แสนสิริเปิดตัว“SIRI CAMPUS”ออฟฟิศในฝันของคนรุ่นใหม่ มุ่งสร้างความสุขพนักงานสู่แบรนด์คุณภาพในใจลูกค้า

  • 69
  •  
  •  
  •  
  •  

“แสนสิริ” ลุยกลยุทธ์ People Strategy เปิดตัว “SIRI CAMPUS” (สิริ แคมปัส) ออฟฟิศแห่งล่าสุดบนพื้นที่ 7 ไร่ ฉีกกรอบการทำงานของออฟฟิศและการทำงานรูปแบบใหม่ที่พื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตรวมอยู่ในที่เดียวกัน รองรับการทำงานของ New Gen ชูวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็น “High Performance Organization” องค์กรที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง และเป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุด พร้อมดึงดูดคนเก่งร่วมงาน ตอกย้ำผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ตอบรับเทรนด์การทำงานแนวใหม่ผ่าน 2 แนวคิด New Way of Work และ New way of Life บนพื้นที่ T77 community เมืองต้นแบบแห่งอนาคตในย่านอ่อนนุช

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงวิสัยทัศน์ที่สะท้อนแนวคิดการบริหารงานและองค์กรกับการเปิดตัว SIRI CAMPUS ว่า “เมื่อแสนสิริ สร้างบ้าน เราอยากให้ สิริ แคมปัส เป็นบ้านอีกหลังของพนักงาน..แสนสิริ ยกระดับการบริหารองค์กรด้วยกลยุทธ์ “People Strategy” ขับเคลื่อนและตั้งเป้าทรานส์ฟอร์มองค์กรให้เป็นองค์การต้นแบบของวงการอสังหาริมทรัพย์ เราจึงเน้นความสำคัญเรื่องคุณค่าของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของพนักงานและลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคใหม่สู่การเป็น “High Performance Organization” องค์กรที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงและคล่องตัว ตอบสนองการทำงานควบคู่กับการบาลานซ์ชีวิตพนักงานไปพร้อมกับความสุข ความสนุกในการทำงานในทุกวันกับ 2 แนวคิด New way of Work และ New way of Life เพื่อสร้าง Ecosystem ที่สมดุลและวัฒนธรรมของการทำงาน 3 เรื่อง ประกอบด้วย Flexible Work, Connecting People และ Smart Work โดยมุ่งสร้างให้เกิดผลลัพธ์ 3 ด้านในการทำงานรูปแบบใหม่ คือ Efficiency ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ Creativity ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน และ Productivity ได้ผลลัพธ์จากการทำงานที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบโครงการและบริการแก่ลูกค้า  ซึ่งปัจจุบัน แสนสิริมีพนักงานที่เป็น Gen Z และ Gen Y มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มีความเป็นตัวตนสูง มีพฤติกรรมการทำงานที่ต้องการความรวดเร็ว เข้าถึงเทคโนโลยี”

การปรับโฉมองค์กรในครั้งนี้ สานต่อจากแนวคิด “Agile” ที่เริ่มปรับใช้ทั้งองค์กรเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อความคล่องตัวสูงในการทำงานที่มากขึ้นและทันต่อสถานการณ์การแข่งขันของตลาดและการทำงานในยุค Digital Disruption ซึ่งแสนสิริเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แรกในโลกและองค์กรแรกในไทยที่นำแนวคิด Agile: New Way of Working มาปรับใช้ในการบริหารงานในองค์กร ตลอดระยะเวลา 2 ปี พบว่า เพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการประสานงานมากถึง 30 %

คุณอุทัยกล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ แสนสิริยังตั้งเป้าเป็น บริษัทที่น่าทํางานที่สุดของประเทศไทย พร้อมดึงดูดคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถและมีศักยภาพมาร่วมงานกับแสนสิริ รวมถึงรักษาพนักงานที่เก่งไว้กับบริษัทให้นานที่สุด (Life-Long Employability) เพื่อผลักดันสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริหารบุคลากรในองค์กรของไทยด้านวัฒนธรรมองค์กร เพราะแสนสิริ เราเชื่อว่า “ พนักงาน คือ คนสำคัญที่สุด และเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ที่จะส่งผ่านความรู้สึกและความสุขจากการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตไปให้ลูกค้าทุกคน” ความเชื่อนี้ได้จุดประกายให้แสนสิริย้ายออฟฟิศมาที่ SIRI CAMPUS ในครั้งนี้ ทั้งยังเป็นการเสริมแกร่งให้กับ T77 คอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัยและการชีวิตใจกลางอ่อนนุช พื้นที่ศักยภาพที่สามารถพัฒนาให้เป็นเมืองต้นแบบแห่งอนาคต ที่จะช่วยส่งผลให้ทำเลของอ่อนนุชให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และนำไปสู่การดึงดูดการลงทุนใหม่ๆในอนาคต”

 

SIRI CAMPUS (สิริ แคมปัส) คือ พื้นที่แห่งการใช้ชีวิตและการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อความสุข สนุกของคนรุ่นใหม่ ตอบรับเทรนด์การทำงานใน 2 แนวคิด

New way of Work การดีไซน์พื้นที่และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และความสะดวกสบายเพื่อทำให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้คุณภาพงานที่ดีที่สุด ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้จำกัดอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่แรงบันดาลใจให้เกิดไอเดียดีๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทั้งยังต่อยอดได้อีกไม่รู้จบ เกิดการประสานงานและการแบ่งปันไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ

1)   Culture Design : Flexible Working Time  นโยบายเลือกเวลาทำงานได้แบบตามใจชอบ และ Work Anywhere Anytime เลือกที่นั่งทำงานได้อย่างอิสระ

2)   Space & Facility Design : สร้างให้เกิดความร่วมมือกัน (collaboration) สร้าง interaction ระหว่าง คนภายในกันเอง และ คนภายในกับภายนอก ซึ่งทุกพื้นที่มีส่วนช่วยในการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ทั้งสิ้น จึงวางแผนพื้นที่ทั้งหมดให้เอื้อต่อการแบ่งปันได้อย่างไร้ข้อจำกัดของพื้นที่

  • ลดการกั้นห้องแบ่งโซน (partition) เพื่อสร้างสเปซภายในแต่ละชั้น เชื่อมต่อกันเป็นสเปซใหญ่เดียวกัน
    – โซน Amphitheatre เวทีพรีเซนต์หน้าบันไดไม้ขนาดใหญ่ แชร์ไอเดียพร้อมกันกับเพื่อนร่วมงาน
    – Pitching Stage พื้นที่นำเสนอไอเดียสำหรับสตาร์ทอัพ
    – Auditorium ห้องประชุมขนาดใหญ่ จุคนได้มากถึง 260 คน เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการสื่อสารติดต่อกับภายนอกและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
    – Material Library สำหรับดีไซเนอร์และนักออกแบบ ได้มาหาตัวอย่างหินเพื่อไอเดียการทำงาน โดยแผ่นหินถูกนำมาปูวางต่อกันเป็นพื้นหินสวยงาม รวมถึงมี library สำหรับพนักงานได้มาหาข้อมูลไอเดียใหม่ๆในการทำงาน

3)   Technology design (Smart Work Technology)

  • Face scan เพื่อความปลอดภัย และ ให้การทำงานลื่นไหลในทุกจังหวะ
  • Self checkin สำหรับบุคคลภายนอก
  • Smart Locker เช็คล็อคเกอร์ที่ว่างได้ทันที (มีให้บริการ 17 จุด)
  • นวัตกรรม Smart Meeting room booking

–  ห้องประชุมขนาดเล็กที่ และห้องประชุมขนาดกลาง จุคนได้ 10-20 คน 72 ห้อง
–  เช็คสถานะการใช้งาน ตั้งแต่ชื่อผู้ใช้ห้อง หัวข้อในการประชุม คิวถัดไปและช่วงเวลาว่าง
–  เพื่อให้การทำงานได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ระบบแอร์ที่จะเริ่มทำงานอัตโนมัติ 5 นาทีก่อนประชุม

    • SANDEE หุ่นยนต์บริการเสิร์ฟกาแฟแก่พนักงานและผู้มาเยือนNew way of Life สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานและเน้นประสบการณ์การทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

1)   Good Health & Wellness –โรงอาหาร

  • Dining Space สุขอนามัย สารอาหารที่ครบถ้วน เมนูอาหารที่หลากหลาย และคุณภาพของวัตถุดิบเป็นสิ่งสำคัญ ผักผลไม้สดจาก Sansiri Backyard สลัดบาร์ ที่มีบริการทุกพฤหัสบดี-ศุกร์ (Farm-to-table) โดย Canteen บริหารโดย โซเด็กซ์โซ (Sodexo) ผู้ทำธุรกิจด้านอาหารและสุขภาพระดับโลกที่มีเครือข่ายกว่า 80 ประเทศทั่วโลก อาทิ ดิสนีย์ แลนด์ และโรงพยาบาลชัน้นำ และบริษัทกูเกิล ประเทศไทย

2)    Live with the Nature การออกแบบพื้นที่สีเขียวภายในสำนักงาน

  • สอดแทรกธรรมชาติไว้ทุกพื้นที่ทั้งภายใน (10%) และภายนอก ‘คอร์ท’ หรือสวนหย่อมระหว่างอาคารเพื่อเพิ่มความร่มรื่น รับอากาศบริสุทธิ์
  • วัสดุและพื้นผิวที่หลากหลาย อบอุ่น หายใจอย่างปลอดโปร่ง หัวโล่ง
  • ฟังก์ชั่นที่ให้ประสิทธิภาพต่อการทำงาน จัดแสงแบบ Celling Sky Light ลดการใช้กำแพงทึบเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องผ่าน
  • ปรับความสว่างตามธรรมชาติให้เข้ากับแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งยังให้แสงที่จำเป็นต่อพืชพรรณไม้ เพิ่มมิติให้การทำงานนั้นสบายตามากขึ้น
  • นวัตกรรมการผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนจากธรรมชาติ Omni flow ที่ได้จากแสงแดดและลมสะสม เพื่อแปลงเป็นแสงสว่างในช่วงกลางคืน Wind turbine พลังงานที่ได้จากกังหันลม แผง Solar cell
  • EV Charger สำหรับพนักงานที่ใช้รถพลังงานสะอาดได้อย่างพอเพียง

3)    Retreat พื้นที่สันทนาการ หรือ Creativity Workplace                                

  • จุดพักผ่อนและนั่งทำงานแบบ hot desk เพื่อการทำงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อาทิ Co-Working Space, Relaxing Area และ Dog Garden สำหรับพนักงานได้นำสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมาที่ทำงานด้วยเช่นกัน
  • Mind & Body Space ที่มี Fitness Studio ไม่ว่าจะเป็น ซุมบ้า บูทแคมป์ พิล็อคซิ่ง โยคะ แอโรบิกส์ เต้น TRX และ Core Ab ต่อยมวย พิลาทิส และ Animal Flow
  • GYM พร้อมเทรนเนอร์ประจำ คอยให้คำแนะนำในการออกกำลังกาย (เวลา 07.00-20.00 น.)

วอร์มอัพร่างกายและสมองก่อนเริ่มงาน หรือจะแวะมารีบูสต์ตัวเองหลังงาน

  • ร้านคาเฟ่ WAC เพื่อให้พนักงาน หรือผู้มาติดต่องาน ได้มาจิบกาแฟและเริ่มต้นบนสนทนา คุยงาน ได้ในบรรยากาศ co-working space สบายๆ

  • 69
  •  
  •  
  •  
  •