เปิดผลวิจัยล่าสุด เจาะพฤติกรรมการคลิกของผู้ใช้ search engine อย่าง Google และ Bing โดยเป็นผลงานการวิจัยร่วมกันของ GroupM UK กับ Nielsen ที่นั่น
แม้จะเป็นการสำรวจจากอังกฤษ แต่น่าจะใช้ได้ในไทยเช่นกัน ! โดย MarketingOops ได้คัดเลือกเฉพาะตัวเลขที่น่าจะใกล้เคียงกับคนไทยมาอธิบายไว้ในนี้แล้ว
เริ่มจาก ..สัดส่วนการคลิกในผลเสิร์ชที่ไม่ใช่โฆษณา (organic search) ว่าอันดับ 1 , 2 , 3 ถูกคลิกอย่างไรบ้าง ? ผลคือ …
อันดับหนึ่ง: 48 %
อันดับสอง: 12 %
อันดับสาม: 8 %
ที่เหลือรวมกัน: 32 %
ในข้อมูลนี้ ถ้าแยกออกมาเฉพาะการเสิร์ชชื่อยี่ห้อสินค้า ผลคือ …
อันดับหนึ่ง: 80 %
อันดับสอง: 6 %
อันดับสาม: 4 %
ที่เหลือรวมกัน: 10 %
นั่นหมายความว่า แบรนด์ไหน คิดจะ “โหน” คู่แข่งที่ดังๆ เลือกทำ SEO ใช้กลยุทธให้คนเห็นเว็บเราด้วยเมื่อเสิร์ชชื่อคู่แข่ง ก็ควรเลิกสนใจกลยุทธนี้จะดีกว่า เพราะอย่างไรผู้ใช้ก็คลิกอันดับแรกกันเกือบทั้งหมด ซึ่งอันดับแรกส่วนใหญ่แทบทุกครั้งก็คือเว็บทางการของเจ้าของแบรนด์นั้นนั่นเอง
สนามแข่งขัน SEO ที่แท้จริงก็คือการเสิร์ชคำทั่วไป ที่ไม่ใช่แบรนด์สินค้า เพราะผลการคลิกก็คือ …
อันดับหนึ่ง: 35 %
อันดับสอง: 15 %
อันดับสาม: 11 %
ที่เหลือรวมกัน: 39 %
นับว่าที่หนึ่งชนะใส แต่รองๆไปก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน ขอให้ยังอยู่หน้าแรก หรือไม่เกินหน้าที่ 2 – 3 เป็นใช้ได้
(..มีต่อด้านล่าง …)
ธุรกิจที่การคลิกกระจุกตัวอยู่ในผลเสิร์ชอันดับแรกมากที่สุด คือ สายการบิน , สื่อทีวีวิทยุ , และ รถยนต์
ส่วนธุรกิจที่การคลิกกระจายให้อันดับรองๆลงไปมากที่สุด คือ ข่าว , บ้านและสวน , คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่วนพฤติกรรมการคลิกโฆษณานั้น ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งคลิก (เพราะมีกำลังซื้อ ?) และผู้หญิงจะคลิกมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย
credit : searchenginewatch.com