3 หมัดเด็ด MK LIVE ที่จะเปลี่ยนภาพจำสุกี้แบบเดิมๆ

  • 10.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

MK-Live-F

“MK ยุคต่อไปต้องมาจาก New Generation เรากำลังพัฒนาคนรุ่นใหม่ หัวคิดใหม่และมีพลัง…” คือ คำพูดที่ คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ย้ำถึงโรดแมพที่วางไว้หลังจากนี้

ปัจจุบัน เอ็มเคกรุ๊ปมีร้านอาหารในเครือรวมกว่า 600 สาขา เป็นแบรนด์เอ็มเค 425 สาขา ยาโออิ 158 สาขา ร้านอาหารอื่นๆ ในเครืออีก 37 สาขา และสาขาในต่างประเทศ คือ ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ ที่เป็นการขายสิทธิ์แฟรนไชส์อีกราว 46 สาขา

แผนโรดแมพเบื้องต้นในปี 2560 วางแผนขยายสาขาใหม่อย่างน้อย 40 สาขา ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาการจัดทัพองค์กรและผลักดันทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่ง คุณทานตะวัน ธีระโกเมน ที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คือหนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 และเป็นเจ้าของไอเดียร้านสุกี้ MK LIVE ที่สดใหม่ ร่วมสมัย และแตกต่างจากร้านสุกี้เอ็มเคที่เราเคยรู้จัก

ถ้าเปรียบ MK LIVE ร้านต้นแบบสาขาแรกที่ศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์ เป็นนักมวย ก็เป็นนักมวยที่มีอาวุธเป็นหมัดเด็ด 3 หมัด ที่หากใครโดนเข้า เผลอๆ อาจลืมสุกี้แบบเดิมๆ ไปเลย

MK-Live-1

หมัดที่หนึ่ง: สด!

นอกจากโลโก้และการตกแต่งที่ใช้ ‘สีเขียว’ เป็นหลักเพื่อสื่อถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวาแล้ว วัตถุดิบหลักในเมนูสุกี้ อย่างผัก ล้วนสด กรอบ และปลอดสารพิษ โดยรับมาจากโครงการหลวง หรือการมีพื้นที่ครัวเปิดที่ให้คนได้ดูเชฟทำอาหารในบางเมนู เช่น ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปู เกี๊ยว ที่ปั้นกันสดๆ ตามออเดอร์ รวมถึงการสไลด์เนื้อ-หมู เมื่อมีคนสั่งเข้ามา ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า อาหารที่สั่งเป็นอาหารที่ทำขึ้นสดใหม่จริงๆ

ขณะเดียวกัน บริเวณผนังร้านก็ใช้เป็นที่ปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งปลูกจริงๆ ไม่ใช่โชว์แค่เป็นดิสเพลย์ รวมถึงทั้งการดีไซน์ภายในร้านที่ออกแบบให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น ทำให้บรรยากาศการทานสุกี้ สดใหม่ ไม่น่าเบื่อจำเจ

ถ้าอยากรู้ว่า MK LIVE ‘สด’ แค่ไหน ใครบางคนกระซิบว่า ให้ลองมากินผักที่นี่สักคำ เดี๋ยวก็รู้

MK-Live-2 MK-Live-3 MK-Live-4

หมัดที่สอง: ใหม่!

บรรยากาศใหม่ไม่พอ เมนูอาหารส่วนใหญ่ทั้งคาวหวานล้วนคิดขึ้นใหม่ และสามารถหากินได้ที่นี่เท่านั้น

เริ่มจากสุกี้ที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งสุกี้ต้นตำรับ (แบบต้ม) ที่เหมือนกับสุกี้เอ็มเคทั่วไป แต่เพิ่มความพิเศษตรงที่มีน้ำซุปให้เลือกถึง 5 แบบ ได้แก่ ซุปต้นตำรับเอ็มเค ซุปน้ำดำหรือซุปสุกี้ญี่ปุ่น ซุปต้มยำมันกุ้ง ซุปเต้าเจี้ยว และซุปมิโสะ ถ้าใครอยากกินมากว่า 1 รสชาติ ก็สามารถเลือกหม้อแบบแยกเป็น 2 น้ำซุปได้ แบบที่สอง สุกี้สไตล์ญี่ปุ่น เป็นสุกี้น้ำดำ มีซุปในหม้อพอขลุกขลิก ให้รสออกหวานเค็ม และแบบที่สาม สุกี้นึ่ง ต้นตำรับแท้สไตล์ญี่ปุ่น ที่แรกในเมืองไทย ซึ่งเป็นสุกี้ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เนื่องจากกรรมวิธีการนึ่งจะช่วยรักษาคุณค่าทางอาหารได้ดีกว่าการต้มนั่นเอง นอกจากน้ำซุปแล้ว ก็ยังมีน้ำจิ้มให้เลือกถึง 5 รสชาติ

ด้านวัตถุดิบก็มีความพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม อย่างเนื้อก็มีทั้งหมูคุโรบุตะ เนื้อวัวออสเตรเลีย จนกระทั่งเนื้อวากิว ส่วนเครื่องดื่มและของหวาน มีเมนูเอาใจคนรักสุขภาพหลายเมนู เช่น น้ำผักผลไม้คั้นสด เมนูปั่นที่เป็นนมออร์แกนิคที่เอ็มเคพัฒนาขึ้นมาใหม่ เมนูของหวานที่คิดค้นสูตรเฉพาะที่เอ็มเคไลฟ์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมฮันนี่โยเกิร์ตที่เป็นไอศกรีมโฮมเมท เสิร์ฟพร้อมรังผึ้ง และมะนาวสดที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้รสชาติตัดกันได้อย่างพอดี

ซึ่งความแปลกใหม่ข้างต้น จะพาคนที่ได้สัมผัสไปพบประสบการณ์ใหม่ที่ต่างจากทานสุกี้แบบเดิมๆ

MK-Live-5 MK-Live-6 MK-Live-7

หมัดที่สาม: ตอบโจทย์!

วันนี้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และรูปแบบการใช้ชีวิตและคุณค่าบางอย่างของคนหนุ่มสาวเปลี่ยนไป นั่นคือคนโสดมากขึ้น การเน้นจุดขายที่ความเป็นครอบครัวของเอ็มเคแบบเดิม ไปโฟกัสที่กลุ่มคนหนุ่มสาวที่ใส่ใจรักสุขภาพและดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้ MK LIVE เป็นแบรนด์ที่มีความร่วมสมัยและตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นการแตกไลน์จับกลุ่มคนอีกกลุ่มที่แบรนด์หลักอาจเข้าไม่ถึง

นอกจากนี้ การตกแต่งและออกแบบตั้งแต่บรรยากาศร้าน ภาชนะที่เสิร์ฟวัตถุดิบ หน้าตาอาหาร ล้วนเหมาะสำหรับถ่ายรูปหรือ Live ผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะแต่ละเมนูนั้นดูสวย และชวนให้ยกมือถือขึ้นถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอไลฟ์ประสบการณ์กินอาหาร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเมนูของ MK ภาคปกติ จะเห็นถึงความต่างตรงนี้ได้อย่างชัดเจน

ถามว่าทำไม MK ถึงต้องทำ MK LIVE คุณทานตะวัน ธีระโกเมน ทายาทรุ่นที่ 3 เคยกล่าวถึงการปลุกปั้นแบรนด์ MK LIVE ว่า

“ในการปลุกปั้นแบรนด์ MK LIVE ถือเป็นโมเดลที่เราเชื่อว่ามีศักยภาพและมีอนาคต สำหรับเป้าหมายการขยายสาขาโมเดลนี้ ซึ่งเป็นแฟลกชิพ สโตร์ ทางร้านจะหมุนเวียนหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดและนำมาจัดทำเป็นเมนู พร้อมกิจกรรมพิเศษ ประกอบกับจะเป็นสาขาแรกที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเอ็มเคสาขาทั่วไปนำไปพัฒนาต่อยอด”

ในวันที่เทคโนโลยีกระชากอัตราการเปลี่ยนแปลงของโลกให้เร็วขึ้น จนยากจะจินตนาการว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น การมาถึงของ MK LIVE จึงไม่เป็นอะไรมากกว่าการปรับตัวของแบรนด์ร้านอาหารใหญ่ของไทยที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง

เพราะเมื่อโลกเปลี่ยน ผู้ปรับตัวเท่านั้น คือ ผู้ที่อยู่รอด

DID YOU KNOW?

ก่อนการเกิดขึ้นของ MK LIVE (พ.ศ.2560) MK เคยแตกแบรนด์มาแล้วครั้งหนึ่ง คือ MK Gold (พ.ศ.2543) ที่เน้นจับลุ่มคนมีกำลังซื้อสูง ทั้งนี้ การแตกแบรนด์ย่อยนั้นเป็นไปเพื่อพัฒนาโมเดลร้านใหม่ๆ และเข้าถึงลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย


  • 10.9K
  •  
  •  
  •  
  •