ในยุคที่ Content กลายเป็นหัวใจของการตลาดออนไลน์ หลายแบรนด์และผู้สร้างเนื้อหามักสงสัยว่า “บทความ Post หรือวิดีโอชิ้นไหนกันแน่ที่แปลงคนดูหรือผู้บริโภคให้กลายเป็นลูกค้าได้ดีที่สุด?” แม้นักการตลาดจะใช้ยอดวิว Likes หรือแชร์เป็นตัววัดผลหลัก แต่ความจริงก็คือ… ยอดดูเยอะ ไม่ได้แปลว่า Content นั้นพาคนดูหรือผู้บริโภคเข้าสู่กระบวนการขายจริง
ด้วยการใช้ข้อมูลจาก Google Analytics จะสามารถเรียนรู้วิธีการติดตามว่า คอนเทนต์ชิ้นไหนที่ “เปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า” ได้อย่างดี ทั้งยังสามารถตั้งค่าได้ง่าย และนำไปวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ได้ทันที
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่าระบบติดตามข้อมูล : ติดตั้ง Google Analytics บนเว็บไซต์
เริ่มจากการสร้างบัญชี Google Analytics (แนะนำ GA4) และติดตั้ง Google Tag บนเว็บไซต์ของแบรนด์ เมื่อติดตั้งแล้ว ให้ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของแบรนด์เริ่มส่งข้อมูลเข้า Google Analytics แล้ว ผ่านหน้า Realtime หรือ Home Dashboard
ขั้นตอนที่ 2: ใส่ “Content ID” เพื่อระบุแหล่งที่มาของผู้เข้าชม
Google Analytics จะบอกแบรนด์ได้ว่า “ผู้ใช้มาจากแพลตฟอร์มไหน” เช่น YouTube, Facebook, หรือ Twitter แต่จะ ไม่สามารถแยกเจาะลึกว่าโพสต์หรือวิดีโอชิ้นไหน เป็นตัวส่งคนเข้าเว็บ วิธีแก้คือต้องเพิ่ม “content ID” ลงในลิงก์ที่แบรนด์แชร์ เช่น: www.yourwebsite.com/optinpage?id=abc123 หากเป็น YouTube สามารถใช้ video ID ที่อยู่หลัง “v=” ได้เลย หากเป็นแพลตฟอร์มอื่น สามารถตั้งชื่อรหัสเอง และบันทึกไว้ใน Excel, Notion หรือ CMS ใด ๆ ก็ได้
ขั้นตอนที่ 3: วิเคราะห์ข้อมูลใน Google Analytics (Explore Mode)
เมื่อเริ่มเก็บข้อมูลได้สักพัก แบรนด์จะสามารถเข้า Explore Mode ใน Google Analytics เพื่อดูว่าแต่ละลิงก์ที่มี content ID พาคนไปยังหน้า “ขอบคุณ” หลังจากกรอกฟอร์มหรือสั่งซื้อได้มากแค่ไหน วิธีใช้งาน Explore Mode:
- ไปที่ Explore > เลือก Free form report
- เพิ่ม Dimension:
- Page referrer (หน้าที่ผู้ใช้มาก่อน)
- Page path + query string
- เพิ่ม Metric:
- Active users
- ตั้งค่า Filter โดยเลือก Page path ที่ตรงกับหน้าขอบคุณ (thank you page) หลัง opt-in
ผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงว่ามีผู้ใช้กี่รายที่เข้าสู่หน้า “ขอบคุณ” โดยมาจากลิงก์ใดบ้าง — โดยเฉพาะลิงก์ที่มี content ID ด้วยข้อมูลนี้ที่ล้ำค่า จะสามารถบอกได้ว่าเนื้อหาไหนที่มีคุณภาพที่จะแปลงกลุ่มผู้บริโภคให้เป็นลูกค้าได้ เพราะแม้ว่าเนื้อหาอื่นจะมีอ่านเยอะกว่า แต่อาจจะกลับไม่แปลงยอดเลยก็ได้ ดังนั้นข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถโฟกัสกับคอนเทนต์ที่มี “ผลกระทบเชิงธุรกิจ” แทนที่จะไล่ตามยอดสถิติอย่างเดียว ที่ไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายเลย
สรุปขั้นตอนการ Google Analytics Data
- ติดตั้ง Google Analytics บนเว็บไซต์
- เพิ่ม ?id=ContentID ไปยังลิงก์ในทุกคอนเทนต์ใหม่ (และคอนเทนต์เด่นในอดีต)
- รอ 1–4 สัปดาห์เพื่อให้ระบบเก็บข้อมูล
- ใช้ Explore Mode วิเคราะห์ว่า content ID ใดพาคนไปยังหน้าเป้าหมาย (เช่น ขอบคุณ หรือหน้าสั่งซื้อ) ได้มากที่สุด
- นำข้อมูลไปต่อยอด: ทำคอนเทนต์เพิ่มในสไตล์เดียวกับตัวที่แปลงยอดขายได้สูง
การรู้ว่าคอนเทนต์ไหน “ช่วยทำยอดจริง” คือพลังในการสร้างกลยุทธ์ที่ชัดเจน ด้วย Google Analytics และ content ID ที่ตั้งเอง แบรนด์ไม่ต้องเดาอีกต่อไป เพราะทุกการตัดสินใจ มีข้อมูลหนุนหลัง หากแบรนด์อยากเปลี่ยนทีมการตลาดให้คิดแบบ “ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” — เริ่มที่จุดเล็ก ๆ อย่างนี้ แล้วผลลัพธ์จะเปลี่ยนใหญ่กว่าที่คิด
