปิดตัวที่สร้างเซอร์ไพรส์สุดๆ

การเลือกพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ ธิติพร ย้ำว่า มีเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ 1.ต้องการเพิ่ม Engagement กับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ให้เป็น Young Generation มากขึ้น โดยให้อายุน้อยลงกว่ากลุ่มเป้าหมายเดิม ซึ่งเดิมนั้นน้ำดื่มสิงห์เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว 2.ต้องการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ให้ฉีกออกไปจากคู่แข่ง ให้เป็นแบรนด์อันดับแรกในใจผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อน้ำดื่ม และกับการเปิดตัวน้องเจ้านายเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ถือว่าเป็น Beyond Expectation ให้ผู้บริโภคและตลาดได้จริงๆ

แง่การตลาด

ภาพรวมการตลาดของน้ำดื่มสิงห์ ผอ.กลุ่มการตลาดสิงห์ฯ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดในปี 2560 มีมูลค่าประมาณ 43,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเชิงปริมาณอยู่ที่ 4,300 ล้านลิตร มีอัตราการเติบโตประมาณ 10% แบ่งตามบรรจุภัณฑ์เป็นน้ำดื่ขวด PET90% มีอัตราการเติบโต 11.5% โตกว่าตลาดเล็กน้อย แบบขวดแก้ว 10% แต่แนวโน้มตลาดหดตัวลงเล็กน้อย และปีหน้าหวังโตเพิ่มขึ้นอีก 10%

โดยที่น้ำดื่มสิงห์มีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยรวมอยู่ที่ 21% แบ่งตามบรรจุภัณฑ์แบบขวด PET มีส่วนแบ่งการตลาด 20% และแบบขวดแก้วมีส่วนแบ่งตลาด 45.2% จากการทำตลาดต่อเนื่องทั้งปี 2560 ที่ผ่านมา รวมถึงการรุกตลาดในปีหน้า น้ำดื่มสิงห์ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นเป็น 23%

ทิศทางในอนาคต

ทั้งนี้ น้ำดื่มสิงห์ ย้ำว่าทิศทางที่จะทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ได้แก่

1. เน้นมาตรฐานการผลิต ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ สะอาด เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และอยู่คู่ครอบครัวไทยมายาวนาน อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากสถานบัน NFS International สหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้านความน่าเชื่อถือ ตอกย้ำกลยุทธ์ Functional Marketing แต่แม้ว่ากลยุทธ์สำคัญของตลาดน้ำดื่มคือเรื่องราคา แต่น้ำดื่มสิงห์ตัดสินใจที่จะไม่ลงไปเล่นเกมราคา เพราะจะกลายเป็น Red Ocean

2. ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยมีตัวแทนอยู่ทั่วประเทศ และมีทีมรถขายอีก 400 คัน ซึ่งจะเข้าไปในจุดที่เข้าถึงยาก นอกจากนี้ จะเพิ่มในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น อาทิ สนามบอล โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ และนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมั่นใจว่าจะเพิ่มยอดขายได้
3. โปรโมชั่นใหม่ และการส่งเสริมการขายในรูปแบบใหม่บนแพล็ทฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่และตอบรับสังคมดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเอ็นเกจกับแบรนด์ได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งดึง “น้องเจ้านาย” มาร่วมในกิจกรรมด้วยแน่นอน ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในปีหน้า
4. สร้าง Innovation ที่ยังไม่มีคนทำ เป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ และสิ่งแปลกใหม่ ทำให้แบรนด์ล้ำสมัยในแบบที่จับต้องได้
5. รุกออนไลน์มากขึ้น โดยในปีหน้านี้จะเพิ่มสัดส่วนงบฯ ออนไลน์ที่ 60% จากเดิมอยู่ที่ 40% โดยมีเป้าหมายได้แก่ คนรุ่นใหม่ และคนทั่วไปที่ใช้ออนไลน์ เพราะปัจจุบันดิจิทัลช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็ว แล้วยังเลือกระบุทาร์เก็ตเป้าหมายได้

Copyright © MarketingOops.com