ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าธุรกิจห้างร้านต่างเก็บหมอนพับเสื่อยกธงขาวหนีหายไปจำนวนมาก เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก แต่กระนั้นก็ยังมีธุรกิจหนึ่งที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย แถมมียอดเติบโตที่ดี นั้นก็คือ ‘ธุรกิจกีฬา’
ดร.สมทบ ฐิตะฐาน อาจารย์ประจำสาขาวิชาการจัดการการกีฬา คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และตำลงตำแหน่งนายกสมาคมการจัดการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยข้อมูลธุรกิจกีฬา ว่า ปัจจุบันกีฬาประเภทต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากคนรักสุขภาพและคนทั่วไปเป็นจำนวนมาก
ส่งผลให้ธุรกิจกีฬาเติบโตอย่างรวดเร็ว อาทิ ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬา ช่องทางการจำหน่าย ผู้ประกอบการที่เป็นเซอร์วิส เช่น ออร์แกไนเซอร์ รับจัดการแข่งขัน รวมถึงผู้ให้บริการด้านสถานที่อย่างฟิตเนส และธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์กีฬา เช่น ทำหน้าที่เก็บข้อมูล สถิติกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น และจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน) มีผู้ประกอบการจดทะเบียนตั้งบริษัทเกี่ยวกับกีฬาและสินค้ากีฬามากกว่า 200 บริษัท
ทั้งนี้ ดร.สมทบ ยังเผยอีกว่า ตลาดโดยรวมของธุรกิจกีฬา ณ ปัจจุบัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท และในแต่ละปีมียอดเติมโตอย่างน้อย 4-5% เบื้องต้นยังไม่นับรวมธุรกิจสินค้าประเภทอาหารเสริมสำหรับคนออกกำลังกาย ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท
ด้าน นางอรวรรณ เกลียวปฏินนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ตลาดสินค้าเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬามีทิศทางในการเติบโตที่ดี เพราะไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้ออกกำลังกายเท่านั้นที่ซื้อ แต่สินค้ากีฬาได้กลายเป็นแฟชั่นสำหรับกลุ่มเจนวายเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ ลูกค้ามักมียอดใช้จ่าย 2,500-3,000 บาท/ใบเสร็จ และต่างจังหวัด 2,000-2,500 บาท/ใบเสร็จ และลูกค้าจะมีการซื้อสินค้าทดแทนทุก ๆ 3 เดือน
จากภาพรวมข้างต้น ปีนี้ยังถือเป็นปีที่ดีของธุรกิจกีฬา เนื่องจากกระแสคนรักสุขภาพมันมาแรงจริง ๆ นี่แหละนะสินค้าหรือบริการที่มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ต่อให้เศรษฐกิจซบเซาขนาดไหน คนก็ยอมทุ่มเงินซื้อมาจนได้
