หุ้น Apple ร่วงหลัง Tim Cook เผย “ยากมาก” ที่จะคาดการณ์ต้นทุนภาษีนำเข้า ในช่วงหลังเดือนมิถุนายน

หุ้นของบริษัทผู้ผลิต iPhone ดิ่งลงสูงสุดถึง 4% ในช่วงการซื้อขายนอกเวลา หลังจากที่ Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณที่แม้จะเหนือความคาดหมายของ Wall Street แต่รายได้จากส่วนธุรกิจบริการ (Services) ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด กลับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ผลประกอบการเทียบกับการคาดการณ์ของตลาด (ไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคม)

กำไรต่อหุ้น: 1.65 ดอลลาร์ (สูงกว่าประมาณการของ LSEG ที่ 1.63 ดอลลาร์)

รายได้รวม: 95.4 พันล้านดอลลาร์ (สูงกว่าประมาณการของ LSEG ที่ 94.66 พันล้านดอลลาร์)
รายได้จาก iPhone: 84 พันล้านดอลลาร์ (สูงกว่าประมาณการที่ 45.84 พันล้านดอลลาร์)
รายได้จาก Mac: 95 พันล้านดอลลาร์ (สูงกว่าประมาณการที่ 7.77 พันล้านดอลลาร์)
รายได้จาก iPad: 4 พันล้านดอลลาร์ (สูงกว่าประมาณการที่ 6.2 พันล้านดอลลาร์)
รายได้จากอุปกรณ์สวมใส่ อุปกรณ์ภายในบ้าน และอุปกรณ์เสริม: 7.52 พันล้านดอลลาร์ (ต่ำกว่าประมาณการที่ 7.95 พันล้านดอลลาร์)
รายได้จากบริการ: 26.65 พันล้านดอลลาร์ (ต่ำกว่าประมาณการที่ 26.7 พันล้านดอลลาร์)
อัตรากำไรขั้นต้น: 47.1% (เท่ากับประมาณการ)

ผลกระทบจากภาษีนำเข้าและแนวโน้มในอนาคต

Tim Cook ได้ให้ความเห็นต่อผลกระทบของภาษีนำเข้าต่อธุรกิจของ Apple เป็นครั้งแรกในการประชุมนักวิเคราะห์ โดยระบุว่าบริษัทได้รับ “ผลกระทบจำกัด” ในไตรมาสมีนาคม เนื่องจากสามารถปรับห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสมได้

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Kevan Parekh กล่าวว่า Apple คาดว่ารายได้โดยรวมจะเติบโต “ต่ำถึงกลางระดับเลขหลักเดียว” เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน โดยในปีที่แล้ว Apple รายงานยอดขาย 85.78 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสมิถุนายน

บริษัทคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 46% โดยคำนึงถึงต้นทุนภาษีนำเข้า ซึ่งนักวิเคราะห์คาดหวังกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ 1.48 ดอลลาร์จากยอดขาย 89.45 พันล้านดอลลาร์

Cook เปิดเผยว่า Apple คาดว่าภาษีนำเข้าจะเพิ่มต้นทุนในไตรมาสปัจจุบันถึง 900 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งสมมติฐานว่าจะไม่มีภาษีนำเข้าใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงสำคัญอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องยากมาก” ที่จะคาดการณ์หลังจากเดือนมิถุนายน “เพราะผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภาษีนำเข้า”

กลยุทธ์การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน

Cook เปิดเผยต่อ CNBC ว่า Apple กำลังจัดหา iPhone ประมาณครึ่งหนึ่งสำหรับตลาดสหรัฐฯ จากอินเดีย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ส่วนใหญ่จากเวียดนาม ซึ่งมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าจีน อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงผลิตสินค้า “ส่วนใหญ่” สำหรับประเทศอื่นๆ ในจีน

iPhone ใช้ชิปจำนวนมากที่ผลิตในประเทศ โดย Cook กล่าวว่า Apple กำลังซื้อชิป 19 พันล้านชิ้นในปีนี้จากสหรัฐฯ และเน้นย้ำว่า “สำหรับ iPhone จริงๆ แล้วต้องดูในระดับที่ลึกกว่านั้นและพิจารณาชิ้นส่วนแต่ละชิ้นและแหล่งที่มา”

การซื้อคืนหุ้นและเงินปันผล

Apple เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการซื้อคืนหุ้นสูงสุด 100 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ลดลงจาก 110 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผล 26 เซ็นต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4% โดย Cook ยืนยันว่า “เรายังคงวางแผนที่จะเพิ่มเงินปันผลประจำปี”

ผลประกอบการตามกลุ่มผลิตภัณฑ์

บริษัทรายงานกำไร 1.65 ดอลลาร์ต่อหุ้นจากรายได้สุทธิ 24.78 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เทียบกับ 23.64 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.53 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีก่อน

สายผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท iPhone ทำรายได้สูงกว่าประมาณการที่ 46.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ โดยยอดขายโดยรวมของสายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเกือบ 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ธุรกิจบริการที่ทำกำไรได้มาก ซึ่งรวมถึงการสมัครสมาชิก iCloud บริการอย่าง Apple Music และ Apple TV+ การรับประกันและรายได้จากข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการค้นหา เช่น ข้อตกลงกับ Google เติบโตขึ้น 11.65% เป็น 26.65 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม รายได้จากบริการนี้ต่ำกว่าความคาดหมายของ StreetAccount เล็กน้อย และในปีที่แล้ว ธุรกิจบริการของ Apple เติบโต 14.2% ในไตรมาสมีนาคม

ฮาร์ดแวร์ของ Apple โดยทั่วไปทำผลงานได้ดีในไตรมาสนี้ ยอดขาย Mac เพิ่มขึ้นเกือบ 7% เป็นเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ และยอดขาย iPad เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 6.4 พันล้านดอลลาร์ Apple ได้แนะนำรุ่น iPad Air และ MacBook Air ระดับกลางใหม่ในเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอุปกรณ์สวมใส่ของ Apple (Wearables division) ซึ่งรวมถึงยอดขาย Apple Watch, AirPods และอุปกรณ์เสริม ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหลือ 7.52 พันล้านดอลลาร์ Cook อธิบายว่าการลดลงนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัว Vision Pro ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

สถานการณ์ในตลาดต่างประเทศและ AI

ยอดขายในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรวมถึงไต้หวันและฮ่องกง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 16 พันล้านดอลลาร์ Cook กล่าวว่ายอดขายในจีนกำลังเร่งตัวขึ้นเป็นรายไตรมาส และยอดขายของ Apple ในภูมิภาคนี้จะคงที่หากไม่มีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ในทางกลับกัน ยอดขายในอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Apple และมีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นก่อนการเก็บภาษีนำเข้า เพิ่มขึ้นเกือบ 8% Cook บอกกับ Steve Kovach ของ CNBC ว่า Apple ไม่พบหลักฐานของการ “เร่งสั่งซื้อล่วงหน้า” เนื่องจากภาษีนำเข้า

ในระหว่างไตรมาสนี้ Apple ได้เลื่อนคุณสมบัติ AI บางอย่างที่ประกาศไว้เมื่อฤดูร้อนที่แล้วไปเป็น “ปีที่จะมาถึง” ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าอาจลดความน่าสนใจของ iPhone รุ่นล่าสุดของ Apple ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติสำหรับผู้ช่วยเสียง AI ของ Apple อย่าง Siri ที่เป็นจุดเน้นของโฆษณาที่บริษัทได้ยกเลิกไปแล้ว Cook กล่าวในการประชุมนักวิเคราะห์ว่า “เราต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อทำงานกับคุณสมบัติเหล่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานคุณภาพสูงของเรา”

Source

https://www.cnbc.com/2025/05/01/apple-aapl-earnings-report-q2-2025-.html

Marketing Oops!