บทเรียน Exclusive จาก New York: Uniqlo ใช้ ‘ศิลปะ-นวัตกรรม’ อย่างไร ให้ LifeWear เป็นมากกว่าเสื้อผ้า

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

ไฮไลท์สำคัญจากงาน “The Art and Science of LifeWear” ที่ MoMA, New York

  • เวทีรวมคนสำคัญระดับโลก: เป็นครั้งแรกที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ยูนิโคล่ อย่าง ทาดาชิ ยาไน ขึ้นเวทีพร้อมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดอย่าง เคท แบลนเชตต์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และเป็นครั้งแรกที่ Marketing Oops! สัมผัสกับผู้บริหาร Top tier ระดับโลกของยูนิโคล่
  • ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่: ยูนิโคล่ประกาศแต่งตั้งศิลปินระดับโลกอย่าง KAWS เป็น “ศิลปินประจำยูนิโคล่” (Artist in Residence) คนแรก
  • เจาะลึกเบื้องหลังนวัตกรรม: เผยที่มาของความสำเร็จจากพันธมิตรผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีอย่าง Toray Industries ที่อยู่เบื้องหลัง Heattech และ Airism ซึ่งปฏิวัติวงการเสื้อผ้า
  • ตอกย้ำปรัชญาแบรนด์: ยูนิโคล่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในวิถีของ LifeWear ที่เชื่อมโยงกับศิลปะ นวัตกรรม และความยั่งยืน ผ่านการร่วมมือกับ MoMA และการสร้างความสัมพันธ์ที่เหนือกว่าแค่เรื่องธุรกิจ
Marketingoops บินลัดฟ้าสู่มหานครนิวยอร์ก ถอดรหัส Uniqlo: เมื่อ ‘ศิลปะ’ ผสาน ‘วิทยาศาสตร์’ เพื่อสร้างแบรนด์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
Marketingoops บินลัดฟ้าสู่มหานครนิวยอร์ก ถอดรหัส Uniqlo: เมื่อ ‘ศิลปะ’ ผสาน ‘วิทยาศาสตร์’ เพื่อสร้างแบรนด์ที่อยู่เหนือกาลเวลา

ค่ำคืนที่มหานครนิวยอร์ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MoMA ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์สุดพิเศษ “The Art and Science of LifeWear”  ฉลองครบรอบ 20 ปีของการดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา  จัดขึ้นร่วมกับโทเรย์ อินดัสทรีส์ พันธมิตรหลักด้านเทคโนโลยีของยูนิโคล่ เพื่อถ่ายทอดนวัตกรรมและความร่วมมืออันโดดเด่นที่เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จระดับโลกของยูนิโคล่  ณธิดา รัฐธนาวุฒิ ผู้ก่อตั้ง Marketing Oops! ได้รับเกียรติครั้งสำคัญกับการมาร่วมงานและสัมผัสกับบุคคลสำคัญจากหลากหลายแวดวงที่มารวมตัวกันในงานนี้  และเป็นครั้งแรกที่ เคท แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) ปรากฏตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของยูนิโคล่ ร่วมกับบุคคลสำคัญท่านอื่นๆ ได้แก่

  • ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai) ผู้ก่อตั้งยูนิโคล่และประธานกรรมการ ซีอีโอของ Fast Retailing
  • เกลน ดี. โลวรี (Glenn D. Lowry) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA)
  • มิสึโอะ โอยะ (Mitsuo Ohya) ประธานบริษัท Toray Industries, Inc.
  • โคจิ ยาไน (Koji-san) Group Senior Executive Office จาก Fast Retailing
  • จอห์น เจย์ (John Jay) ประธานฝ่าย Global Creative ของยูนิโคล่และ Fast Retailing
  • แคลร์ เวท เคลเลอร์ (Clare Waight Keller) Creative Director ของยูนิโคล่
  • เคท แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) ดารานักแสดงฮอลลีวูด
  • โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่ร่วมงานกับยูนิโคล่มานานกว่า 7 ปี

ในฐานะสื่ออย่าง Marketing Oops! นี่คือโอกาสสำคัญ ที่จะได้ถอดรหัสและสัมผัสแก่นแท้ของแบรนด์ยูนิโคล่อย่างลึกซึ้ง และเรื่องราวที่กำลังจะเล่าต่อจากนี้คือบทสรุปที่ได้จากการสัมผัสงานแบบ Exclusive ที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาดไทยโดยเฉพาะ

แก่นแท้ของ Uniqlo LifeWear: จากปรัชญาเสื้อผ้าสู่ ‘วิถีชีวิต’ ที่ยั่งยืน

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดมาจากแนวคิด “LifeWear” ที่ ทาดาชิ ยาไน ย้ำว่านี่ไม่ใช่แฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว แต่เป็นเสื้อผ้าที่คงอยู่เหนือกาลเวลา เขามองว่าเสื้อผ้าที่ดีควรอยู่กับเราได้นาน สามารถนำไปรีไซเคิลหรือรียูสได้มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทแม่ Fast Retailing ที่มุ่งมั่นจะ “เปลี่ยนโฉมเสื้อผ้า พลิกโฉมหน้าของภูมิปัญญาเดิมๆ และเปลี่ยนแปลงโลก”

ทาดาชิ ยาไน เผยถึงปรัชญา “เสื้อผ้าสำหรับทุกคน” ที่เป็นแก่นของแบรนด์มาโดยตลอด โดยให้คำนิยามไว้ว่า: “เราจะสร้างสรรค์เสื้อผ้าคุณภาพสูงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่ยุติธรรม โดยไม่ลดทอนคุณภาพ”  ทาดาชิ ยาไน เชื่อว่าในยุคนี้ผู้คนไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าแค่เพราะเป็น “สิ่งที่ควรมี” อีกต่อไปแล้ว แต่ซื้อเพราะ “ต้องการจริง ๆ” และ “จำเป็นจริง ๆ” และนี่คือเหตุผลว่าทำไมยูนิโคล่จึงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงและคุณค่าที่ยั่งยืนของผู้คน และนี่คือถ้อยคำจากผู้ก่อตั้งยูนิโคล่และประธานกรรมการ ซีอีโอของ Fast Retailing

ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai) ผู้ก่อตั้งยูนิโคล่และประธานกรรมการ ซีอีโอของ Fast Retailing และ โคจิ ยาไน (Koji-san) Group Senior Executive Office จาก Fast Retailing

จากเวทีสู่เรื่องราว: เบื้องหลังความสำเร็จที่ผสาน ‘ศิลปะ’ และ ‘วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี’

งานครั้งนี้ ผู้บริหารยูนิโคล่หลายท่าน ได้เปิดเผยบทเรียนสำคัญที่นักธุรกิจการตลาดและนักสร้างแบรนด์ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องของ “ความร่วมมือ” ที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์

 

ศิลปะสำหรับทุกคน: เมื่อ MoMA และ Uniqlo เป็นพันธมิตร

ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างยูนิโคล่กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ MoMA เริ่มต้นมานานกว่าทศวรรษผ่านการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งนำศิลปะเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และในงานนี้ เกลน ดี. โลวรี (Glenn D. Lowry) ผู้อำนวยการ MoMA ได้กล่าวบนเวทีถึงความร่วมมืออันยาวนานนี้ว่า: “เรามีพันธกิจร่วมกันที่จะนำคุณค่าของศิลปินและ Moma จับมือกับบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพื่อพาศิลปะออกไปสู่โลกภายนอก” โดยเฉพาะโครงการ Art for All ที่ยูนิโคล่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้คนกว่า 3 ล้านคนได้มีโอกาสเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีในคืนวันศุกร์

 

นวัตกรรมที่ยั่งยืน: จาก Toray สู่ LifeWear

อีกหนึ่งไฮไลท์ คือการขึ้นเวทีของ มร. มิสึโอะ โอยะ ประธานบริษัท Toray Industries, Inc. พันธมิตรหลักด้านเทคโนโลยีของยูนิโคล่ ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ของทั้งสองบริษัทเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2006 แต่ความร่วมมือจริง ๆ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1999 โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น และความร่วมมือนี้ ได้ทำให้คนไทยได้รู้จักกับนวัตกรรมที่เป็นไอเทม Must-Have อย่าง Heattech หรือ Airism ที่ปฏิวัติวงการเสื้อผ้าไปอย่างสิ้นเชิง

มร. โอยะ ได้เปิดเผยถึงนวัตกรรมเบื้องหลังที่หาฟังได้ยากว่า Toray มีเทคโนโลยีหลักด้าน นาโน ที่สามารถควบคุมองค์ประกอบในระดับนาโนได้ ตัวอย่างที่น่าทึ่งคือการพัฒนาเส้นใยที่บางเพียง 0.15 กรัม แต่แข็งแรงพอที่จะยาวไปถึงดวงจันทร์ได้! และด้วยเทคโนโลยีนี้เองที่ทำให้เกิดนวัตกรรมที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Heattech ที่บางแต่ให้ความอบอุ่น, Airism ที่ใส่สบายจนลืมว่าใส่เสื้อผ้า, ไปจนถึงนวัตกรรมล่าสุดอย่าง Heattech Cashmere Blend และ Pufftech ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทนเสื้อดาวน์แบบดั้งเดิม

“เราจะยังคงมองประเด็นความท้าทายทางสังคมด้วยมุมมองระยะยาว และเดินหน้าพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง” เขาบอกว่ายูนิโคล่รับหน้าที่ด้านการออกแบบและวางแผน ส่วนโทเรดูแลด้านการวิจัยและการผลิต ทำให้เกิดนวัตกรรมที่ทุกคนคุ้นเคย

มิสึโอะ โอยะ ประธานบริษัทโทเรย์ อินดัสทรีส์

 

มิสึโอะ โอยะ (Mitsuo Ohya) ประธานบริษัท Toray Industries, Inc.
มิสึโอะ โอยะ (Mitsuo Ohya) ประธานบริษัท Toray Industries, Inc.

 

การผสานศิลปินเข้ากับแบรนด์:
เมื่อ KAWS คือ “Artist in Residence”

งานในครั้งนี้ จอห์น เจย์ ประธานฝ่าย Global Creative ของยูนิโคล่ ได้กล่าวว่าหลักการสำคัญของ LifeWear คือ “ศิลปะสำหรับทุกคน” และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ จอห์น เจย์ ยังได้ประกาศข่าวใหญ่ ถึงความร่วมมือครั้งใหม่กับศิลปินระดับโลกอย่าง KAWS ถึงระดับสร้างตำแหน่งใหม่ขึ้นในบริษัท นั่นคือ ตำแหน่ง “ศิลปินประจำยูนิโคล่” (Artist in Residence) และศิลปินระดับตำนานอย่าง KAWS คือผู้ที่เข้ามารับหน้าที่นี้เป็นคนแรก บทบาทของ KAWS ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกแบบเสื้อยืด UT อีกต่อไป แต่ยังรวมถึงการคัดเลือกศิลปินรุ่นใหม่ที่จะมาร่วมงานกับแบรนด์ พัฒนาผลงานสู่หมวดหมู่ใหม่ๆ ของ LifeWear และทำงานร่วมกับยูนิโคล่เพื่อสร้างเครือข่ายศิลปินระดับโลกเพื่อขยายการเข้าถึงงานศิลปะให้กับผู้คนทั่วโลก

“หนึ่งในหลักการสำคัญของ LifeWear คือ “ศิลปะสำหรับทุกคน” และเพื่อทำให้ยูนิโคล่บรรลุเป้าหมาย เราได้สร้างตำแหน่งใหม่ขึ้นในบริษัท ตำแหน่งนั้นก็คือ “ศิลปินประจำยูนิโคล่” (Artist in Residence) และค่ำคืนนี้เราภูมิใจที่จะประกาศว่า ศิลปินระดับตำนานอย่าง KAWS ได้ให้เกียรติรับคำเชิญของเรา เพื่อช่วยขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ และยกระดับการมีส่วนร่วมในระดับโลก”

จอห์น เจย์, ประธานฝ่าย Global Creative ของยูนิโคล่และ Fast Retailing

จอห์น เจย์ (John Jay) ประธานฝ่าย Global Creative ของยูนิโคล่และ Fast Retailing ประกาศข่าวใหญ่ความร่วมมือครั้งใหม่กับศิลปินระดับโลกอย่าง KAWS

 

บทเรียนจากแบรนด์แอมบาสเดอร์ เมื่อ Uniqlo สร้างความสัมพันธ์ที่ไม่สิ้นสุด

อีกหนึ่งไฮไลท็ของงานในคืนนี้ คือเวทีเสวนาที่ดำเนินรายการโดย แคลร์ เวท เคลเลอร์ (Clare Waight Keller) Creative Director ของยูนิโคล่ ร่วมกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) และการปรากฏตัวครั้งแรกของ เคท แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) ฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของยูนิโคล่

เคท แบลนเชตต์ (Kate Blanchett), โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) และ แคลร์ เวท เคลเลอร์ (Clare Waight Keller)
เคท แบลนเชตต์ (Kate Blanchett), โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) และ แคลร์ เวท เคลเลอร์ (Clare Waight Keller)

เคท เล่าถึงความประทับใจที่เธอมีต่อแบรนด์:

“ฉันเชื่อว่าไม่มีใครคนเดียวหรือบริษัทเดียวที่จะเปลี่ยนโลกได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ยูนิโคล่ มุ่งมั่นจริง ๆ ที่จะทำให้ชีวิตของผู้คนที่เขาแตะต้องนั้นดีขึ้น…

ฉันรู้สึกว่าแก่นของแบรนด์นี้คือ ‘ความเป็นมนุษย์ร่วมกัน’ ยูนิโคล่ ไม่เพียงแต่ขายเสื้อผ้า แต่ยังลงไปมีส่วนร่วมกับชีวิตของชุมชน

นอกจากนี้เคทยังพูดถึงบทบาทของ โคจิ (Koji-san) ผู้เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของบริษัทว่า: “ฉันสัมผัสได้ทันทีว่า การทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น” นั้นอยู่ใน DNA ของ โคจิ

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่ร่วมงานกับยูนิโคล่มานานกว่า 7 ปี
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer) พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่ร่วมงานกับยูนิโคล่มานานกว่า 7 ปี

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ซึ่งร่วมงานกับยูนิโคล่มา 7 ปีแล้ว เล่าถึงความประทับใจว่า:

“ในฐานะนักเทนนิส เราไล่ตามความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ ถึงแม้จะไม่เคยบรรลุได้จริงเพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ผมเห็น ‘นวัตกรรม’ แบบเดียวกันนี้ใน Lifewear ของ Uniqlo”

โรเจอร์ยังเปิดเผยถึงความผูกพันที่ยูนิโคล่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขา แม้เขาจะเลิกเล่นเทนนิสแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อสารคุณค่าที่เหนือกว่าแค่การเป็นสปอนเซอร์

ความสำเร็จที่วัดได้: ตัวเลขที่สะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล

นอกจากเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจแล้ว ข้อมูลเชิงตัวเลขยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จทางธุรกิจของบริษัทอย่างชัดเจน Fast Retailing มียอดจำหน่ายทั่วโลกสูงถึง 3.1 ล้านล้านเยน หรือ ประมาณ 7 แสนล้านบาท ในปี 2024 ที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกเครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก   ปัจจุบัน ยูนิโคล่มีจำนวนร้านสาขากว่า 2,500 สาขาทั่วโลก และเมื่อรวมกับแบรนด์ในเครือทั้งหมด Fast Retailing มีร้านสาขาอยู่ที่ราว 3,600 ร้าน  นี่คือภาพสะท้อนของความสำเร็จจากการผสมผสาน “ศิลปะและวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี” ที่ลงตัวและต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เติบโตอย่างไม่หยุด

 

ถอดรหัส Uniqlo: กรณีศึกษา
ที่ ‘นักการตลาดไทยต้องเซฟเก็บไว้’

จากประสบการณ์ตรงที่ได้ไปกระทบไหล่ผู้บริหารระดับท็อปของยูนิโคล่ในนิวยอร์กครั้งนี้ บอกเลยว่ามันคือกรณีศึกษาที่มีคุณค่ามาก ๆ สำหรับนักการตลาดไทยยุคนี้ เพราะมันคือภาพสะท้อนว่าการสร้างแบรนด์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ต้องทำยังไงให้สำเร็จ

  • อย่าขายแค่ ‘ผลิตภัณฑ์’ แต่จงขาย ‘ปรัชญา’: ยูนิโคล่ไม่ได้ขายแค่เสื้อผ้า แต่ขาย ‘LifeWear’ หรือ ‘วิถีชีวิต’ ที่เชื่อมโยงกับผู้คนในทุกมิติ ยูนิโคล่รู้ดีว่ายุคนี้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การมีสินค้าที่ดี แต่ต้องมีคุณค่าที่จับต้องได้และทำให้ผู้บริโภครู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์
  • พลังของ ‘ความร่วมมือ’ ที่เหนือความคาดหมาย: ยูนิโคล่ไม่ได้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว การเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคฯ อย่าง Toray ทำให้พวกเขามี ‘เทคโนโลยี’ ที่ปฏิวัติวงการสิ่งทอ ส่วนการจับมือกับพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอย่าง MoMA ทำให้แบรนด์มี ‘ศิลปะ’ ที่เข้าถึงคนจำนวนมาก บทเรียน คือ อย่าจำกัดพันธมิตรทางธุรกิจแค่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่จงมองหาโอกาสในการ Cross-Industry เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์
  • จาก ‘คนดัง’ สู่ ‘เรื่องราวที่มีความหมาย’: การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง เคท แบลนเชตต์ และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไม่ใช่แค่การจ้างพรีเซนเตอร์ แต่เป็นการใช้พลังของพวกเขา เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้ง คำพูดของแบรนด์แอมบาสเดอร์จึงสร้างความน่าเชื่อถือและความจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้แสวงหา
  • การลงทุนกับการสร้างสรรค์ในบทบาทใหม่: การแต่งตั้ง KAWS เป็น “ศิลปินประจำยูนิโคล่” (Artist in Residence) เป็นการแสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะออกจากกรอบเดิม ๆ และลงทุนกับการสร้างสรรค์อย่างจริงจังในระยะยาว การตลาดในยุคนี้ต้องกล้าคิดนอกกรอบ และสร้างสรรค์บทบาทใหม่ ๆ ให้กับผู้ที่มีอิทธิพล เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์ไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

นี่คือบทเรียนสำคัญ ที่เราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับนักธุรกิจและนักการตลาดไทย ได้ต่อการสร้างแบรนด์และการทำการตลาดในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

 

Marketing Oops! ขอขอบคุณทาง ยูนิโคล่ ที่ให้เกียรติเชิญเราเป็นสื่อการตลาดเดียวที่ได้ร่วมงานสุด Exclusive ที่มหานครนิวยอร์คในครั้งนี้

 

เขียนโดย ณธิดา รัฐธนาวุฒิ
ผู้ก่อตั้ง MarketingOops.com กับประสบการณ์การทำงานในแวดวง Digital มากกว่า 18 ปี ในธุรกิจคอนเทนท์ ธุรกิจออนไลน์ และการตลาดดิจิทัล

อ่านบทความ Exclusive Insider เพิ่มเติมได้ที่นี่

บทความ Exclusive นี้เผยแพร่บน Marketing Oops! เป็นที่แรกที่เดียว

Copyright© MarketingOops.com


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ