โฆษณายุค 3G

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

นับแต่นี้ “พลังการตลาด” ของ “จอที่สาม” หรือโทรศัพท์มือถือ จะวิ่งไล่ทีวีและคอมพิวเตอร์อย่างใกล้ชิด

ความเร็วที่มาพร้อมกับ 3G จะทำให้ผู้บริโภคเสพเนื้อหา (Content) ผ่านมือถือได้มากและหลากหลายขึ้น 

กิจกรรม “เล่นเน็ตบนมือถือ” ที่ “เกิดแน่” คือ “คอนเทนต์ในรูปแบบ VDO” หากการถ่ายทอดข้อมูลสู่โทรศัพท์มือถือทำได้เร็ว ราบรื่น ไม่สะดุด “คนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ ถ้าเทียบกับการคุยกันแบบเห็นหน้า ดูหนังดูละคร ยิ่งขณะนี้ดูผ่านบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตได้เยอะขึ้น เป็นโอกาสทางการตลาดของเจ้าของคอนเทนต์ เพราะต้นทุนในการเผยแพร่คอนเทนต์เก่าหรือสร้างใหม่ไม่สูงมาก” ขณะเดียวกันโฆษณาสินค้าบนมือถือจะผูกติดกับคอนเทนต์เหล่านี้ ทั้งในแง่ของ Branded Content และรูปแบบมาตรฐานทั่วไป

กิจกรรมที่จะ “เกิด” ตามมา คือ การสังสรรค์ผ่านเว็บเครือข่ายสังคม (Social Networking) เช่น hi5 ที่ฮอตฮิตในหมู่คนไทย จนมีผลสำรวจว่า “กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่มีคนใช้ hi5 มากที่สุดในโลก” ขณะนี้ก็ออกเวอร์ชั่นมือถือแล้ว เพียงแค่พิมพ์ http://m.hi5.com ในบราวเซอร์จากโทรศัพท์มือถือโดยตรง แม้ขณะนี้ hi5 เวอร์ชั่นย่อส่วนยังมีข้อจำกัดด้วยดีไซน์ที่ไม่หวือหวานัก แต่จะเป็นโอกาสเข้าถึงลูกค้าวัยรุ่นได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่คนไทยใช้ประมาณ 90% ยังเป็นเบสิกโฟน ทำให้แคมเปญการตลาดผ่านโทรศัพท์มือถือในไทยค่อนข้างเรียบง่าย รูปแบบการใช้จำกัด เน้นส่งข้อความ (SMS) มากกว่า “ต้นทุน” จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญให้ผู้บริโภคพิจารณาว่าควรเปลี่ยนเทคโนโลยีหรือไม่

หลังมีการประกาศใช้เทคโนโลยี 3G ศิวัตรยอมรับว่ามีลูกค้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ 3G บ้างแต่ยังไม่มาก เพราะ “บ้านเรายังไม่ไหวตัวมากนัก เพราะ Technology เปลี่ยนแปลงยังไง สื่อหลักของคนไทยก็ยังเป็นทีวี” ในแง่ของเจ้าของสินค้า เขาเชื่อว่าแบรนด์กล้าลองจะเป็นสินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์ทันสมัย หรือมุ่งเป็น “ผู้บุกเบิก” แต่ในที่สุดจำนวนการโฆษณาจะขึ้นกับผู้ใช้โทรศัพท์และแอพลิเคชั่นที่รองรับระบบ 3G มากพอในอนาคต

Read full story here


  •  
  •  
  •  
  •  
  •