“กระทิง พูนผล” กับคำถามยอดฮิต “Startup ไทย ฟองสบู่หรือไม่?

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

krating

ห้วงเวลานี้ Startup คือสิ่งที่มาแรงที่สุด ภาครัฐ ภาคเอกชน กระโดดเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีนักลงทุน กองทุน (VC) ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นเม็ดเงินหลายล้านเหรียญ จนเกิดคำถามที่ได้ยินกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆว่า “Startup ไทย ฟองสบู่หรือไม่” คำถามนี้สร้างความฉุกคิดให้ใครหลายคน อะไรคือฟองสบู่ จะเหมือนยุคปี 40 หรือเหมือนตอน Sub Prime ที่สหรัฐอเมริกาหรือไม่ มีกูรูจำนวนไม่น้อยบอกว่า มีสัญญาณที่เด่นชัดมากในต่างประเทศ

แต่สำหรับประเทศไทย กระทิง พูนผล icon Startup ของประเทศไทย ผู้ก่อตั้งสถาบัน Disrupt University และ Incubator อีกหลายแห่ง บอกได้ว่านี่คือหนึ่งคนที่ปลุกปั้น Startup ไทยมาตั้งแต่วันแรก ได้ออกมาตอบคำถามอย่างชัดเจนที่สุดว่า Startup ไทย อยู่ในช่วงฟองสบู่ หรือไม่

คำตอบสั้นๆ คือ ตอนนี้ยังไม่เป็นฟองสบู่ แต่อีก 6 เดือนข้างหน้าไม่แน่ โดยมีปัจจัยที่ทุกคนในอุตสาหกรรมต้องช่วยเหลือกัน ซึ่งทาง Marketingoops ได้สรุปมาให้ง่ายต่อความเข้าใจดังนี้

1. มูลค่าของ Startup ไทย ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับ Startup ทั่วโลกที่กองทุน 500 Startups ลงทุนไปกว่า 1,500 บริษัท และ กองทุน 500 Durians ลงทุนไปกว่า 100 บริษัท เรียกว่ายังห่างจากคำว่าฟองสบู่มาก และเมื่อดูสัญญาณแล้ว มูลค่าของ Startup ไทย ค่อยๆ สูงขึ้นตามลำดับ มีความ Healthy มาก ไม่ได้โตแบบก้าวกระโดด (เทียบการเติบโตของไทยประมาณ 2-3 เท่า ขณะที่ทั่วโลกโตมากกว่านั้น) และอาจมีเพียงบางบริษัทเท่านั้นที่โดดเด่น

2. คุณภาพของ Startup ที่มาทำการ Pitch กับ 500 TukTuks รวมถึงที่กำลังจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่ได้ลงทุน ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่มีคุณภาพมากๆ และดูมีแววที่ดีในทางธุรกิจ

3. ประเด็นสำคัญมากๆ คือ ส่วนตัวยังไม่เห็น Startup ที่ไม่ควรได้รับเงินทุน แต่ดันได้รับเงินทุน หรือมีการลงทุนจาก VC หรือถ้าหากมีก็น่าจะจำนวนน้อยมากๆ

startup

อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกว่า ภายใน 6 เดือนไม่แน่ว่าอาจมีฟองสบู่เกิดขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกันป้องกัน สร้าง ecosystem ที่ดี ดังนี้

1. การทะลักเข้ามาของการลงทุนในลักษณะเก็งกำไร ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนใน Startup ที่ไม่ควรได้รับเงิน หรือยังไม่พร้อม ซึ่งกรณีนี้จะทำให้เกิดฟองสบู่ เพราะการลงทุนในลักษณะนี้ จะมีการ Push ให้เกิดการปั่นมูลค่าให้สูงขึ้นในระยะสั้น ดังนั้น Startup เองก็ต้องเลือกระดมทุนจากSmart, Connected, Committed, Value-Added Capital ที่เข้าใจว่า Startup เป็นเรื่อง Long term ต้องใช้เวลา 5 – 10 ปี

2. การเกิด Startup Events และฟองสบู่ของ Low Quality Incubators นั่นหมายถึง เราต้องการศูนย์บ่มเพาะที่มีคุณภาพ หรือ High Quality Incubator ต้องสร้าง Commitment แบบจริงจัง มี Mentors ที่เข้าใจ Startup อย่างแท้จริง เพื่อผลิต Startup ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด

3. Startup ต้องมาพร้อมกับการ Educate ให้ครบทุกด้าน มีบริษัทที่ประสบความสำเร็จ มี Startup Hero แต่ก็ต้องบอกว่า บริษัทเหล่านี้ผ่านอุปสรรค ทำงานหนัก และรายได้น้อย มีความเสี่ยงสูง ก่อนจะมาถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในขั้นต้น เหมือนที่บอกเสมอว่า “งานควาย รายได้ไม่ดี แต่มีอนาคต” ดังนั้นต้องดึงดูดให้คนมาทำ Startup อย่างถูกต้องและเข้าใจ เพื่อให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ ไม่ใช่ทำตามกระแส อยากรวย แต่ต้องมี Passion ที่จะ Solve Problem อย่างแท้จริง

4. นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ต้องมีความถูกต้อง ป้องกันการสนับสนุนกับคนที่ไม่ควรได้รับ เช่น บริษัทใหญ่ๆ หรือ Startup ที่มี Connection มาใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้

500startups

กระทิง ให้ความเห็นในตอนท้ายว่า เวลานี้ประเทศไทยกำลังสร้าง ecosystem ของ Startup ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 และช่วงเวลานี้คือจุดที่สำคัญที่ต้องร่วมมือกันทำให้สิ่งที่ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้เกิดฟองสบู่ขึ้น

สำหรับ Startup ต้อง Focus ที่การสร้างพื้นฐานทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง มีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน ทำงานให้หนักขึ้น เพราะมีเพียง Startup ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ด้าน VC ก็ต้องเข้าใจ Startup อย่างแท้จริง มุ่งลงทุนสนับสนุนในระยะยาวเพื่อให้เกิดธุรกิจที่มีคุณภาพ เชื่อว่าในระดับ Seed หรือ Series A ในช่วง 1-2 ปีนี้จะยังไม่มีปัญหา

เพราะเมื่อเทียบกับ Silicon Valley ที่ฟองสบู่ใกล้แตก กับ จีนและอินเดีย ที่ร้อนแรงมากเกินไป ภูมิภาค SEAsia ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและน่าสนใจมากกว่า เช่นเดียวกับ 500 TukTuks ที่มีเงินทุนอีกกว่า 300 ล้านบาท สำหรับการลงทุนและสร้าง ecosystem ในระยะยาว สร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศ  และถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและมีความหมายอย่างมหาศาลที่จะทุ่มเทเพื่อสร้างให้เกิดขึ้น

Source: Facebook Krating


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •