ว่ากันด้วยเรื่อง Infographic ที่หลายแบรนด์เลือกใช้เพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค นับตั้งแต่ปี 2010 ที่เราได้เริ่มรู้จัก Infographic และยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ โดย Google Trends ได้เผยว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มต้นหาคำว่า “Infographic” มากขึ้น นั่นเป็นเหตุว่าทำไปแบรนด์ต่างๆ จึงแข่งกันสร้างสรรค์ Infographic ในแบบของตัวเอง
4 เหตุผลที่เรารัก Infographic
1. เพราะเวลามีค่า
ไม่ต้องอธิบายให้มากความว่า “เวลา” มีค่าต่อเรามากแค่ไหน ในยุคที่เวลาเป็นเงินเป็นทองนี้ การหาข้อมูลในเว็บไซต์ก็ต้องรวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก ดังนั้น การเสพข้อมูลด้วยภาพ จึงมีอิทธิพลมากกว่าการอ่านผ่านตัวหนังสือ ที่มีหลายย่อหน้า Infographic จึงเป็นเครื่องมือกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ชัดเจน และสมบูรณ์แบบ
2. เพราะข้อมูลน่าเบื่อเกินไปที่จะอ่าน
แม้จะมีข้อมูลที่สำคัญสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถ่ายทอดไปยังผู้อ่าน โดยเฉพาะถ้าเป็นข้อมูลจำนวนมาก ที่อ่านเท่าไรก็ไม่หมดสักที Infographic นี่แหละ ที่จะจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เพราะ Infographic สามารถแชร์ไปยังคนอื่นๆ ได้ง่าย
แน่นอนว่าทุกแบรนด์ย่อมมี Social Media ของตัวเอง การทำ Infographic ของตัวเอง จะช่วยสร้างโอกาสให้คุณได้สานสัมพันธ์กับผู้บริโภคมากขึ้น และยังได้แสดงศักยภาพการใช้ความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
4. ถ้าคนทำมีความสุข คนอ่านก็สนุกไปด้วย
อย่าคิดจะทำเพียงเพราะเห็นคนอื่นทำ เลยอยากทำตามบ้าง คุณต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสื่อสาร และคำนึงถึงสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับ เมื่อใดก็ตามที่ผู้ผลิตมีความสนุกในการทำ ผู้อ่านก็จะสนุกไปด้วย ในกรณีที่คุณต้องให้คำแนะนำ หรือคำอธิบาย คุณต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ รอบ เพื่อให้พวกเขาอ่านเข้าใจในรอบเดียว
5. เพราะ Infographic ก็เหมือนกับความบันเทิงอย่างหนึ่ง
คนส่วนใหญ่ชอบที่จะเห็นสิ่งที่สวยงาม และรู้สึกสนุกสนานไปกับภาพที่เห็น เพราะภาพจะอธิบายได้ดีกว่าตัวหนังสือ ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะสนใจหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง
13 เหตุผลที่เราต้องการ Infographic
1. 50% ของสมองมนุษย์ จะประมวลผลเกี่ยวกับภาพได้ดี
2. 70% ของมนุษย์ มีประสาทสัมผัสเกี่ยวกับดวงตา
3. 1/10 วินาที คือเวลาที่ใช้ในการทำความเข้าใจภาพ
4. เราใช้เวลา 150 มิลลิวินาที ในการประมวลผลรูปภาพหรือสัญลักษณ์ที่เห็น และใช้เวลา 100 มิลลิวินาที เพื่อตีความหมาย
5. ทุกวันนี้เราได้รับข้อมูลต่างๆ มากกว่าเดิมถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 1986
6. เราบริโภคข้อมูลต่อวันเฉลี่ย 34 กิ๊กกะไบท์ หรือประมาณ 100,500 คำ
7. 28% คือจำนวนของข้อความที่ผู้บริโภคจะอ่านในการเข้าเว็บไซต์
8. นักวิจัยศึกษาพบว่า “สี” จะช่วยให้ผู้บริโภคอยากอ่านมากขึ้น 80%
9. ในกรณีของฉลากยา จากการศึกษาพบว่า 70% จะเข้าใจป้ายที่มีแต่ข้อความอย่างเดียว แต่ถ้ามีรูปภาพด้วย ผู้บริโภคจะเข้าใจมากขึ้น 95%
10. คนส่วนใหญ่จะทำตามคำแนะนำหรือคู่มือที่มีทั้งภาพ และข้อความ 323% และจะทำได้ดีกว่าคนที่อ่านเฉพาะข้อความอย่างเดียว
11. จากการศึกษาของ Wharton School of Business พบว่า 50% ของผู้บริโภคจะถูกชักจูงด้วยคำพูด และ 67% จะถูกชักจูงด้วยคำพูดและภาพประกอบ
12. คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเชื่อในสิ่งที่อ่าน
13. คนส่วนใหญ่จะจำสิ่งที่ตนเองได้ยินเพียง 10% จำสิ่งที่อ่านได้ 20% และจำส่งที่เคยเห็นหรือลงมือทำได้ 80%