อาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ (Cyber Crime) เริ่มค่อยๆ มีให้เห็นเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่เรื่องของระบบ Cyber Security มีการพูดถึงมามากกว่า 10 ปี แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีทำให้เหล่าแฮกเกอร์ก็มีความสามารถที่พัฒนาขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะการพยายามหาวิธีเจาะเข้าสู่ระบบเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นบัญชีเงินเพื่อทำการโอนเงิน หรือข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำการหลอกลวง
เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้กำลังระบาดที่ประเทศไทย แต่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ยิ่งเมื่อมีการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว ก็หมายถึงโอกาสที่ AI จะถูกนำมาใช้ในทางผิดกฎหมายมีมากขึ้น และกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปต้องหันมาระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ทั้งการเชื่อมต่อระบบหรือการจะดาวน์โหลดอะไรก็ตาม รวมถึงการรับสายแปลกๆ
ล่าสุด สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI (Federal Bureau of Investigation) ออกมาประกาศเตือนให้ระวังการชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟนในพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า แฮกเกอร์บางรายทิ้งรหัสการเจาะข้อมูลไว้ที่หัวชาร์จสาธารณะ ซึ่งเมื่อมีการนำสมาร์ทโฟนมาชาร์จจะทำให้รหัสเหล่านั้นติดเข้าไปในระบบของสมาร์ทโฟน และเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้
โดยเฉพาะการชาร์จผ่านช่องเสียบ USB สาธารณะ ทั้งในร้านอาหารหรือสถานที่ต่างๆ อย่างสนามบิน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่ามีการทิ้งรหัสไว้ที่เต้ารับปลั๊กชาร์จ แต่ทางที่ดีไม่ควรชาร์จในที่ชาร์จสาธารณะ นอกจากนี้ยังพบว่า แฮกเกอร์บางรายยอมทิ้งสายชาร์จ USB เพื่อให้คนอื่นๆ สะดวกในการชาร์จและจะสามารถเขาะเข้าระบบได้ง่าย
ซึ่ง FBI แนะนำว่า ทางที่ดีควรใช้ Power Bank ในการชาร์จแบตฯ นอกสถานที่ หรือหากจำเป็นต้องชาร์จในที่สาธารณะควรใช้แบบปลั๊กเสียบเต้ารับ และควรจะใช้อุปกรณ์ส่วนตัว ไม่ควรเลือกชาร์จผ่านช่องเสียบ USB
Source: CNN
