Elon Musk เปิดแผนสร้างเมืองแห่งอนาคตในซาอุฯ ด้วย 4 เทคโนโลยีสุดล้ำจากจินตนาการสู่ความเป็นจริง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

หลายคนคงยังไม่เบื่อกับชายที่ชื่อ Elon Musk ที่ได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีนักประดิษฐ์และหลายครั้งสิ่งที่เขาทำมักจะเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต้องจับตา แม้ช่วงหลังจะเริ่มมีความเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง โดยล่าสุด เขาได้เดินทางไปพร้อมกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ในการเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียในงาน US-Saudi Investment Forum ครั้งนี้ Elon Musk ไปพร้อมกับหุ่นยนต์ Humanoid ที่ชื่อว่า “Optimus” ที่สามารถเต้นได้เพื่อบอกว่า อนาคตได้เริ่มต้นแล้ว

ซึ่ง Optimus ไม่ใช่แค่การโชว์ของเล่นสุดล้ำไฮเทค แต่มันคือองค์ประกอบของการฉายภาพอนาคตที่ Elon Musk กำลังสร้าง ไม่ว่าจะเป็นโลกที่มีหุ่นยนต์เป็นผู้ช่วยประจำบ้าน, รถยนต์ไร้คนขับพาเราท่องเมือง, ดาวเทียมโคจรเพื่อเชื่อมต่อผู้คน และ AI ที่ทำงานแทนมนุษย์ในทุกอุตสาหกรรม

หุ่นยนต์ Tesla Optimus สู่ผู้ช่วยในโลกจริง

ใครที่เคยดูหนังเรื่อง “Star Wars” คงต้องคุ้นเคยกับ 2 หุ่นยนต์สุดอัจฉริยะอย่าง C-3PO หรือ R2-D2 ซึ่งถ้าหุ่นยนต์ทั้ง 2 อยู่ในบ้านน่าจะเปลี่ยนงานบ้านให้กลายเป็นเรื่องง่าย นั่นคือภาพที่ใกล้จะเกิดขึ้นจริง เมื่อ Elon Musk เปิดตัว Tesla Optimus หรือ Tesla Bot หุ่นยนต์ Humanoid คล้ายมนุษย์ที่จะปฏิวัติการทำงานและช่วยเหลือมนุษย์ในภารกิจที่ซ้ำซาก น่าเบื่อหรืออันตรายเกินไป

ในการเยือนซาอุดีอาระเบีย เขาได้นำเสนอศักยภาพของ Optimus ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แม้กระทั่งการเต้นโชว์และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างได้ สอดรับกับโครงการเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคตอย่าง NEOM ของซาอุดีอาระเบียที่ Optimus สามารถเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นงานบริการในโรงแรมหรู การดูแลผู้สูงอายุในสถานพยาบาล การช่วยงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่การเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในบ้าน

โดยเขาเชื่อว่า หุ่นยนต์ Humanoid เหล่านี้จะสามารถปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล และทำให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และมีความหมายมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังความกังวลเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • การแทนที่แรงงานมนุษย์: แม้ Optimus จะถูกออกแบบมาเพื่อทำงานที่มนุษย์ไม่อยากทำ แต่ก็อาจพัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ก่อให้เกิดคำถามเรื่องแรงงาน
  • ความปลอดภัยและจริยธรรม: หุ่นยนต์ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ถูกแฮ็กได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย การวางกรอบจริยธรรมและมาตรการความปลอดภัยที่รัดกุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Elon Musk เคยออกมาเตือนความเสี่ยงนี้
  • อคติที่อาจฝังอยู่ใน AI: หากข้อมูลที่ใช้ฝึกฝน AI ของ Optimus มีอคติแฝงอยู่ หุ่นยนต์ก็อาจแสดงพฤติกรรมที่เลือกปฏิบัติหรือไม่เป็นธรรมได้
  • การยอมรับของสังคม: การอยู่ร่วมกับหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ในชีวิตประจำวัน อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวและสร้างความคุ้นเคยของคนในสังคม

ถึงอย่างนั้น Tesla Optimus ในซาอุดีอาระเบียก็เป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวข้ามจากจินตนาการสู่โลกความเป็นจริงที่จับต้องได้ โดยต้องอาศัยการพัฒนาควบคู่ไปกับการวางรากฐานทางกฎหมายและสังคมที่เหมาะสม

 

ปฏิวัติการเดินทาง สู่มหานครอัจฉริยะ

อีกหนึ่งหุ่นยนต์ที่มาในรูปแบบของยานพาหนะอย่าง RoboTaxi หรือรถแท็กซี่ไร้คนขับ ซึ่งจะช่วยตอกย้ำถึงศักยภาพของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) ของ Tesla ที่จะเข้ามาพลิกโฉมระบบขนส่งในซาอุดีอาระเบีย ที่นอกจากไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยมลพิษและสอดรับกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน “Saudi Vision 2030” แต่เทคโนโลยีไร้คนขับยังเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ อีกนับไม่ถ้วน

โดยเป้าหมายของเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อให้เมืองใหญ่ในซาอุฯ ปราศจากปัญหาการจราจรติดขัด อุบัติเหตุลดลง และผู้คนใช้เวลาบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ Tesla FSD (Full Self-Driving) ตั้งเป้าไว้ เช่น

  • ความปลอดภัยที่มากกว่า: ระบบ AI ของ Tesla สามารถประมวลผลข้อมูลจากกล้องและเซ็นเซอร์รอบคันได้เร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า ลดความผิดพลาดจากความเหนื่อยล้าหรือความประมาท (Human Error)
  • ประสิทธิภาพการจราจร: รถยนต์ไร้คนขับสามารถสื่อสารกันเองและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ทำให้การจราจรลื่นไหลและลดการสิ้นเปลืองพลังงาน
  • การเข้าถึงที่เท่าเทียม: รถยนต์ไร้คนขับช่วยให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่ไม่สามารถขับรถได้ เข้าถึงการเดินทางได้มากขึ้น
  • ปลดล็อกพื้นที่เมือง: เมื่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับเพิ่มมากขึ้น ความจำเป็นในการใช้พื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ใจกลางเมืองก็ลดลง สามารถนำพื้นที่เหล่านั้นไปพัฒนาเป็นสวนสาธารณะหรือพื้นที่สร้างสรรค์อื่นๆ ได้

นอกจากนี้ เขายังได้เสนอ The Boring Company ที่เคยสร้างความฮือฮาจากระบบขนส่งแบบ Hyperloop มาแล้ว โดยครั้งนี้บริษัทดังกล่าวจะเน้นการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อสร้างระบบขนส่งความเร็วสูง โดยอุโมงค์เหล่านี้สามารถเป็นเส้นทางเฉพาะสำหรับ Tesla EV ไร้คนขับ เชื่อมต่อจุดสำคัญต่างๆ ในเมืองอย่างรวดเร็ว การผสานเทคโนโลยีเข้ากับแผนพัฒนาเมืองในซาอุฯ จะช่วยสร้างระบบนิเวศการขนส่งแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

Credit Photo: NBC Washington

เชื่อมการสื่อสารไร้พรมแดนทั่วราชอาณาจักร

นอกจากโชว์เทคโนโลยีแล้ว Elon Musk ยังได้แสดงความขอบคุณต่อราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่อนุมัติให้ ซึ่งเป็นบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมความเร็วสูงของบริษัท SpaceX สามารถให้บริการในภาคการเดินเรือและการบินได้แล้ว ช่วยปลดล็อกศักยภาพการสื่อสารในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก และยกระดับอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ

โดย Starlink ใช้เครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำหลายพันดวง ทำให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ (Low Latency) ทำให้ซาอุดีอาระเบียจะได้รับจากการขยายบริการของ Starlink ไม่ว่าจะเป็น

  • การเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกล: เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้แม้อยู่ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ หรือพื้นที่ชายฝั่งที่โครงข่ายภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและเปิดโอกาสทั้งการศึกษา ธุรกิจ และการบริการสาธารณสุขทางไกล
  • ยกระดับอุตสาหกรรมการเดินเรือและการบิน: เรือขนส่งสินค้า เรือสำราญ หรือเครื่องบิน จะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และประสบการณ์ของผู้ใช้บริการ
  • สนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงาน: แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่อยู่นอกชายฝั่งหรือในพื้นที่ห่างไกล จะสามารถส่งข้อมูลและควบคุมการทำงานจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โครงสร้างพื้นฐานสำหรับเมืองอัจฉริยะ: ช่วยให้เมืองอัจฉริยะอย่าง NEOM สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT นับล้านชิ้น ภายใต้การเชื่อมโยงของ Starlink
  • การรับมือภัยพิบัติ: ในสถานการณ์ฉุกเฉิน Starlink สามารถเป็นช่องทางการสื่อสารสำรองที่สำคัญได้

แม้ว่าปัจจุบันการอนุมัติจะเน้นไปที่ภาคการเดินเรือและการบิน แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Starlink จะขยายบริการไปสู่ผู้ใช้งานทั่วไปในอนาคต

 

ไขความลับจักรวาลนวัตกรรมแห่งอนาคต

หนึ่งในธุรกิจที่ Elon Musk นำเสนอคือ xAI ที่มุ่งเน้นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง การมาเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้เพื่อจุดประกายความร่วมมือในด้านการวิจัยและพัฒนา AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมอื่นๆ สอดรับกับซาอุดีอาระเบียที่ให้ความสำคัญกับ AI เช่นกัน โดยตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้าน AI ภายใต้แผน “Saudi Vision 2030” โดยเน้นย้ำการเปลี่ยนผ่านการพึ่งพาพลังงานไปสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยเฉพาะในด้าน

  • การดึงดูดผู้มีความสามารถระดับโลก: การมีโครงการวิจัย AI ที่ท้าทายและมีความหมาย จะช่วยดึงดูดนักวิจัยและวิศวกร AI ชั้นนำจากทั่วโลกให้มาทำงานในซาอุดีอาระเบีย
  • การพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์: ด้วยแนวทางของ xAI การพัฒนา AI จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและรอบด้าน ซึ่งนำไปสู่การสร้าง AI ที่มีความรับผิดชอบและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
  • การประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ: องค์ความรู้และเทคโนโลยีจาก xAI สามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในภาคส่วนต่างๆ ของซาอุฯ ตั้งแต่พลังงาน การเงิน การดูแลสุขภาพ ไปจนถึงการวางผังเมืองอัจฉริยะ
  • การเป็นผู้นำทางความคิด: ความร่วมมือในการพัฒนา AI ขั้นสูง จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้นำทางความคิดและศูนย์กลางนวัตกรรมด้าน AI

การเข้ามามีบทบาทของ xAI ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบีย อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เร่งให้เกิดการพัฒนา AI ที่ก้าวล้ำและสร้างผลกระทบในวงกว้าง

การนำเสนอ 4 เทคโนโลยีสุดล้ำเปรียบเสมือนการมอบกุญแจสู่อนาคตให้กับซาอุดีอาระเบีย ภายใต้แผน “Saudi Vision 2030” ที่จะช่วยสร้างภาพจำใหม่ของซาอุดิอาระเบียในฐานะหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีที่ไม่ใช่พ่อค้าน้ำมันอีกต่อไป ซาอุดีอาระเบียกำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าพร้อมแล้วที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ โลกทั้งใบกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าดินแดนแห่งทะเลทรายแห่งนี้จะสามารถเนรมิตอนาคตด้านเทคโนโลยีให้กลายเป็นจริงได้หรือไม่

 

Source: AA.comNBC NewsThe Guardian


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา