ทำความรู้จัก 4 TikTokers ผู้อยู่เบื้องหลังการปลุกปั้น TikTok ให้แจ้งเกิดในไทย

  • 17.1K
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อไม่นานนี้ We Are Social และ Hootsuite เผยรายงาน Digital 2020 ทั่วโลกและประเทศไทย พบว่าปัจจุบันค่าเฉลี่ยทั่วโลกคนใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ต 6 ชั่วโมง 43 นาทีต่อวัน

ส่วนประเทศที่ประชากรใช้เวลาอยู่บนออนไลน์สูงสุดในโลก คือ ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 9 ชั่วโมง 45 นาทีต่อวัน ขณะที่ประเทศไทยติด Top 5 ประเทศที่มีการใช้ออนไลน์สูงสุด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 1 นาทีต่อวัน

ที่น่าสนใจกว่านั้น เมื่อเจาะลึก Ranking แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมในปีนี้ พบว่า แพลตฟอร์มมาแรงที่น่าจับตามองคือ TikTok” สามารถสร้างวัฒนธรรม “Short Video” ที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากติดอันดับ Top 10 ทั้งในระดับโลกและประเทศไทย ในการเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากที่สุด

และ Mobile App ที่มีผู้ใช้สูงสุด (Active User) จนทำให้วัฒนธรรม Short Video ถูกบันทึกเป็นรูปแบบคอนเทนท์แห่งยุคมิลเลเนี่ยม

ความแรงของ “TikTok” ยังสะท้อนได้จากข้อมูลของ Sensor Tower ได้สำรวจแอปพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดทั่วโลกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า “TikTok” ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในโลก ทั้งบน App Store และ Google Play Store ด้วยยอดดาวน์โหลด 104.7 ล้านครั้ง!!

จากตลาดทั่วโลก กลับมายังประเทศไทย “TikTok” ใช้เวลาเพียง 1 ปี สามารถพัฒนาตลาดและสร้างฐานผู้ใช้ในไทย จนติด 1 ใน 3 ประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความสำเร็จของ “TikTok” ในประเทศไทยในวันนี้ และก้าวต่อไปในอนาคต เบื้องหลังมาจาก 4 TikTokers ซึ่งถือเป็นทีมผู้บุกเบิกสร้างรากฐาน TikTok ในประเทศไทยให้แข็งแกร่งมาตั้งแต่สเต็ปแรกไม่ว่าจะเป็น

  • คุณปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร Head of Marketing
  • คุณลักศมี จง Campaign and Content Manager
  • คุณธนพล อาภาสิทธินันท์ Director of Partnership
  • และ คุณศุภวัฒน์ พีรานนท์ Head of Music
(บรรยายใต้ภาพ (ซ้ายไปขวา) : คุณธนพล อาภาสิทธินันท์, คุณปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร, คุณลักศมี จง และคุณศุภวัฒน์ พีรานนท์)

TikTokers ทั้ง 4 คน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เคยร่วมงานกับองค์กรชั้นนำในระดับโลกและประเทศไทย นำเอาประสบการณ์ความรู้ ความสามารถของตัวเองมาผสานเข้ากับ Culture ของ TikTok ที่เปิด โอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ กล้าคิด – กล้าลงมือทำในสิ่งที่แตกต่าง เพื่อสร้าง “คุณค่า ที่มีความหมาย” ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องใน Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค – ผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์  – อุตสาหกรรมเพลง – แบรนด์สินค้าและบริการ ต่างๆ

Marketing Oops! จะพาไปล้วงลึกทีม “TikTok” ในประเทศไทยเพื่อเจาะมุมมองความคิดของ 4 TikTokers กับการสร้าง TikTok ให้เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่ม User และ Advertiser รวมถึงสไตล์การทำงาน – การใช้ชีวิตที่สามารถ Work-Life Balance ได้อย่างลงตัว

และนี่จะเป็นคำตอบว่า ทำไม “TikTok” ถึงเป็น แพลตฟอร์มสร้างสรรค์ Short Video ที่เติบโตเร็ว!!!

5 Key Takeaways กลยุทธ์สร้างความสำเร็จ “TikTok” 

ช่วงปี 2019 เริ่มฟอร์มทีม TikTok” ในประเทศไทยในแต่ละส่วนงาน โดยมี 4 สายงานหลักที่ถือเป็น “ทัพหน้า” ในการสร้างตลาด TikTok ในไทย คือ ฝ่ายการตลาด, ฝ่ายพัฒนาคอนเทนท์และผู้ใช้, ฝ่ายพัฒนารายได้ และฝ่ายมิวสิค

เพียง 1 ปีหลังฟอร์มทีมในประเทศไทย TikTok” กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรง จนถึงวันนี้เชื่อว่า ใครที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นประจำ คงไม่มีใครไม่รู้จัก TikTok” และหลายคนก็เป็นผู้ใช้แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นนี้เช่นกัน หรือมากไปกว่านั้นเป็น Content Creator ที่สนุกกับการสร้างสรรค์วิดีโอสั้นของตัวเอง จนทำให้ใครอีกหลายคน กลายเป็น Micro – Nano Influencer ไปแล้ว

5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้TikTok” ใช้เวลาไม่นานก็สามารถแจ้งเกิดในประเทศไทย และประสบความสำเร็จ ทั้งในเชิงของการสร้างฐานผู้ใช้, คลังเพลงที่มีทั้งเพลงดังระดับโลก และในประเทศไทย, การเกิดขึ้นของ Content Creator หน้าใหม่ที่เติบโตไปเป็น Influencer รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากทั้งพาร์ทเนอร์และลูกค้า ผู้ลงโฆษณา ประกอบด้วย

– สร้างความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ด้วยการปักธง เป็นแพลตฟอร์ม “Short Video” ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาเป็น Content Creator

“Culture ของแพลตฟอร์ม TikTok มีความเฉพาะตัว ผู้เล่นที่ต้องการสร้างคอนเทนท์ของตัวเอง จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการคิด Story มาแล้ว และใส่ความสนุกสนานลงไปในคอนเทนท์ภายใต้เวลาที่จำกัดของวิดีโอ ไม่ใช่แค่ถ่าย Selfie แล้วโพสต์ได้เลย นี่จึงทำให้ TikTok มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจากแพลตฟอร์มอื่นอย่างชัดเจน

ช่วงแรกที่เปิดตัวในไทย ตอนนั้นความยาววิดีโอสูงสุดอยู่ที่ 15 วินาที ซึ่งความยากอยู่ที่การคิด Content Story แต่หลังจากนั้นไม่นาน เราสามารถสร้างกลุ่มคนที่เข้าใจ Culture แบบเฉพาะของ TikTok และสนุกกับการครีเอทวิดีโอสั้น กระทั่งปัจจุบันความยาวสูงสุดของวิดีโออยู่ที่ 1 นาที” คุณลักศมี เล่าจุดเริ่มต้นของการสร้างความรู้ความเข้าใจใน Culture การเล่น TikTok

– สร้าง “Community” และ “Localized Content” เข้าถึงผู้ใช้งานคนไทย

“ในด้านแพลตฟอร์ม TikTok ได้เข้าควบรวมกิจการของ “Musical.ly” แอปฯ วิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้มากที่สุดในแถบอเมริกาเหนือ ทำให้ “TikTok” ได้ฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้น บวกกับความสำเร็จในการสร้าง Community ที่ไม่ว่าผู้ใช้จะสนใจไลฟ์สไตล์ หรือความบันเทิงอะไรก็ตาม แพลตฟอร์ม TikTok มีครอบคลุมหมด ไม่ว่าจะเป็น ไลฟ์สไตล์, อาหาร, เพลง ฯลฯ เพื่อส่งเสริมให้ User มาร่วมกัน สร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอสั้น

โดยเราเล็งเห็นความสำคัญของ “Local Content” ในช่วง 3 เดือนแรก ที่ผมมาทำงานที่ TikTok เราได้มีการปรับเปลี่ยนเพลงให้ Localized มากขึ้น หลังจากนั้นได้เห็นการเติบโตของ Playlist ที่เป็น Local Content ที่โตขึ้นถึง 400% เพราะฉะนั้นภายใต้ความเป็น Global Platform ขณะเดียวกันเราให้ความสำคัญกับ Local ควบคู่กัน” คุณศุภวัฒน์ ฉายภาพอีกหนึ่งความสำเร็จของ TikTok ในแต่ละประเทศ – แต่ละภูมิภาคทั่วโลก

ปัจจุบัน TikTok” เป็นพาร์ทเนอร์กับ 3 ค่ายเพลงใหญ่ คือ Warner Music, Universal Music Group, Sony Music Entertainment รวมทั้ง 3 ค่าย มีคลังเพลงมากกว่า 200 – 300 ล้านเพลง ทำให้ TikTok” สามารถนำเพลงเหล่านี้ มาทำ Relevant Content หรือคอนเทนท์ที่เชื่อมโยงเข้ากับเทรนด์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ ได้

บวกกับ Local Partner” ที่เป็นค่ายเพลง และศิลปินในไทย ทำให้คลังเพลงที่มีอยู่ใน TikTok สามารถตอบความต้องการของผู้ใช้งานได้หลากหลาย และอัพเดทเทรนด์ให้ทันสมัยตลอดเวลา

Machine Learning” สร้างประสบการณ์การใช้งานแบบ Personalization

Machine Learning เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มและเลือกชมคอนเทนท์ของ User เป็นอีกจุดเด่นของ “TikTok” ที่ตอบโจทย์ประสบการณ์การใช้ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งในฝั่ง Content Creator และฝั่งผู้ใช้ทั่วไป

เช่น คนที่ครีเอทคอนเทนท์บน TikTok แม้จะไม่มีผู้ติดตาม หรือมีผู้ติดตามน้อย ก็ไม่ต้องกังวลว่าวิดีโอของเราจะไม่มีคนดู หรือมีคนดูน้อย

เพราะ Machine Learning จะเรียนรู้ทุกวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น จากนั้นแต่ละวิดีโอจะถูกส่งออกไปปรากฏอยู่ในหน้า Feed ของคนที่มีความสนใจในคอนเทนท์ประเภทเดียวกับวิดีโอนั้นๆ สิ่งที่ตามมา คือ ทำให้ยอด View และยอด Engagement สูง เมื่อมีการตอบรับดี ย่อมทำให้คนสนุกกับการครีเอทคอนเทนท์ มากขึ้น

หรือแม้แต่การออกแบบ Sticker Effect มีหลายดีไซน์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเลือกใช้ให้เข้ากับคอนเทนท์ของตัวเอง ขณะเดียวกัน มีการจัดหมวดหมู่คอนเทนท์แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ทำให้ User Journey ง่ายดายมากขึ้น

– “Local Team” สร้างทีมแต่ละประเทศ เพื่อเข้าใจคนท้องถิ่นได้ดีขึ้น

“การมี Local Team ทำให้การทำ Localization ง่ายมากขึ้น เพราะแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาค มีเทรนด์ และความชื่นชอบแตกต่างกัน พอเรามีทีม Local จึงสามารถทำการตลาดได้เร็ว เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยได้อย่างรวดเร็วเวลามีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมีผลช่วยให้เราสร้างฐานผู้ใช้ได้มากขึ้น” คุณปกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อดีของการมี Local Team

– “Partnership” ช่วยแบรนด์บรรลุเป้าหมายธุรกิจ – เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ

โมเดลการสร้างรายได้ของ “TikTok” มาจากการขายโฆษณาในรูปแบบต่างๆ โดยระหว่างแบรนด์กับ TikTok ถือเป็น Partnership ที่สร้างการเติบโต ไปด้วยกัน โดยที่ “TikTok” จัดสรรพื้นที่บนแพลตฟอร์มส่วนหนึ่งให้กับการโฆษณา เพื่อให้แบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ มาใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในการสื่อสาร และทำการตลาด สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่าง Right Target และ Right Content เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาดของแต่ละแบรนด์

“ช่วงแรกด้วยความที่เรายังใหม่สำหรับตลาดไทย กลยุทธ์ระยะสั้นจึงโฟกัสไปที่กลุ่มผู้ประกอบการ SME ก่อน เพราะขั้นตอนการตัดสินใจต่างๆ มาจากเจ้าของบริษัท จึงไม่ซับซ้อนหลายขั้นตอน โดยในระหว่างนี้เราสร้างการรับรู้ และมี Case Study ระดับหนึ่ง จึงได้ขยายไปยังแบรนด์ใหญ่ ซึ่งเป็น Big Spender กระทั่งทุกวันนี้ มีแบรนด์ใหญ่ติดต่อเข้ามามาก” คุณธนพล เล่ากลยุทธ์การสร้างรายได้ของ TikTok ในประเทศไทยในช่วงเริ่มต้น

ภายใต้ Roadmap ของ “TikTok” ต่อจากนี้ นอกจากสร้างการเติบโต ทั้ง Community ผู้ใช้, Creator, รายได้โฆษณาแล้ว ต่อไปจะโฟกัสนโยบายTrust and Safety” มากขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัย บนแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแบรนด์และผู้บริโภค

“เราเป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่มี UGC (User Generated Content) ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเรื่องของ Trust and Safety การสร้างความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม คือ สิ่งที่เราจะมุ่งเน้นนับจากนี้ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จไม่ได้มาแค่เม็ดเงินโฆษณา และจำนวนผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังมาด้วยความปลอดภัย ความรอบคอบ และการตรวจเช็ค” คุณศุภวัฒน์ เล่าถึง Next Step จากนี้

จากความสำเร็จต่างๆ ของ TikTok” ในประเทศไทย จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดบุคลากรในไทยผู้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างรากฐานแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นให้สามารถเติบโตในประเทศไทยได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืน

มาดูกันว่า TikTokers ทั้ง 4 คน แต่ละคนต่างที่มา ต่างประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ แต่อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนทั้ง 4 ตัดสินใจมาร่วมงานกับTikTok” รวมทั้ง Mindset ในการทำงาน และวิถี Work – Life Balance ของคนทำงานรุ่นใหม่

Always Day 1 ทำงานให้เหมือนเป็นวันทำงานวันแรกของเรา”

เริ่มกันที่ TikToker สาว “คุณลักศมี จง Campaign and Content Manager” ก่อนที่จะมาร่วมบุกเบิก TikTok” เดิมทีทำงานอยู่ที่ LAZADA ในส่วนงานด้านมีเดีย แล้ววันหนึ่งได้มีคนติดต่อเข้ามาทาบทามให้มาร่วมงานกับ TikTok

“คุณลักศมี” เห็นว่า เป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตการทำงาน ที่จะได้ทำงานกับแพลตฟอร์มใหญ่ระดับโลก จึงตัดสินใจมาสัมภาษณ์งาน และในที่สุดก็ได้มาเป็น Campaign and Content Manager

“โดยส่วนตัวชอบการทำงานในที่ๆ ทุกอย่างมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และชอบงานคอนเทนท์ งานด้านความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว จึงมองว่าเป็นความท้าทาย และสนุก เพราะเราอยู่ในช่วงอายุที่ไม่ใช่จะมานั่งคิดหางานสบาย แต่ต้องเป็นงานที่ทำให้เราได้เรียนรู้มากที่สุด

มีวัฒนธรรมของ TikTok ที่ชอบมาก คือ “Always Day 1” และ “Keep yourself humble” ทำงานให้เหมือนกับว่าเป็นวันทำงานวันแรกของเรา เพราะวันทำงานวันแรกของทุกคนจะตื่นเต้น มี Energy เปิดรับทุกอย่าง ขณะเดียวกันในการทำงาน ควรมีความอ่อนน้อม ซึ่งที่นี่มีลำดับชั้นค่อนข้างน้อย และสงสัยอะไร ถามได้ เราไม่รู้ ไม่เป็นไร”

ไม่เพียงแต่เป็นสาวเก่งดูแลงานด้านคอนเทนท์และแคมเปญเท่านั้น คุณลักศมี ยังมีความสามารถด้านศิลปะ งานดีไซน์ และงานแฟชั่น เป็นสิ่งที่เธอ หลงใหล และเป็นงานอดิเรกในช่วงวันหยุด อีกทั้งยังได้นำความรู้ความสามารถตรงนี้ มาปรับใช้กับการทำงานเช่นกัน โดยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการดูแลชุดศิลปินใน Music Video บางแคมเปญ Challenge ของ TikTok

ดังนั้นด้วยลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ บวกกับการไม่หยุดเรียนรู้ และวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิด ความรู้ ความสามารถ อย่างเต็มที่ ทำให้วิถีชีวิตของคุณลักศมี สามารถ Work – Life Balance ได้อย่างลงตัว ทั้งงานประจำ และงานอดิเรกที่เธอรัก

“เป้าหมายโดยส่วนตัวในการทำงานที่ TikTok คือ เมื่อไรที่ทุกคนพูดว่า ต้องมีแอคเคาน์ TikTok ทุกคนอยากคิดคอนเทนท์ที่สนุกสนาน ใส่ความคิดสร้างสรรค์ในนั้น และคุณภาพคอนเทนท์ที่โพสต์ เป็นคอนเทนท์ที่คนอยากดู มีทั้ง Entertaining และ Educational ไปด้วยกัน นั่นคือการประสบความสำเร็จของเราแล้ว ที่สะท้อนได้ว่า สิ่งที่เราทำทำกันมา สามารถสร้างแบรนด์ดิ้งได้ชัดเจน” คุณลักศมี สรุปทิ้งท้ายถึงสิ่งที่อยากเห็น TikTok ในวันข้างหน้า 

“TikTok เปิดโอกาสให้คนไม่มีชื่อเสียง ได้สร้างตัวเอง – เปิดโอกาสให้ “Local Team” ได้ทดลองทำ และเรียนรู้”

อีกหนึ่งหนุ่มผู้บริหารไฟแรง “คุณปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร Head of Marketing” ดีกรีความสามารถและประสบการณ์ ได้ร่วมงานกับ Tech Company ระดับโลกหลายแห่ง เช่น Google , LINE  ก่อนจะมาอยู่ที่ TikTok”

ด้วยเหตุผลว่า เพราะ Value ของ “TikTok” ที่ให้กับผู้คนแตกต่างจากแพลตฟอร์ม อื่นตรงที่การที่คนๆ หนึ่งจะเป็น Influencer และสามารถสร้างโมเดลรายได้ของตัวเองผ่านแพลตฟอร์มเป็นสิ่งที่ยาก แต่สำหรับ TikTok เปิดโอกาสให้กับทุกคนที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีคนรู้จักมาก่อน ได้สร้างตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้

คุณปกรณ์ จึงอยากเรียนรู้แนวคิดของแพลตฟอร์ม TikTok ว่า ทำไมถึงเชื่อใน การเปิดพื้นที่แห่งโอกาสให้กับผู้คน และไม่ใช่แค่ให้โอกาสคนทั่วไปเท่านั้น ขณะเดียวกันที่ TikTok ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ยังมีวัฒนธรรม การทำงานที่เปิดกว้างให้บุคลากรกล้าคิด และทดลองทำ

“ด้วยความที่ TikTok ให้ความสำคัญกับ Localization ทำให้บางอย่าง Local Team ก็ไม่เคยทำมาก่อน แต่ที่นี่เปิดโอกาสให้ได้ทดลอง พอเราได้ลอง ก็ได้เรียนรู้ พอได้เรียนรู้ ก็เอาไปปรับปรุงในอนาคต ซึ่งตรงกับสไตล์การทำงานโดยส่วนตัว ทำให้ผมสนุกกับการทำงานในองค์กรนี้ และได้เรียนรู้เรื่องดิจิทัล

ในอนาคตข้างหน้า ผมอยากให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคใช้เวลา อยู่กับเรานานขึ้น โดยที่ผู้ใช้สามารถออกแบบ Creativity ในคอนเทนท์ได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะอายุเท่าไร ทำอาชีพอะไรก็ตาม”

คุณปกรณ์ นับเป็นอีกหนึ่งคนทำงานรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างสมดุลทั้งชีวิตการทำงาน และการดูแลสุขภาพ โดยนอกจากหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่แล้ว ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับสุขภาพ ทั้งการออกกำลังกาย และดูแลอาหารการกิน จนเรียกได้ว่า เป็นกูรูด้านสุขภาพที่สามารถให้คำแนะนำกับเพื่อนสนิท และคนรอบข้างได้

“อันดับแรกที่ให้ความสำคัญ คือ สุขภาพและครอบครัว ส่วนอันดับ 2 – 3 จะหมุนเปลี่ยนไปตามอายุ และช่วงเวลาที่เราอยู่ใน Life Cycle นั้นๆ เพราะฉะนั้น การบาลานซ์ชีวิตก็จะสลับสับเปลี่ยนตามช่วงอายุ โดยที่สุขภาพและครอบครัว ต้องมาก่อน” Head of Marketing หนุ่ม เผยเคล็ดลับการดูแลตัวเอง ทั้งสุขภาพ และการงาน

“ที่ TikTok ทุกคนสามารถมีพื้นที่ในการคิดสร้างสรรค์”

ด้วย Vision การทำงานโดยส่วนตัวของ “คุณธนพล อาภาสิทธินันท์ Director of Partnership” ที่ต้องการ up scale การเติบโต ด้านรายได้ขององค์กรที่ไปร่วมงานด้วย นับตั้งแต่ทำงานในวงการเอเยนซีกับ Hakuhodo, Dentsu, Media Intelligence และย้ายไปอยู่ในวงการสตาร์ทอัพ ร่วมงานกับ Tech Company ของต่างประเทศ จนสามารถสร้างการเติบโตด้านรายได้ถึง 300% ในเวลาเพียง 1 ปี และเช่นกัน เมื่อได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok” ได้ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน ที่จะนำพารายได้TikTok” ในไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

“ที่ผ่านมาดูแลงานด้าน Business Commercial ต้องติดต่อองค์กร หรือแบรนด์ต่างๆ มาตลอด ดังนั้นการมารับผิดชอบงานด้าน Business Commercial ที่ TikTok ในการพัฒนาโมเดลการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ และบริหารความสัมพันธ์กับพันธมิตร จากแบรนด์ และเอเยนซีต่างๆ ทั้งในไทย และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนตัวมองว่า เป็นความท้าทาย

ที่นี่ทุกคนสามารถมีพื้นที่ในการคิดสร้างสรรค์ และสามารถ run ด้วยตัวเอง ให้อิสระในการเรียนรู้ ตรงกับสไตล์การทำงานของตัวเองที่เราสามารถวางกลยุทธ์เอง วางแนวทางเอง และรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ

ในอนาคตผมอยากเห็น TikTok มีผู้ใช้จำนวนมากในทั่วโลกเหมือนเช่นแพลตฟอร์มอื่น และเป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ มีประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้ และแบรนด์ต่างๆ”

“เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพื่อเปลี่ยนโลกไปด้วยกัน”

นับเป็นผู้บริหารที่มากความสามารถ และประสบการณ์จากหลากหลายวงการ สำหรับ “คุณศุภวัฒน์ พีรานนท์ Head of Music” หรือชื่อที่เราคุ้นเคยกัน เป็นอย่างดี “แชมป์ – ศุภวัฒน์” ในฐานะอดีตศิลปินจากค่าย Loveis, พิธีกร และนักจัดรายการวิทยุ ก่อนจะผันไปทำงานประจำด้วยการเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย จากนั้นไปร่วมงานกับ Thai Union ซึ่งเป็นบริษัทไทยในระดับ Global Company ในตำแหน่ง Head of Communication และยังเป็นผู้ปลุกปั้น True ID ในเครือ True Corporation จนมี Active User กว่า 2 ล้านราย

กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณแชมป์ได้ตัดสินใจมาร่วมงานกับ TikTok” ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายมิวสิค ดูแลงานด้านดนตรี ลิขสิทธิ์เพลง และการนำเพลงต่างๆ ไว้บนแพลตฟอร์ม TikTok ควบคู่กับการทำงานดนตรีเป็นงานอดิเรกในเวลาว่าง

“เหตุผลที่มาร่วมงานกับ TikTok เพราะผมรู้สึกว่าเมื่อโลกเปลี่ยน ผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อเปลี่ยนโลกไปด้วยกัน และการมาอยู่ที่นี่ ยังได้ทำในสิ่งที่เราชอบ คือ เรื่องของเพลง เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เรารักในทุกๆ วัน เรามาทำงาน โดยที่ไม่รู้สึกว่า คือการทำงาน แม้ในบางครั้งจะมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่อย่างน้อยคือการเรียนรู้

อย่างบางครั้งฝั่งอเมริกาประชุม 7 โมงเช้า ก็ต้องตื่น หรือบางวันเสาร์ – วันอาทิตย์ ต้องไปต่างจังหวัด ก็ไม่เกี่ยง เพราะเราไม่รู้สึกว่าเป็นการทำงาน เราดูแล TikTok ในประเทศไทยเหมือนลูกเรา ทีมงานทุกคนเห็นเขาตั้งแต่ยังเป็น Baby

ช่วงปีแรก หลายคนยังไม่รู้จัก หรือสงสัยแพลตฟอร์ม TikTok คืออะไร เราต้อง approach ศิลปิน ค่ายเพลง พาร์ทเนอร์ต่างๆ ในไทย แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีคนเข้ามาหาเราเยอะมาก เพราะเขาเห็นถึง Success Case และเห็นว่า TikTok สามารถสร้าง Traffic ใหม่ให้กับงานเพลงของเขาได้ และ Traffic นี้ยังช่วย Monetize ให้กับศิลปินได้อีกทาง

จากเด็กเล็กในวันนั้น เราต้องการหล่อหลอมให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่อย่างดีที่สุด การเติบโตอย่างมั่นคง เขาต้องมีคอนเทนท์ที่ดี มีความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น และมีโฆษณาเข้ามามากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาสมดุลระหว่างโฆษณากับประสบการณ์การใช้ของ User อย่างลงตัว แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว ผมจะบอกกับเพื่อนว่า มาดูลูกผมสิ โตแล้วนะ นั่นคือ ความภูมิใจของผม” คุณแชมป์ สรุปทิ้งท้าย


  • 17.1K
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE