สรุป Marketing trend ยุคต่อไป จากทัศนะปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลก ‘ฟิลิป คอตเลอร์’

  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

“ต่อไปธุรกิจจะอยู่ยาก หากมองเรื่องรายได้และกำไรอย่างเดียว เพราะจะถูกตราหน้าว่าเป็นแค่เครื่องจักรผลิตเงิน” , “การทำธุรกิจยุคใหม่ ต้องคิดถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เพราะธุรกิจเดินต่อไปด้วยตัวคนเดียวไม่ได้” , “เราต้องบริหารจัดการเรื่อง Big Data ให้ดี เพื่อให้เราเข้าใจลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ”

นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ ‘ฟิลิป คอตเลอร์’ (Philip Kotler) ปรมาจารย์ด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงของโลก ได้พูดถึงเทรนด์ของการทำธุรกิจและการตลาดยุคใหม่ที่กำลังมาแรง บนเวที World Marketing Summit  Asia 2019 ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง เราสรุปแบบรวบตึงให้เข้าใจง่าย ๆ ไว้ที่นี้แล้ว

ธุรกิจยุคใหม่ อย่าสนแต่กำไร ต้องนึกถึงสังคมด้วย

ตอนนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความยั่งยืนที่กระแสกำลังมาแรงและจะแรงขึ้นอีกในอนาคต ทำให้หลายฝ่ายมีการตื่นตัวในเรื่องนี้ รวมถึงการทำธุรกิจ ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ไม่ทำเพื่อแสวงหารายได้และผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องทำเพื่อเป้าหมายบางอย่างที่ส่งผลต่อสังคม

สำหรับแนวคิดนึงที่ฟิลิปบอกว่า น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ แนวคิดของ Business Roundtable (องค์กรธุรกิจที่ประกอบด้วย CEO ของบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกา) ที่ได้ออกมาพูดถึงวัตถุประสงค์ใหม่ของบรรษัทธุรกิจว่า การทำธุรกิจต้องคิดถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ Stakeholders ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า พาร์ทเนอร์ ชุมชน และสังคม เพราะปรมาจารย์ด้านการตลาดผู้นี้บอกว่า การทำธุรกิจในปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่เพียงคนเดียว ที่สำคัญหากสังคมหรือโลกไปต่อไม่ได้ ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ด้วยเช่นกัน

Purpose Centric เป็นสิ่งสำคัญ

ในอนาคตธุรกิจจะอยู่ยาก หากมองเรื่องรายได้และผลกำไรเท่านั้น เพราะจะถูกคนรุ่นใหม่ตราหน้าว่าเป็น เพียง “เครื่องจักรผลิตเงิน” ที่ไม่สนใจอะไร เนื่องจากคนกลุ่ม Millennium ที่เป็นกำลังสำคัญในอนาคตให้ความสำคัญกับแบรนด์มาก ๆ และประเด็นที่สนใจ คือ แบรนด์มีความใส่ใจเรื่องความยั่งยืนและทำให้สังคมดีขึ้นหรือไม่ เช่น ขั้นตอนการผลิตของแบรนด์ ๆ นั้น มีการสร้างขยะมากหรือน้อยเพียงใด มีการจัดการขยะอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม หรือมีการช่วยเหลือสังคมหรือไม่ เป็นต้น

ดังนั้น เรื่อง Purpose Centric ขององค์กรหรือแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ที่ธุรกิจต้องหาให้เจอและวางไว้เป็นทิศทางของตน เพื่อให้เดินต่อไปได้

ในมุมของประเทศก็เช่นเดียวกัน โดยไทยเองควรมีการตั้งเป้าหมาย หรือสร้างวัฒนธรรมของชาติที่จะทำให้เกิดสิ่งดี ๆ  ขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น อยากจะสร้างให้ประเทศเป็นอย่างไร แล้วตกลงเป็นฉันทามติในการพาประเทศไปตามทิศทางนั้นด้วยกัน เหมือนกับญี่ปุ่นที่หาเจอในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และสร้างมาถึงปัจจุบัน จนทำให้ญี่ปุ่นมีความชัดเจน กลายเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจ ณ ปัจจุบัน

การปฏิวัติในยุคดิจิทัล ต้องออกมาจาก Mass Marketing

เรารู้ดีว่า ยุคนี้คือยุคของดิจิทัลและโซเชียล มีเดีย  ซึ่งการที่จะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคนี้จำเป็นต้องออกจาก Mass Marketing แล้วมาลงลึกในรายละเอียดให้มากขึ้น แล้วอะไรที่จะมาช่วยให้เราได้เปรียบในเรื่องนี้

คำตอบ ก็คือ การบริหารจัดการในเรื่องของข้อมูล หรือ Data มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะข้อมูลจากเฟสบุ๊คที่เป็นแหล่งที่มีเรื่องของ data อย่างมหาศาล สิ่งที่ธุรกิจต้องทำ คือ ทำความเข้าใจ วินิจวิเคราะห์ Big data ที่มีเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจและค้นหา journey ของลูกค้าให้เจอ

เพราะทุกวันนี้แบรนด์ที่เข้มแข็งและมีความแข็งแกร่ง ไม่ใช่ว่า มีราคาถูกและมีประสิทธิภาพดีที่สุดเท่านั้น ประเด็นอยู่ที่ต้องเข้าใจลูกค้าของตัวเองให้ได้มากที่สุด

Marketing ไม่ใช่แค่ขายได้ แต่คือการสร้างโอกาส

การตลาดที่ดีต้องสร้างการเติบโต แต่สำหรับหลาย ๆ คนเมื่อพูดถึง Marketing ส่วนใหญ่อาจมองเป็นเรื่องแบรนด์ เรื่องของการขายเท่านั้น ทว่าความจริงแล้วหน้าที่สำคัญของ Marketing อีกอย่าง คือ การเป็นเครื่องมือหรือช่องทางในการวิเคราะห์สำหรับการหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ดังที่เราจะเห็นตัวอย่างจากหลาย ๆ องค์กร ได้มีการเปลี่ยนชื่อตำแหน่ง Chief Marketing Officer หรือ CMO เป็น Chief Growth Officer หรือ CGO แล้ว

แล้วบรรดาแฟน ๆ ของ Marketing oops! ล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเทรนด์การทำธุรกิจและการตลาดยุคใหม่ของปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกอย่าง ‘ฟิลิป คอตเลอร์’


  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •