เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็ไม่ผิด หลังจากที่เศรษฐกิจของไทยต้องเผชิญกับอุปสรรคอย่างสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ปีนี้ยังถูกซ้ำเติมหนักด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่เรียกว่าทำเอาผู้ประกอบการหลายคนท้อเอาดื้อๆ ยิ่งสถานการณ์หนักขึ้นจนรัฐต้องใช้ยาแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนสถานการณ์ด้านธุรกิจจะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ จนบางรายถอดใจหยุดกิจการชั่วคราว ปลดพนักงานชั่วคราวหรือหนักหน่อยปิดกิจการไปเลย
หลายคนเริ่มมองไม่เห็นทางออก แต่มาลองดู 8 วิธีที่จะช่วยผู้ประกอบการนำพาธุรกิจก้าวข้าวผ่านพ้นช่วงวิกฤติ COVID-19 อย่างราบรื่นกัน แล้วมาดูกันว่าธุรกิจควรเลือกวิธีไหนดี
ค้นหาโอกาสในการขายล่วงหน้า
สถานการณ์ COVID-19 ก็เหมือนกับสถานการณ์อื่นๆ ที่ต้องมีวันสิ้นสุด หลายธุรกิจมองถึงปัจจุบันในการทำให้ธุรกิจสามารถผ่านไปได้ ซึ่งหากมองการณ์ไกลและวิเคราะห์สถานการณ์ให้ถูก ธุรกิจสามารถสร้างโอกาสการขาย โดยเน้นขายแบบล่วงหน้า เช่น ธุรกิจโรงแรมจองและชำระเงินวันนี้เข้าพักอีกทีปีหน้า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเกิดให้ลูกค้ารายใหม่ๆ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่า ธุรกิจจะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างแน่นอน
สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ด้วยมาตรการต่างๆ ที่ออกมาโดยเฉพาะการหยุดอยู่ในบ้าน ส่งผลกระทบทันทีกับธุรกิจร้านค้าที่ต้องมาที่ร้านเท่านั้น โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดเล็ก หลายธุรกิจเริ่มให้บริการจัดส่งแบบ Delivery ซึ่งช่วยให้สะดวกในการสั่งซื้อสินค้า แต่ก็มีคู่แข่งจำนวนมากที่ทำเช่นกัน ร้านค้าจึงควรวางแผนในรูปแบบส่วนลดหรือสมัครสมาชิกจ่ายรายเดือน รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
การใช้วิกฤติมาสร้างแผนการตลาด
ใช่ว่าจะมีแต่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว การแนะนำตลาดถึงการเตรียมความพร้อมการรับมือหรือเตรียมแผนการหยุดอยู่กับบ้านจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ แต่ต้องยังคงสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อให้รู้ว่าธุรกิจยังคงดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อนโยบายหรือมาตรการที่ออกโดยภาครัฐ
เตรียมแผนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างที่บอกไปแล้วว่า หลายธุรกิจมักจะเตรียมแผนสำหรับการทำให้ธุรกิจยังเดินต่อไปได้ในปัจจุบัน ซึ่งธุรกิจอาจติดกับดักความกลัวนี้ ธุรกิจควรวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อประเมินว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อเตรียมแผนในการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะหากไม่มีการเตรียมตัวหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในอนาคต ธุรกิจอาจจะเตรียมรับมือไม่ทัน
วิเคราะห์จุดอ่อนหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
การเตรียมความพร้อมหรือการอุดช่องโหว่เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมองให้ออก เช่น ระบบ SupplyChain เมื่อเกิดสถานการณ์พิเศษจนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อกระบวนการผลิตได้ หรือการส่งสินค้าไปยังลูกค้า เป็นต้น รวมไปถึงการวิเคราะห์ในแง่หากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรง (Worst Case Study) แบบคาดไม่ถึงด้วย
การวางแผนรับมือหลังพบจุดความเสี่ยง
เมื่อผู้ประกอบการมองเห็นจุดความเสี่ยงแล้ว ควรจะต้องมองหามาตรการในการรับมือ แน่นอนว่ามาตรการเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบไปยังส่วนงานอื่นๆ ผู้ประกอบการจะต้องวางแผนรับมือเพื่อให้สามารถสอดรับประสานกันกับทุกส่วนงาน และผู้ประกอบการควรทบทวนหาจุกบกพร่องหลังวางแผนแก้ปัญหาไปแล้ว เพื่อให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจน้อยที่สุด
มองหาโซลูชั่นต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจยังเดินต่อ
ผู้ประกอบการต้องระลึกเสมอว่าหนทางแก้ปัญฆามีได้หลากหลายทาง อยู่ที่ผู้ประกอบการจะเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีไหน นั่นจึงทำให้ผู้ประกอบการควรมองหาโซลูชั่นในการแก้ปัญหาไว้หลายๆ รูปแบบ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ในทุกสถานการณ์ที่เกิดปัญหาขึ้นได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือได้กับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น โดยโซลูชั่นเหล่านั้นอาจอยู่ในรูปของเทคโนโลยีหรือความร่วมมือกับพันธมิตร
เทคโนโลยีช่วยให้การสื่อสารองค์กรต่อเนื่อง
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดอาจไม่ได้มาจากผู้ประกอบการเพียงคนเดียว แต่ควรมาจากการระดมสมองของพนักงานทุกคนทุกระดับ และในช่วงที่มีมาตรการให้อยู่กับบ้าน เทคโนโลยีจึงกลายเป็นช่องทางเดียวในติดต่อสื่อสารของทุกคนในธุรกิจ ซึ่งการประชุมเพื่อระดมสมองและความคิดในการช่วยกันแก้ปัญหา จะกลายเป็นทางออกที่สำคัญในยุคที่ COVID-19 ทำให้ทุกคนต้องอยู่ห่างกัน (Social Distancing)
Source: Entrepreneur