กูรูแฟชั่นวิเคราะห์ “ม่วงกล้วยไม้” สีแห่งปี 2014 เอาไปใช้อะไรได้บ้าง?

  • 61
  •  
  •  
  •  
  •  

COY2014

เมื่อวันที่ 5 Dec Pantone บริษัทสีสำหรับการพิมพ์ระดับโลก ประกาศโทนสีแห่งปี 2014 เป็นที่เรียบร้อยโดยยกมงกุฏปีนี้ให้แก่ “ม่วงกล้วยไม้” Radiant Orchid (Code: 18-3224) และให้จำกัดความว่าเป็นสีแห่งนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการเป็นต้นฉบับ และยังสื่อถึงเวทมนตร์ ความกระชุ่มกระชวย

 

ทั้งนี้ Leatrice Eiseman ผู้บริหารของสถาบัน Pantone Color ระบุว่า ในปี 2013 เราให้สีเขียวมรกต Emerald (Code: 17-5641) เป็นสีแห่งปีเพื่อสื่อถึงการเติบโต การเกิดใหม่ และความรุ่มรวย สำหรับม่วงกล้วยไม้ในปีนี้จะเน้นการส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งด้วยความที่ม่วงกล้วยไม้อยู่ในวงศ์สีเดียวกับม่วง แดงอมม่วง (fuchsias) และสีชมพู ทำให้สีม่วงกล้วยไม้ส่งเสริมให้ผู้ใช้มีความมั่นใจในตัวเอง ใฝ่หาความสนุก ความรักและสุขภาพมากขึ้น

 

แล้วฝั่งแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายคิดเห็นอย่างไรกับสีแห่งปีเฉดนี้กันบ้าง?

 

Pantone-ColorofYear-3

 

ดีไซเนอร์

“ไม่เกินความคาดหมายสักนิดเดียว” Kathy Basil ผู้จัดการและฝ่ายจัดซื้อของบริษัท Hirshfield ซึ่งเป็นบริษัทดีไซเนอร์ชื่อดังกล่าวและว่าต่อว่า เธอสังเกตเห็นลูกค้าชั้นดีในปีนี้ต้องการเสื้อผ้าในโทนสีชมพูมากมาย โดยต้องการทุกเฉดสี จึงเดาได้ว่าสีที่คนนิยมในปีนี้น่าจะอยู่ในตระกูลสีนี้แน่นอน

 

ขณะที่ Nancy Woodhouse ดีไซเนอร์อาวุโสของ Gabbert สตูดิโอระบุว่า สีม่วงกล้วยไม้เข้ากับสีผิวของคนได้เกือบทุกเฉดสี เชื่อแน่ว่าพรมแดงปีนี้จะต้องมีดาราให้ความสนใจโทนสีนี้ ขณะที่ม่วงกล้วยไม้ยังสื่อถึงความเป็นผู้หญิง และจะน่ารักขึ้นมากหากสวมใส่เป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ต่างหู หรือเนคไท คู่กับเสื้อผ้าสีเทาหรือน้ำเงินเข้ม

 

Interior Design

Jim Noble แห่ง Noble Interior Design เชื่อว่าสีม่วงกล้วยไม้จะช่วยเติมความสดใสให้แก่บ้านที่ดูเรียบง่ายเกินไป และเชื่อว่าดอกกล้วยไม้สีม่วงจะกลายเป็นที่นิยมในการแต่งบ้าน อย่างไรก็ตาม การแต่งบ้านตามโทนสีม่วงกล้วยไม้ทั้งหมดอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนักเนื่องจากเป็นสีที่ไม่ได้มีพลังเท่าเขียวมรกตในปีก่อน ดังนั้น กูรูจึงแนะนำให้แต่งม่วงกล้วยไม้คู่กับสีเทาหรือสีเขียวมรกตของปีที่แล้ว

 

Pantone-ColorofYear-9


  • 61
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง