ในอดีตนั้นคนทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมักจะทำในสิ่งที่ผู้คนต้องการและใช้การตลาดผ่านสื่อ Social Media เพื่อสร้างชื่อเสียงแต่ปัจจุบัน โลกเรานั้นมีผลิตภัณฑ์และบริการ จำนวนมาก ทำให้เกิดการแย่งความดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ทำให้การสร้างความน่าสนใจมายังผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นเป็นเรื่องยากและมีค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์สนให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Social Media จนมากเกินไป
การที่จะสามารถสร้างความน่าสนใจของแบรนด์ให้สนใจโดยพึ่งพา Social Media ให้น้อยลงนั้น และทำให้สินค้าของเราสามารถขายได้อย่างดี หรือมีคนมาสนใจสินค้าจนกลายเป็นลูกค้านั้น สามารถทำผ่านได้ด้วย 5 เคล็ดลับนี้
เคล็ดลับที่ 1. ใช้เรื่องราวของการเป็นรองและความพยายาม
ผู้คนชอบให้กำลังใจคนที่ด้อยกว่า และสนับสนุนแบรนด์ที่เป็นรอง ที่มีความพยายามที่จะแก้ไขตัวให้ดีขึ้นทุกวัน มีความอ่อนน้อมถอมตน หรือหากมีอดีตที่ไม่สมบูรณ์ ความผิดพลาดที่ไม่ภูมิใจ หรือแม้แต่ความล้มเหลวทางธุรกิจ เรื่องราวเหล่านี้ถ้าเอามาเล่าให้ดีนั้นสามารถสร้างความน่าดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กลุ่มเป้าหมาย จนสามารถกลายเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้เลยเพราะในความเป็นจริงนั้น ผู้บริโภคนั้นเบื่อความสมบูรณ์ และผู้บริโภคจะมองว่าการมาบอกว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ นั้นน่าหมั่นไส้หรือดูโอ้อวด จนไม่น่าสนับสนุนเมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มาบอกว่าตัวเองผ่านอุปสรรคอะไรมา และมีจุดอ่อนอะไรที่กำลังแก้ไขให้ดีขึ้น
เคล็ดลับที่ 2. หาศัตรูร่วมกัน
ถ้าคุณเคยดูรายการเรียลลิตี้โชว์ สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยก็คือ เมื่อใดก็ตามที่มีตัวร้ายปรากฏขึ้น สมาชิกในรายการคนอื่น ๆ (และมักจะรวมถึงผู้ชมหลายคนที่บ้าน) จะร่วมกันไม่ชอบตัวร้ายคนนั้น แต่ในทางกลับกันสมาชิกในรายการและผู้ชมที่บ้านมักจะไม่มารวมตัวกันเพราะชื่นชอบตัวละครที่พวกเขาชอบ ยกเว้นตัวละครที่ชอบนั้นจะถูกตัวร้ายทำร้ายและกลายเป็นเหยื่อ ดังนั้นถ้าต้องการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มาเป็นลูกค้าจำนวนมากให้มารวมตัวกันการมีมีศัตรูร่วมกัน นั้นเป็นคำตอบอย่างมาก ตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์วีแกน คือ อุตสาหกรรมจากสัตว์ต่าง ๆ หรือรถยนต์ EV ศัตรูคือรถยนต์สันดาปกับคนที่ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
เคล็ดลับที่ 3. เกาะคนที่สำเร็จไปแล้ว
ในบางครั้งในการทำธุรกิจที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง หรือจะไปหาลูกค้าจากไหนมาหาเราได้ สิ่งที่ง่ายที่สุดในการที่จะได้ลูกค้ามา คือการเกาะคนที่สำเร็จไปแล้ว ด้วยการหาพันธมิตรสำคัญที่สามารถแนะนำลูกค้ามาให้แบรนด์ โดยการที่แบรนด์นั้นยอมจ่ายค่านายหน้า หรือ ยอดขายให้กับพันธมิตรนั้น ๆ ไป ซึ่งข้อดีของการใช้วิธีการนี้คือ แบรนด์สามารถลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดได้อย่างดีอีกด้วย หรือจะใช้วิธีเป็นส่วนเสริมของพันธมิตร ๆ นั้นด้วยก็ได้ ตัวอย่างเช่น คลินิกศัลยกรรมความงามและศัลยแพทย์ตกแต่งสามารถหาพันธมิตรเป็น ร้านนวดที่มีชื่อเสียงให้นวดหลังการผ่าตัดเพื่อลดอาการต่าง ๆ หรือในทางกลับกัน ร้านนวด ก็สามารถใช้คลินิกศัลยกรรมความงามและศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีชื่อเสียง ก็ได้เช่นกัน
เคล็ดลับที่ 4. สร้างการช่วยเหลือในยามต้องการ
เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ในช่วงเวลาที่พวกกำลังกลัวหรือกำลังมีปัญหาอย่างรุนแรง จนมีความทรมาณทางจิตใจ ซึ่งสามารถทำให้แบรนด์ของนักการตลาดกลายเป็นฮีโร่ในสายตาของพวกกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาได้อย่างทันที เพราะสามารถแก้ไขปัญหาของกลุ่มเป้าหมายที่กำลังรบกวนทางจิตใจได้อย่างทันที บริการทางบัญชี ที่ช่วยบริษัทต่าง ๆ ในการทำเรื่องภาษีบริษัท หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นการช่วยประหยัดทางภาษีและยังได้ลงทุน เช่น การซื้อกองทุนลดหย่อนต่าง ๆ ที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างทันที
เคล็ดลับที่ 5. สร้างความอิสระ
เราอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ผู้คนมักต้องการสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีได้” ซึ่งเราสามารถใช้คำพูดนี้ได้โดยการนำเสนอสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีได้ โดยทั่วไปคือความเป็นอิสระจากภาระต่าง ๆ โดยไม่ต้องมีอะไรมาบังคับ และแน่นอนความอิสระนี้ทำให้กลุ่มเป้าหมายนั้นใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น สร้างจานอาหารของคุณเอง ที่จะทำให้คนสร้างสรรค์อาหารของตัวเองจนราคาเพิ่มไปเรื่อย ๆ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ขายการออกแบบที่ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ จนตรงกับความต้องการตัวเอง