ปัจจุบันสินค้าดี มีคุณภาพ อาจไม่ใช่เหตุผลเดียวที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ บรรดาแบรนด์ต่างๆ จึงต้องทำตลาดในหลากหลายช่องทาง เน้นสร้างการรับรู้ของผู้บริโภค เพราะพฤติกรรมผู้โภคได้เปลี่ยนไปทุกๆ วัน เมื่อพวกเขาต้องการสินค้าใดก็ตาม ก็จะศึกษาข้อมูลในเชิงลึกของสินค้า จากผู้ที่เคยใช้มาก่อน เพื่อสร้างความมั่นก่อนซื้อสินค้า
การตลาดออนไลน์เชิงอิทธิพลอย่าง Influencer Marketing จึงได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการทราบข้อมูลสินค้าจากบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นบล็อคเกอร์ นักแสดง Net Idol หรือ Alpha Idol ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
หนึ่งในบริษัทที่ให้บริการการตลาดแบบ Influencer Marketing ที่ครบวงจรที่สุดคือ บริษัท นัฟแนง (ประเทศไทย) จำกัด โซเชียล มีเดีย เอเจนซี่ ที่มีเครือข่ายกว่า 7 ประเทศทั่วโลก ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับอำนาจของ Influencer Marketing กับแนวโน้มการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ต่างๆ
ในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก คุณเชียว หมิง เฉิน Founder and CEO of Nuffanag Global มาร่วมแชร์มุมมองการเติบโตของ Influencer Marketing ในประเทศไทย “ด้วยความที่นัฟแนงมีเครือข่ายถึง 7 ประเทศทั่วโลก (ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, จีน, ออสเตรเลีย และอังกฤษ) ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าผู้บริโภคแต่ละประเทศนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกัน สำหรับประเทศไทย เรามองว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมาก และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ นั่นก็เพราะผู้บริโภคชาวไทยนั้นมีพฤติกรรม ความชอบที่คล้ายคลึงกันทั่วประเทศ อาทิ ชื่นชอบการใช้ Social Media อย่างมาก โดยเฉพาะ Instagram ที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้”
วิธีการทำตลาดในต่างประเทศ
“ไม่ว่าเราจะเข้าไปทำธุรกิจในประเทศใด เราจะเข้าไปให้เหมือนกับคนในประเทศนั้นๆ และเริ่มทำการค้นหา หรือสร้างคอมมูนิตี้ อาทิ Blogger, Net Idol, YouTube และต้องทำให้มีความแอคทีฟตลอดเวลา รวมถึงต้องให้ความรู้กับลูกค้า (แบรนด์-เอเจนซี่) ให้มีความเป็นมืออาชีพ และต้องวางแผนให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ”
หลังจากนัฟแนงได้เปิดตัว เชิร์ฟ เชิร์ฟ (Chur Churp) www.churpth.com ชุมชนออนไลน์เพื่อกระจายข่าวสารของแบรนด์สู่โซเชียล ไปเมื่อปลายปีที่ผ่าน ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งแบรนด์ และบล็อคเกอร์ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 240,000 คน สามารถเข้าถึงเพื่อนๆ รวมไปถึงผู้ติดตามของสมาชิกได้มากกว่า 212,000,000 คนทั่วโลก และยังเป็นแหล่งรวมเน็ตไอดอล (Alpha) ในสังกัดมากกว่า 100 คน ซึ่งมาจากหลายสาขาอาชีพ อาทิ นักแสดง นางแบบ พริตตี้ เภสัชกร ดาวและเดือนของมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งทุกคนล้วนเป็นผู้นำทางความคิด และสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ คุณพัชร ศิริเกียรติสูง กรรมกากรผู้จัดการ บริษัท นัฟแนง (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้นัฟแนงมีแผนจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีก 2 อย่างด้วยกัน คือ คอนเท้นต์วิดีโอ ซึ่งจะนำเสนอผ่านยูทูป ในรูปแบบของ Reality TV เพื่อช่วยให้บล็อคเกอร์ผลิตคอนเท้นต์ที่น่าสนใจมากขึ้น และอีกหนึ่งอย่างคือแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการเขียนบล็อก หรือไดอารี่ ที่สามารถโพสรูป วิดีโอ เช็คอินได้ โดยจะพัฒนให้มีรูปแบบการใช้งานง่าย ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้งานจริงๆ
เชิร์ฟ เชิร์ฟ ทำอะไรบ้าง
คุณพัชร ให้รายละเอียดว่า เชิร์ฟ เชิร์ฟ จะทำหน้าที่ช่วยติดต่อบล็อคเกอร์ และมอนิเตอร์ผลงาน รวมถึงคัดเลือกบล็อคเกอร์ที่เหมาะสมกับให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ ซึ่งหลักในการเลือกบล็อคเกอร์มาร่วมงานกับบริษัท ต้องดูที่ประสบการณ์ ความสามารถ มีผู้ติดตามจริง และเชื่อถือได้ สำคัญที่สุดคือต้องมีจรรยาบรรณ
และในส่วนของการสื่อสารกับแบรนด์สินค้า เราต้องพยายามอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าการทำการตลาดแบบ Influencer จะฮาร์ดเซลล์มากไม่ได้ มิเช่นนั้นผู้บริโภคที่ติดตามเหล่าบล็อคเกอร์อยู่ก็รู้สึกไม่ดีต่อตัวบุคคลและแบรนด์สินค้า เพราะปัจจุบันคอนเท้นต์ที่มีอยู่ก็แทบจะแยกกันไม่ออกว่าอันไหนเป็น Social Marketing กับ Content Marketing
ที่ผ่านมาเราอาจเห็นพนักงานประจำ ที่เป็นบล็อคเกอร์ควบคู่ไปด้วย รีวิวสินค้าด้วยความชอบของตัวเอง แต่ปัจจุบันอาชีพบล็อคเกอร์สามารถสร้างรายได้ให้พวกเขา จนทำให้บางคนลาออกจากงานประจำมาเป็นบล็อคเกอร์เต็มตัว จะเห็นได้จากในปีที่แล้ว มีบล็อคเกอร์หน้าใหม่ๆ จำนวนมาก มูลค่ารายได้รวมก็หลายล้านบาทต่อเดือน ซึ่งบางคนอาจมีรายได้หลักแสนต่อเดือน (กลุ่มความสวยความงาม)
อยากเป็นบล็อคเกอร์ต้องทำอย่างไร
อย่างแรกคือ ต้องมีความจริงใจ มีความสม่ำเสมอ เป็นตัวของตัวเอง และพร้อมจะนำเสนอคอนเท้นต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมถึงต้องสามารถผลิตคอนเท้นต์เองได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป หรือตัดต่อวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา สั่งสมประสบการณ์ที่มีให้ได้มากที่สุด สร้างพื้นที่ของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก ถ้าคุณทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ ก็จะทำให้มีผู้ติดตามมากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา กระแส Influencer ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้โลกออนไลน์พวกเขากลายเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างคาดไม่ถึง แต่ทั้งนี้การมียอดผู้ติดตามเยอะ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน ต้องมีความโดดเด่นในการนำเสนอสินค้า และมีความน่าเชื่อถือ
การสร้างความผูกพันระหว่าง Influencer กับผู้บริโภค
แต่หากจะมองในมุมมองของผู้บริโภค หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วข้อมูลที่บล็อกเกอร์นำมารีวิวนั้นเชื่อถือได้มากเพียงใด เพราะใครๆ ก็รู้ว่าพวกเขาถูกว่าจ้างจากแบรนด์สินค้า ซึ่งนี่เป็นการบ้านที่นักการตลาดต้องสื่อสารให้ได้ว่า บล็อคเกอร์เหล่านี้คือกระบอกเสียง หรือตัวแทนของแบรนด์ ที่พร้อมจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า โดยยังมีความเป็นกลางอยู่
สุดท้ายนี้ Influencer marketing นั้นจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และจะยิ่งเข้าใกล้เรามากขึ้น ผู้บริโภคจึงต้องใช้การวิเคราะห์ และพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า โดยค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือบุคคลที่เชื่อถือได้ ในส่วนของนักการตลาดเองก็เช่นกัน ควรพิจารณาให้ดีก่อนจะเลือก Influencer มาเป็นผู้โปรโมทสินค้า โดยคำนึงถึงสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับเป็นหลัก อย่ามุ่งที่จะสร้างผลกำไร จนลืมจรรยาบรรณในการทำธุรกิจที่ควรจะมี เพื่อให้ในอนาคตแบรนด์ของคุณจะมีแต่เรื่องดีๆ ให้จดจำในสายตาผู้บริโภค