ประธานคอมสกอร์ Gian Fulgoni เผยในการสัมมนาผ่านเว็บ (webinar) ในประเด็นการสำรวจและประเมินสถานการณ์ของธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซของอเมริกา
เมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 19 ก.พ. (เช้าวันที่ 20 ก.พ.) ถึงการเติบโตติดลบ (ของเดือน ม.ค. เทียบกับปีที่แล้ว) ของการซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (เติบโต -14%), เครื่องกีฬา-หนังสือ-เพลง (เติบโต -6%), อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ (เติบโต -8%) เว้นแต่เพียงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่ยังคงมีการเติบโตเป็นบวกที่ 2%
ในขณะที่ด้านของธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยรวมนั้น ยังคงสามารถสวนกระแสมีอัตราเติบโตเทียบจากปีก่อนที่ +2% (ของเดือน ม.ค. เทียบกับปีที่แล้ว) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในอเมริกา ทำให้ผู้บริโภคลดการซื้อของผ่านร้านค้าปลีก แต่มีการซื้อของผ่านออนไลน์มากขึ้น
จากภาพข้างต้นนี้จะเห็นว่า ถ้าดูรายละเอียดในส่วนของอีคอมเมิร์ซแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ยอดขายมีการเติบโต (ของเดือน ม.ค. เทียบกับปีที่แล้ว) จะเป็นกลุ่มเครื่องกีฬา หนังสือ ของแต่งบ้านและสวน ดอกไม้และของขวัญ วิดีโอเกม ตามลำดับ ในขณะที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ไม่รวมเกมพีซี) มีการเติบโตแบบติดลบสูงที่สุด รองลงมาเป็น เพลงและภาพยนตร์ เครื่องใช้สำนักงาน และเพชรพลอย เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจถัดไปคือคำถามสำรวจว่า ผู้คนเขาทำกิจกรรมอะไรเพื่อที่จะลดภาวะเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลออกมาว่ากิจกรรมที่มีอัตราการตอบสูงสุดคือ การเล่นอินเทอร์เน็ต (ที่ 52% ของผู้ตอบทั้งหมด) รองลงมาเป็นการดูทีวี และกิจกรรมที่มีคนตอบน้อยที่สุดคือการออกไปช้อปปิ้ง
อีกประเด็นที่น่าสนใจในการแถลงครั้งนี้ของคอมสกอร์คือ คอมสกอร์พบว่า เครื่องมือสำคัญตัวหนึ่งที่สอดคล้องต่อพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคในภาวะอย่างนี้คือ คูปองส่วนลด จากภาพถัดไป จะเห็นว่าปริมาณการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีการแจกคูปองส่วนลดนั้นมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น (เทียบจากเดือนเดียวกันในปีก่อน)
รวมทั้งผลจากการสำรวจในภาพถัดไปนี้ จะเห็นว่ากว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจเลือก “การใช้คูปองส่วนลดบ่อยขึ้น” เป็นทางออกของการลดค่าใช้จ่ายในการช้อปปิ้งของเขา จึงเป็นที่ย้ำชัดว่า กลยุทธ์การใช้คูปองส่วนลด เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญกับแคมเปญทางการตลาดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ทิ้งท้ายด้วย คำถาม 6 ข้อที่นักการตลาดสมัยใหม่ ควรจะต้องลองถามตัวเองดู สำหรับภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหาในปัจจุบัน อันได้แก่
1. ฉันได้มีการให้น้ำหนัก ของการแบ่งสัดส่วนงบทางการตลาดอย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง?
(แง่คิด: การใช้สื่อออนไลน์เป็นสิ่งที่คุ้มค่ากว่า สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับยอดขาย)
2. ฉันวัดประสิทธิภาพของการลงโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์อย่างไร?
(แง่คิด: อันตราส่วนการคลิก vs ปริมาณการชม)
(แง่คิด: ประสิทธิภาพของออนไลน์เทียบกับออฟไลน์)
3. กลยุทธ์การใช้คูปองส่วนลดของฉันคืออะไร?
(แง่คิด: การเติบโตอย่างมากของผู้บริโภคต่อการใช้คูปองส่วนลด)
4. ฉันได้ใช้ประโยชน์จากช่วงขาลงของเศรษฐกิจ ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ที่จะส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อไปในอนาคตหรือไม่?
(แง่คิด: กลยุทธ์การสื่อสาร)
(แง่คิด: กลยุทธ์ CRM)
5. ฉันได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของกลยุทธ์เกี่ยวกับการ search ให้เหมาะกับภาวะปัจจุบันหรือไม่?
(แง่คิด: ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายและคำที่ใช้ในการค้น)
(แง่คิด: ใช้ display ads เพิ่มเข้าไปในแคมเปญแบบ search)
6. ฉันมีความคิดสร้างสรรค์หรือไม่? หรือว่าทำแบบเดิมๆ ที่เคยทำ
(แง่คิด: ลองเลือกใช้ Twitter, Facebook, โฆษณาแบบวิดีโอ, ฯลฯ อย่างเหมาะสม)
เก็บมาฝากโดย
Online Marketing Strategist