อย่าคิดทำการตลาด ถ้าไม่รู้กลยุทธ์ทำเงินสูงสุด! อัพเดท 8 อันดับเทคนิคการตลาดที่ได้ผลมากที่สุด

  • 505
  •  
  •  
  •  
  •  

เข้าใจว่าการตลาดมีหลายกลยุทธ์ที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาดิจิทัลบนสื่อสังคมออนไลน์ เน้นเนื้อหาคอนเทนต์บนสมาร์ทโฟน พวกนี้มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคหมด ปัญหาคือเราจะทำอะไรก่อนหลังในงบการตลาดที่จำกัด วันนี้เราจะพาไปดูว่ากลยุทธ์ไหนสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ปีนี้กัน

 

investing-money-in-digital-marketing1

1. ทำให้คนรับรู้แบรนด์ของเราให้ได้

เพราะก่อนอื่นเราต้องทำให้ผู้บริโภคไว้ใจแบรนด์ และจงรักภัคดีกับแบรนด์ รักษาตำแหน่งของแบรนด์ในตลาด ทำให้แบรนด์แตกต่างจากแบรนด์อื่น เพื่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด นำไปสู่ยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว

การทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ยินได้รู้จักแบรนด์จึงสำคัญที่สุด จากความเห็นของร้อยละ 23 ของนักการตลาดที่สำรวจ

สื่อสังคมมอนไลน์และสมาร์ทโฟนจะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงกับแบรนด์ที่ตัวเองชอบได้ดีขึ้น ฟังดูมีเหตุผลเพราะตอนนี้มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตราวๆ 3.5 พันล้านคน และ 2.5 ล้านคนมีบัญชีเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์

การทำโฆษณาออนไลน์ทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน เป็นสปอนเซอร์ จัดหรือมีส่วนร่วมในงานอีเวนท์ ทำเนื้อหาคอนเทนต์ให้ลูกค้าประทับใจผ่าน E-Book คอร์สออนไลน์ พอร์ดแคส วีดีโอหรืออินโฟกราฟฟิค การบอกปากต่อปาก จึงเป็นเทคนิคพื้นฐานให้ผู้บริโภครับรู้แบรนด์

แต่วิธีที่ที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการลงทุนใน “ประสบการณ์” ของผู้บริโภค และหาช่องทางบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำการตลาดรวมถึงอีกสารพัดวิธีที่จะทำการตลาดในพื้นที่ด้วย

 

2. เพิ่มจำนวนสาวกของแบรนด์และทำกำไรสูงสุดในทรัพยากรที่จำกัด

ร้อยละ 21 ของนักการตลาดที่สำรวจในอเมริกาเห็นว่ากลยุทธ์นี้สำคัญที่สุด แต่ถ้าคุณอยากเป็นนักการตลาดที่เก่งละก็ ขอให้แน่ใจว่าคุณสร้างแบรนด์ให้ดี ก่อนที่จะมาเพิ่มจำนวนแฟนทำกำไรทีหลังจะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนยอดแฟนก็สำคัญที่สุดรองลงมา คุณต้องรู้จักผู้บริโภคของคุณให้ดี หาตลาดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ มีข้อมูลเกี่ยวกับการขายที่ผ่านมาเพื่เปลี่ยนยอดจำนวนแฟนเป็นจำนวนลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าและบริการของคุณ

 

investing-money-in-digital-marketing2

 

3. หาว่าที่ลูกค้าเพิ่มอยู่เสมอ

ร้อยละ 18 ของนักการตลาดที่สำรวจในอเมริกาเห็นว่ากลยุทธ์นี้สำคัญที่สุด การหาว่าที่ลูกค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างเดียวไม่ใช่ความคิดที่ดี ลองหาวิธีอื่นดูบ้าง เช่นการทำคอนเทนต์บนช่องทางออนไลน์ที่มีประโยชน์ รวมถึงคอร์สและสัมมนาออนไลน์ การบอกปากต่อปาก การทำ Pay Per Click และ Search Engine Optimization การทำโปรโมชั่นไขว้หรือ Cross Promotion การออกไปพูดตามงานประชุม งานโชว์แสดงสินค้า และการพูดคุยกันสดๆบนเว็บไซต์

พวกนี้เป็นเทคนิคพื้นฐานของการหาว่าที่ลูกค้าและเพิ่มยอดขายทั้งนั้น

 

4. ทำให้เกิดการบอกปากต่อปากในสิ่งที่มีคุณค่า

เพราะไม่ว่าจะเป็นบนพื้นที่ออนไลน์หรือออฟไลน์ การบอกปากต่อปากก็ยังได้ผลดีอยู่ในการทำการตลาดและเพิ่มรายได้ ถ้าทำตาม 3 ข้อที่ว่า

  • ออนไลน์คอนเทนต์ยังสำคัญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการทำคู่มือแนะนำ เช็คลิสต์ พอร์ตแคส อินโฟกราฟฟิค และวีดีโอที่คนนิยมแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาต้องให้ความรู้ไม่ก็ให้ความบันเทิงจนคนอยากแชร์บอกต่อข้อความของแบรนด์ให้เพื่อนฟัง
  • มีกิจกรรมการให้รางวัลในการบอกต่อ ถ้ามีเพื่อนของผู้บริโภคแนะนำ ผู้บริโภคจะมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์นั้น 4 เท่าตามรายงานของ Nielson กว่า 80% ของคนอเมริกันหาคำแนะนำก่อนที่จะซื้อของทุกอย่าง คนยินดีที่จะบอกต่อถ้าเกิดว่าเขาได้โบนัสหรือได้ประโยชน์จากการบอกต่ออยู่แล้ว
  • จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพจัดอีเวนท์ร่วมกัย ทำแบรนด์ร่วมกัน หรือทำคอนเทนต์ออนไลน์ การเป็นพาร์ทเนอร์ไม่ช่วยแค่เพิ่มจำนวนคนเข้ามาดูช่องทางการสื่อสารแบรนด์ แต่จูงใจคนหน้าใหม่ที่จะมาเป็นว่าที่ลูกค้ามาดูบริษัทและและสินค้าของเราด้วย

 

5. ระดมทุนจากการทำคอนเทนต์

เพราะถ้าทำคอนทนต์ขอไปที ก็ทำเงินจากคอนเทนต์นั้นยากแล้ว แค่นั้นเอง อย่างแรกที่ต้องทำคือทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์ เป็นประโยชน์กับคนเสพย์ ให้คนอ่านคนดูมีส่วนร่วม ถ้าคอนเทนต์นั้นไม่มีคุณค่า ก็ไม่มีใครสนใจสินค้าและบริการของคุณแน่นอน

คุณต้องมีโมเดลที่ใช่ในการทำคอนเทนต์ที่คุณต้องลงทุน พยายามผสมผสานเทคนิคต่อไปนี้ หาทางการทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์

  • มีค่าบริการเข้าถึงคอนเทนต์รายเดือน
  • ขายคอนเทนต์แยกให้กับผู้ใช้งาน
  • มีการเสนอบริการเป็นสมาชิกพิเศษสำหรับผู้ใช้งานขาประจำ
  • มีมิเตอร์กำหนดให้ผู้ใช้งานได้เสพย์จนถึงระดับหนึ่ง หากอยากอ่านต่อหรือดูต่อก็ต้องเสียเงิน

 

6. รักษาลูกค้าอย่างมีแผนการ

การรักษาลูกค้าเดิมมันก็หมายถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อลูกค้าที่บริษัทสร้างมาและรักษาไว้ได้มาโดยตลอด เพราะการหาลูกค้าใหม่มันก็ยากอยู่แล้ว แต่การเสียลูกค้าเดิมไปนั้นมันง่ายมากและเป็นการเสียที่ “แพงมาก” ด้วย การรักษาลูกค้าเดิมจึงสำคัญไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือเล็ก

 

และนี่คือทางที่จะรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้

  • ทำแบบสำรวจตรวจความพอใจของลูกค้าอยู่เป็นประจำ
  • ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่บอกว่าตัวเองมีปัญหาหรอก แต่แค่เดินจากไปไม่กลับมาแค่นั้นเอง ฉะนั้นส่งอีเมลที่สนับสนุนลูกค้าพวกนั้นอยู่เป็นประจำด้วย
  • บริการลูกค้าให้เหนือความคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ โน้ตที่เขียนด้วยลายมือ หรือจดหมายส่วนตัว
  • ทำให้การใช้บริการเป็นเรื่องง่าย เช่นลงทะเบียนง่าย มีคู่มือการใช้สินค้า ใช้แอปฯง่าย เป็นต้น
  • ทำให้ธุรกิจของเราเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
  • เป็นที่ปรึกษาที่ลูกค้าไว้ใจได้ ให้ความรู้ลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการผ่านการเขียนบล็อก ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ ทำรายงาน มีเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ และสารพัดวิธี

 

7. เพิ่มจำนวนไลค์ คอมเมนต์ แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์

เพราะฐานลูกค้าที่แข็งแรงก็เกิดจากการที่แฟนๆกด ไลค์ คอมเมนต์ แชร์เยอะๆการมีตัวตนบนโลกออนไลน์ก็ส่งผลต่อการสร้างแบรนด์และยอดขาย มีช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจของเรา มีไอเดียใหม่ๆก็ต้องอัพเดทเป็นประจำ ให้เกิดการคุยกันด้วย

ลองทำและแชร์วีดีโอ เพราะแค่บน Facebook ก็มีการดูวีดีโอรวมกัน 100 ล้านชั่วโมงต่อวันแล้ว วีดีโอจึงเป็นคอนเทนต์ที่ดีที่สุดที่จะโปรโมทธุรกิจ ทำรูปภาพสวยๆถ่ายดีๆ หรืออินโฟกราฟฟิคก็สำคัญหมด โพสต์ในช่วงที่คนกำลังเล่น Facebook เยอะๆ จะได้มีโอกาสไลค์ คอมเมนต์ แชร์เยอะ และลองใช้คอนเทนต์ที่คนอื่นทำดูบ้าง ถ้ามันเข้ากับธุรกิจของเรา

 

8. หาเทรนด์ที่พลิกการทำการตลาดบนมือถือ

ซึ่งการทำการตลาดบนมือถือเป็นกระแสหลักไปแล้วจนมี Analytics ที่แกะเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค, Chatbot พัฒนาบริการลูกค้า และระบบอัตโนมัติส่งข้อความพิเศษให้กับแต่ละคน

 

ตั้งแต่ปีนี้ไป การทำการตลาดแบบไหนดีที่สุด?

ถ้าว่ากันตามงานวิจัยจาก Autopilot ร้อยละ 30 ของนักการตลาดจะลงทุนในโฆษณาดิจิทัล อีกร้อยละ 30 จะลงทุนในอีเวนท์รวมลูกค้า และอีกร้อยละ 26 ลงทุนในการทำการตลาดผ่านอีเมล

 

investing-money-in-digital-marketing4

 

1. ทำโฆษณาดิจิทัล

เราสามารถควบคุมเป้าหมายของว่าที่ลูกค้าที่ให้เห็นโฆษณาดิจิทัลของเราได้ เราก็จะได้รู้ว่าโฆษณาตัวไหนได้ผลหรือไม่ได้ผล การทำโฆษณาดิจิทัลทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุนที่มาดูโฆษณาของเราได้ด้วย ทำให้เราได้รู้จักว่างที่ลูกค้า

 

2. ทำการตลาดผ่านอีเวนท์

ถ้าจะทำให้คนรับรู้แบรนด์ โต้ตอบกับกลุ่มลูกค้าเดิม และหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ การทำการตลาดผ่านการจัดอีเวนท์จะได้ผมมากกว่าการทำแคมเปญและโปรโมชั่นผ่านอีเมล ต้องกำหนดว่าแบรนด์ของเราหมายความว่าอะไร? ลูกค้าของเราเป็นใคร เราเป็นใครถึงจะมาจัดอีเวนท์

 

3. ใช้อีเมลทำการตลาด

ถ้างบและทรัพยากรจำกัด ไม่พอจัดอีเวนท์ การใช้อีเมลทำการตลาดก็น่าสนใจ เพราะต้นทุนต่ำแต่ได้ผลดี อย่าง Uber BuzzFeed, Dropbox, Postmates ก็ทำแคมเปญผ่านอีเมลได้ผล เพียงแค่คุณมีกลยุทธ์ดีๆที่ทำให้ลูกค้าอยู่กับคุณแค่นั้นเอง

 

4. ทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากสื่อสังคมออนไลน์จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดการพูดคุยระหว่างแบรนด์กับกลุ่มแฟนๆแล้ว ยังเป็นตัวช่วยตามเทรนด์ และมี Analytics ช่วยให้เราทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในตอนนั้นทันเวลา

 

investing-money-in-digital-marketing5

5. ทำการตลาดผ่านเนื้อหา

นักการตลาด 24% จากที่สำรวจในอเมริกายังงมองว่าการทำเนื้อหาดีๆก็เป็นการทำการตลาดอันดับหนึ่งเสมอ แต่จะต้องทำเกินงบการตลาดไปบ้างถึงจะสำเร็จ เพราะระหว่าทำคอนเทนท์เราไม่รู้ว่าเนื้อหาไหนได้ผลหรือไม่ได้ผลในช่วงแรกๆ แต่ต่อไปการตลาดแบบคอนเทนท์จะแม่นมากขึ้นและมีประโยชน์มากขึ้น

 

6. การทำกิจกรรมการตลาดให้ลูกค้ารักแบรนด์และบอกต่อ 

การทำกิจกรรมการตลาดให้ลูกค้ารักแบรนด์ต้องโฟกัสไปที่ฐานลูกค้าเดิมเพื่อให้มีการซื้อสินค้ามากขึ้น กิจกรรมที่ว่าจะต้องทำให้ลูกค้าไว้ใจเรามากขึ้น และรักษาความสัมพันธ์กับแบรนด์ได้ หากกิจกรรมที่ว่าสามารถทำให้เกิดการบอกต่อได้ก็จะยิ่งดี แต่เราต้องมั่นใจว่าถ้าลูกค้าบอกต่อแล้ว ลูกค้าจะได้โบนัสอะไร ลูกค้าที่มาใช้บริการเราเพราะมีคนบอกจะมีผลดีต่อแบรนด์ เพราะมีแนวโน้มถึง 5 เท่าที่จะแนะนำคนอื่นๆอีก และซื้อสินค้าของเราได้นานกว่า

24% ของนักการตลาดที่สำรวจจึงเน้นการตลาดแบบบอกต่อ

 

7. วิเคราะห์ข้อมูล

ร้อยละ 22 ของนักการตลาดให้ความสำคัญกับ “ข้อมูล” ไม่ใช่เพราะใช้เพื่อตัดสินใจ แต่เพื่อการลงมือทำด้วย เมื่อไหร่ที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ คุณก็ใช้ข้อมูลกำหนดเป้าหมายลูกค้า ทำการตลาด และตัดสินใจสำคัญๆ

 

การวิเคาราะห์ข้อมูลโดยใช้ Analytics จะทำให้เราเข้าในสิ่งใหม่ๆ แต่เดี๋ญวนี้แบรนด์ใช้มากกว่าหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า ดังนั้นเราอาจจะพลาดข้อมูลบางอย่าง ดังนั้นการติดตามจุดท้าลูกค้าสัมผัสกับช่องทางการสื่อสารต่างๆเพื่อเก็บข้อมูลก็จำเป็นไม่แพ้กัน

 

8. ทำการตลาดบนมือถือ

ทำการตลาดบนมือถือ โดยเฉพาะการทำโฆษณาก็มีความสำคัญสำหรับร้อยละ 20 ของนักการตลาดที่สำรวจมาในอเมริกาก็มรการลงทุนทำการตลาดผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่า 40 พันล้านเหรียญ พอถึงสิ้นปี ก็คาดว่าคอนเทนต์บนออนไลน์ทั้งหมดจะถูกเสพย์ผ่านมือถือ

 

9. เข้าใจกระบวนการซื้อสินค้าของลูกค้า

เพราะถ้าเราลงทุนรู้จักลูกค้าของเรามากพอ เราก็จะรู้จักประสบการณ์กระบวนการซื้อของของลูกค้าทั้งหมด แล้วเราก็สามารถสื่อสารและแก้ปัญหาช่วงเวลาที่ลูกค้าที่มีปัญหาได้อย่างตรงจุด

 

10. เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการทำการตลาด

การทำให้สินค้า บริการและประสบการณ์เป็นเรื่องเฉพาะตัวสำหรับลูกค้านั้น ต้องพึ่งพาเครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการทำการตลาด เพื่อพัฒนาบริการลูกค้าด้วย เพราะการทำให้ลูกค้าอยู่กับเราให้นานที่สุดเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถแซงหน้าคู่แข่งที่ยังทำไม่ได้ด้วย มี 18% ของนักการตลาดที่สำรวจมาเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุด

 

investing-money-in-digital-marketing6

 

เวลาผ่านไป ผู้บริโภคมีความคาดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อดทนน้อยลง ถ้าอยากชนะในเกมธุรกิจ แบรนด์จะต้องเป็นของแท้ของจริง คนต้องรู้จัก และนั่นไม่ง่ายเลย นักการตลาดต้องเน้นให้คนรู้จักแบรนด์ หาว่าที่ลูกค้า คอยพุดคุยกับแฟนๆในสื่อออนไลน์ รักษาลูกค้าเดิมและค้นหาข้อมูลอยู่ตลอด

กลยุทธ์ที่พูดมาไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่เราต้องรู้จักทำกลยุทธ์เดิมให้สร้างสรรค์และมีคุณค่าให้ผู้บริโภคทุกที่ทุกเวลาถึงจะอยู่รอด

 

แหล่งที่มา

A Data-Driven Look At Where People Are Investing Money In Digital Marketing This Year

 


  • 505
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th