#SayitwithPepsi เข้าถึงที่มาของ “เป๊ปซี่โมจิ”

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

pepsi

ทราบหรือไม่ว่า “อีโมจิ” (Emoji) ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ในแต่ละวันมีการส่งอีโมจิถึงกันกว่า 6,000 ล้านครั้ง และอีโมจิ ยังถือเป็นภาษาสากลที่ทุกคนบนโลกสามารถใช้สื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด

ล่าสุด “เป๊ปซี่” นำเทรนด์ฮิตบนโลกดิจิตอลอย่าง “อีโมจิ” มาพัฒนาเป็น “เป๊ปซี่โมจิ” และใช้ต่อยอดในการทำกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้าง Emotional Engagement กับผู้บริโภคทั่วโลกผ่านดีไซน์บรรจุภัณฑ์และแคมเปญการตลาดที่ชื่อ “Say it with Pepsi” #SayitwithPepsi เพื่อให้ผู้บริโภคสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกถึงกันด้วยผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่

12088196_10153100177036960_9001322077644712185_n

ภายใต้แคมเปญนี้ เป๊ปซี่ ได้นำ “เป๊ปซี่โมจิ” สุดน่ารักถึง 40 ดีไซน์จากทั้งหมดกว่า 100 ดีไซน์มาพิมพ์ลงบนผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่ทุกขนาด ทั้งขวด PET และสลิมแคน เพื่อให้คนไทยได้สื่อสารอารมณ์และสนทนากันผ่าน “เป๊ปซี่โมจิ” ได้ในชีวิตจริง ซึ่งประกอบด้วย 28 ดีไซน์ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดยทีมงานระดับโลก พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยการออกแบบ 12 ดีไซน์ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยให้โดนใจคนไทยโดยเฉพาะ อาทิ ลายมวยไทย ลายรถตุ๊กตุ๊ก ลายต้มยำ ลายสวัสดี รวมถึงลายชุดประจำชาติ เป็นต้น

Say it with Pepsi 3

ส่งท้ายปีด้วยโกลบอลแคมเปญ และนวัตกรรมใหม่

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ เป๊ปซี่ ได้จัดแคมเปญไปใหญ่ๆ ไปแล้วมากมาย อาทิ Food Campaign, แคมเปญรับซัมเมอร์, แคมเปญ Family Fun Time ที่ร่วมมือกับมันฝรั่งเลย์, Pepsi Challenge และส่งท้ายปีด้วย “PEPSIMOJI” โดย คุณสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “สำหรับแคมเปญ ‘พูดด้วยเป๊ปซี่ เต็มที่ทุกอารมณ์’ หรือ ‘Say it with Pepsi’ เราต้องการสร้างสีสันให้กับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และตอกย้ำจุดแข็งของเป๊ปซี่ ในฐานะแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้ก้าวทันวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกยุคทุกสมัย โดยจุดประสงค์ของแคมเปญนี้ก็เพื่อเชิญชวนให้คนรุ่นใหม่ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการสื่อสารกันผ่านเป๊ปซี่โมจิ เป็นลิขสิทธิ์ของเป๊ปซี่เท่านั้น”

เมื่อเป๊ปซี่โมจิมาถึงเมืองไทย

ก่อนหน้านี้ ทางเป๊ปซี่ได้เปิดตัวแคมเปญนี้ที่ประเทศแคนาดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี คุณสมชัย เผยว่า เหตุผลที่เลือกเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย ก็เพราะไทยเป็นประเทศที่มีการใช้ Social Media และดิจิตอลค่อนข้างเยอะ รวมถึงยังมียอดขายสูงติดอันดับ Top 3 ในเอเชียอีกด้วย จึงทำให้เป๊ปซี่เลือกเปิดตัวในไทยเป็นที่แรก

และเมื่อมาถึงเมืองไทย อีโมจิต่างๆ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยมากที่สุด โดยดีไซน์ที่พิมพ์ลงไปบนขวดนั้นจะเป็นรูปที่เกี่ยวกับเมืองไทย อาทิ ต้มยำกุ้ง มวยไทย ธงชาติไทย ลายสวัสดี หรือแม้แต่การเซลฟี่ รวมแล้วมีกว่า 12 ลายด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้

สำหรับการวางตลาดผลิตภัณฑ์แต่ละดีไซน์จะแตกต่างกันไปตามขนาดสินค้า โอกาสในการบริโภค และช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ ลายต้มยำกุ้ง จะอยู่ในขนาดที่มีจำหน่ายเฉพาะในช่องทางร้านอาหารเท่านั้น ในขณะที่ลายปาร์ตี้ จะอยู่ในขนาดใหญ่ที่ขายในช่องทางโมเดิร์นเทรด เป็นต้น นอกจากนี้ เป๊ปซี่จะมีการเพิ่มเป๊ปซี่โมจิลายใหม่ๆ ในบรรจุภัณฑ์ตลอดระยะเวลา 4 เดือนนับจากนี้ เพื่อสร้างความตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค

12115562_10153100176421960_2533212901680295233_n-higlight

ความแตกต่างของเป๊ปซี่โมจิ

คุณสมชัย กล่าวว่า ดีไซน์ของ “เป๊ปซี่โมจิ” จะผนวกความเป็นไทย สร้างอัตลักษณ์ของโลโก้เป๊ปซี่ ทั้งรูปร่างทรงกลมที่เรียกว่า ‘Pepsi Globe’ รวมทั้งองค์ประกอบในด้านสี ทั้งน้ำเงิน แดง และขาวอย่างลงตัว ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพิมพ์คีย์เวิร์ด หรือคำต่างๆ นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ใช้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างคำอีกด้วย

ในส่วนของขนาด เป๊ปซี่ก็ได้ตระหนักถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยการผลิตหลายขนาด เพื่อตอบโจทย์โอกาสการดื่ม โดยจะเน้นไปที่ขวด PET มากขึ้น แบ่งเป็นราคา 10, 12, 15, 25 และ 29 บาท ผู้บริหารเป๊ปซี่แอบบอกว่า ขนาดที่ขายดีที่สุดคือ 345 ml. ราคา 10 บาท

งบ 200 ล้านบาท กับการตลาด 360 องศา

ภายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท เป๊ปซี่ได้เตรียมดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศาเพื่อรุกตลาดในช่วงปลายปี ผ่านสื่อโฆษณาครบทุกช่องทาง อาทิ Out of Home, TVC, สื่อ ณ จุดขายและในร้านค้า สื่อดิจิตอล และกิจกรรมออนไลน์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงการนำ เป๊ปซี่โมจิไปผนวกกับเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ประจำปี “เป๊ปซี่ พรีเซนต์ บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 7” ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้

เรื่องน่ารู้ของ เป๊ปซี่โมจิ

  • “เป๊ปซี่โมจิ” กว่า 100 ดีไซน์ได้รับการสร้างสรรค์และออกแบบโดยทีมงานจาก Design & Innovation Center ของเป๊ปซี่โคที่นิวยอร์ค
  • สำหรับในประเทศไทย เป๊ปซี่ได้นำ “เป๊ปซี่โมจิ” มาใช้ทั้งหมด 40 ดีไซน์ ประกอบด้วยลายที่ผ่านการสร้างสรรค์ในระดับโกลบอล 28 ดีไซน์ พร้อมออกแบบ “เป๊ปซี่โมจิ” ที่สะท้อนความเป็นไทยและพฤติกรรมผู้บริโภคไทยเพิ่มเติมอีก 12 ดีไซน์ อาทิ ลายนักมวย ลายต้มยำกุ้ง ลายรถตุ๊กตุ๊ก ลายสวัสดี เป็นต้น
  • แคมเปญนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ “เป๊ปซี่” มุ่งตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ในฐานะแชมป์ตลาดน้ำดำในบรรจุภัณฑ์ประเภทไม่ต้องคืนขวด (Non-Returnable Packaging) โดยปัจจุบันเป๊ปซี่ครองตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 45% ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ความนิยมการบริโภคน้ำอัดลมจากบรรจุภัณฑ์ประเภทไม่ต้องคืนขวดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 77.5% ในขณะที่บรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้วมีสัดส่วนเพียง 22.5% เท่านั้น

  •  
  •  
  •  
  •  
  •