ขอบคุณภาพจาก 9GAG Thailand
ทุกวันนี้ นักการตลาดบนโซเชียลมีเดียก็ยังคงวนเวียนหาทางเพิ่มฐานแฟนคลับ ฐานผู้ติดตาม และเพิ่มลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ให้กับแบรนด์อย่างไม่รู้จบ ส่วนตัวผมสังเกตเห็นว่ากลยุทธ์ช่วงนี้ของหลายแบรนด์เป็นการเน้นความลึก ความจริงจัง ความเรียลของคอนเทนต์ที่ผู้ใช้คนไหนมาอ่านแล้วก็ต้อง “หูยยย” ขึ้นมา ซึ่งถามว่าดีไหม ก็ดีครับ แต่บางครั้งคอนเทนต์ที่ยาวและจริงจังอาจไปขัดกับธรรมชาติของคนเล่นโซเชียลมีเดียที่ต้องการพักผ่อนและอ่านอะไรเบาสมองบาง
วันนี้เราเลยมาแนะนำอีกหนทางการตลาดออนไลน์ที่อาจจะเวิร์คกับแบรนด์ของคุณ meme marketing ซึ่งเปลี่ยนเอาความไร้สาระและกระแสเรื่อยเปื่อยให้กลายเป็นอำนาจทางการตลาดของแบรนด์คุณ
อะไรคือ meme
เราชาวโซเชียลฯ อาจได้ยินคำนี้จนชินหูแต่ไม่เข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง จริงๆ แล้ว meme มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.เป็นส่วนผสมของภาพหรือวีดีโอ กับวลี โดยเน้นให้วลีนั้นเห็นชัดเจนที่สุด
2.ต้องถูกส่งต่อบนโซเชียลมีเดียและบล็อก
3. ทีเด็ดคือ meme จะต้องมีความหมายซ่อนเร้นที่พูดถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย
4. และต้องเน้นอารมณ์ขบขันที่มาพร้อมกับการเสียดสี
meme พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียลมีเดียเพราะมันเข้าใจง่ายและไม่ต้องเสียเวลาอ่านนาน และยิ่งเป็น meme แบบวีดีโอแล้วยิ่งเข้าใจง่าย น่าตื่นเต้น และคนชอบส่งต่อ (แต่ไม่แนะนำเป็นวีดีโอยาวๆ นะครับเน้นเป็นไฟล์ GIF จะดีกว่า ไม่เปลืองเน็ตและโหลดไม่นาน) ปัจจัยความสำเร็จของ meme ก็แน่นอนว่าต้องจับความสนใจของผู้ใช้ให้ได้…แต่จะทำยังไงล่ะ? ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจธรรมชาติของ meme ให้ได้เสียก่อน ถึงจะสามารถสร้างสรรค์มันออกมาได้
meme มีอายุที่สั้นมาก
meme มีอายุสั้นมากๆ เพราะเรื่องราวของมันถูกผูกติดกับวัฒนธรรมป็อบ และ meme ทุกตัวจะไม่น่าสนใจอีกแล้วเมื่อคุณเจอมันเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นบทเรียนที่เราได้คือ meme ที่ดีต้องสร้างความประทับใจแรกให้ปังในสมองของผู้ใช้ทันที ขณะที่เวลาก็เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ เมื่อเกิดกระแสอะไรขึ้น คุณต้องรีบส่ง meme ของคุณออกไปแย่งความสนใจของพวกเขาทันที อย่างไรก็ตาม หลายแบรนด์พยายามม๊ากมากในการส่ง meme ออกไป เช่น ส่งไปหลายช่องทาง ส่งไปถี่ๆ ส่งออกไปพร้อมโฆษณาไปด้วย วิธีการเหล่านี้ไม่ดีกับ meme และแบรนด์ของคุณมากๆ เพราะอย่างที่บอกข้างต้น “meme เป็นสิ่งที่เห็นได้ครั้งเดียว” ถ้าเห็นครั้งที่สอง สาม สี่ … meme นั้นจะกลายเป็นสิ่งน่ารำคาญสำหรับผู้บริโภคของคุณแทน ภาษาฝรั่งเรียกลักษณะนี้ว่า memejacking
แล้ว memejacking คืออะไร ขอชัดๆ
อธิบายง่ายๆ คือ memejacking เป็นภาษาเสียดสีแบรนด์ของเหล่าผู้ใช้วัยรุ่นบนโลกดิจิตอลที่ใช้เรียก meme ที่สร้างโดยแบรนด์แบบ “วัลลาบี” คือดูพยายามมากๆ ที่จะเข้ามาสื่อสารกับพวกเขา พูดง่ายๆ ว่าเป็น meme ที่ขายของแบบไม่เนียน เขาอ่านปุ๊ปรู้ปั๊ปว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง meme ลักษณะนี้ก็จะถูกวัยรุ่นแบนออกไป เพราะต้องอย่าลืมว่าธรรมชาติตั้งต้นของ meme นั้นกำเนิดมาโดยวัยรุ่นเพื่อวัยรุ่น ดังนั้น หากแบรนด์พยายามจะเข้ามาแย่งพื้นที่นี้ คุณต้องมีกลยุทธ์ที่แนบเนียนและเป็นกันเองพอ
ดังนั้นเห็นได้ว่าการใช้ meme เป็นความเสี่ยงของแบรนด์เหมือนกัน ด้านหนึ่งคุณอาจติดกระแสกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วแต่อีกด้านหนึ่งมันอาจทำให้คนอื่นมองว่าคุณเป็นแบรนด์ “วัลลาบี” ที่พยายามเกาะกระแสทุกอย่างไปเรื่อยๆ …อันตรายเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเข้าถึงพวกเขาได้แบบเนียนๆ วิธีที่ได้ผลและง่ายมากคือ เน้นขำเน้นตลก
Meme เน้นขำเป็น meme ชนะเลิศ
อย่างที่กล่าวข้างต้น คุณสมบัติที่สำคัญของ meme คือต้องตลกไว้ก่อนเพราะมันช่วยทำลายกำแพงที่ผู้ใช้ตั้งแง่กับคุณแต่ต้น ขณะเดียวกัน meme ต้องไม่ตลกแบนราบแต่ต้องมีนัยเสียดสีที่ต้องใช้การแปลความเข้าช่วย จุดนี้แหละที่สำคัญ หนึ่งคือก่อนคุณจะใช้ meme marketing คุณต้องมั่นใจว่าแบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ “ตลก” ขนาดนั้นหรือเปล่า และถ้าจะสร้าง meme เหลี่ยมไหนที่คุณคิดว่านำเสนอแล้วจะ “เสียดสี” น่ารักพองามและไม่เข้าใจยากจนเกินไป
แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเราฟันธงว่า meme ที่ดีต้องตลก บางครั้ง meme ดังๆ ก็เล่นกับความแปลกประหลาด ความน่าตื่นเต้น เช่น meme บางตัวเป็นวีดีโอของนักมายากล หรือนักกีฬาที่ทำกิจกรรมเหลือเชื่อ แต่ที่เราบอกว่า “ตลก” เป็นคุณสมบัติชนะเลิศเพราะเสียงหัวเราะเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่มและทำลายกำแพงที่ผู้ใช้กลัวคุณจะมาขายของไปตั้งแต่ต้น
ที่สำคัญ ภาพลักษณ์ของบางแบรนด์ก็ไม่ตลกพอให้คุณใช้ meme ชนิดนี้ ดังนั้นต้องใช้แบรนด์เป็นตัวตั้งก่อนว่าคุณจะใช้ meme ลักษณะไหน
Meme ที่ดีต้องสร้างปฏิกริยาตอบสนองทันที
พูดง่ายๆ ถ้าคุณสร้าง meme ตลก แว็บแรกที่ผู้ใช้เห็นมันเขาต้องขำก๊ากออกมาเลย ถ้าทำได้ก็มอบถ้วยรางวัลให้คุณไปเลย แต่เรื่องมีอยู่ว่า meme ที่คุณสร้างนั้นอาจไปตรงกับประเด็นอ่อนไหวมากมาย เช่น ประเด็นสีผิว เหยียดเพศ เหยียดวัย เหยียดสารพัดจะเหยียด ดังนั้น หาคนหลายๆ คนมาตรวจสอบ meme ก่อน เน้นความรู้สึกแรก และตามมาด้วยความรู้สึกหลังจากที่เห็นไปแล้วสักพัก สำหรับ meme ที่จะโกไวรัลได้นั้นมีลักษณะร่วมกันตามนี้ครับ
1.อ่านง่าย
2.ย่อยง่าย
3.แชร์ง่าย
4.เกี่ยวกับเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น
5.เข้าใจง่าย
6.ไม่เยิ่นเย้อ
7.เห็นแล้วขำออกมาได้ทันที
สุดท้าย…แล้วแบรนด์คุณเหมาะใช้ meme marketing ไหม?
ผมแนะนำว่าทุกแบรนด์ควรลองหัดใช้ meme marketing แม้แบรนด์ของคุณจะเป็นแบรนด์ที่ภาพลักษณ์จริงจัง ดูซีเรียส แต่อย่าลืมว่าคุณยังมี meme แบบสร้างอารมณ์ “ว้าว” หรือ meme เน้นความ “ซึ้ง” ให้เล่นอยู่เหมือนกัน ข้อสำคัญของ meme คืออย่าปล่อยออกมาบ่อย เน้นครั้งเดียวแล้วปังเป็นระยะดีกว่า ถ้าปล่อย meme บ่อยๆ ผู้คนจะเริ่มเบื่อแบรนด์ของคุณ