มารู้จัก แบรนด์แบบไหนที่ Gen Z อยากมีประสบการณ์ร่วมด้วย

ในการเปลี่ยนแปลงของโลกของพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้น Generation Z นั้นเป็น Generation ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากเพราะมีกำลังเป็นวัยที่มีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นมาและเป็นผู้บริโภคในอนาคตที่แบรนด์ต้องการ ซึ่ง Gen Z นี้มีพฤติกรรมต่างจากกลุ่มผู้บริโภคในอดีตอย่างมากที่สนใจเรื่องการมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ แต่ Gen Z นั้นมีความสนใจอย่างมากกับแบรนด์ที่เข้าใจว่าปัญหาของ Gen Z คืออะไร มีวัตถุประสงค์ของแบรนด์อย่างไร มากกว่า จะมาช่วยได้อย่างไร

เมื่อมองดูความซับซ้อนของ Gen Z ในยุคนี้ว่ามีความต้องการและทัศนคติอย่างไร ก็ต้องเข้าใจว่าบริบทของ Gen Z นั้นเติบโตมาในช่วงเวลาแบบไหนขึ้นมา ซึ่ง Gen Z นั้นได้เผชิญกับเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

1. ความไม่แน่นอน : ในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่โลกเผชิญการระบาดของโรคระบาดทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมืองและความขัดแย้ง ทำให้เกิดการตั้งคำถามกับอนาคตของโลก Gen Z นั้นเผชิญกับความไม่แน่นอน การมองไม่เห็นว่าโลกปกตินั้นเป็นจะกลับมาได้ไหม หรือต้องเจอสภาพแน่นอนนี้ไปเรื่อย ๆ ทำให้การตัดสินในความไม่แน่นอนนี้มีผลต่อ Gen Z

2. ความเป็นไปได้ : ด้วยการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เทคโนโลยี และอาชีพ จากที่เมื่อก่อนผู้บริโภคจะคิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ ว่า จะเป็นไปได้แบบไหนบ้าง แต่ Gen Z มองอนาคตว่าเต็มไปด้วยโอกาศและศักยภาพต่าง ๆ แทนที่จะคิดว่าอะไรเป็นไปได้แต่จะคิดว่าต้องทำอะไรให้เกิดขึ้น ทำให้ Gen Z มีความต้องการที่จะเติบโต การแสดงออก การแสวงหาความสุข ในความคิดทันทีและต้องการแบรนด์ที่เชิดชูความเป็นไปได้ และสิ่งที่ Gen Z คิด

3. ประสบการณ์ : ในตอนนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้เกิดเปลี่ยนจากประสบการณ์ที่ทุกคนเคยมีมา มาเป็นการเข้าใจว่าคน Gen Z กำลังเผชิญปัญหาอะไร ด้วย Gen Z ที่กำลังเริ่มทำงานและออกนอก Comfort Zones ตัวเอง ท่องเที่ยว เห็นโลกจริง และอินเทอร์เนตอยู่ในชีวิตมา ทำให้ Gen Z นั้นมองมุมมองที่แตกต่างไปจากคนยุคก่อน และมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ที่เปลี่ยนไปทันที

ด้วยการที่พฤติกรรมของ Gen Z ที่เปลี่ยนไปจากผู้บริโภคยุคเดิม Gen Z นั้นมองหาและเลือกแบรนด์จากการจัดลำดับความสำคัญเรื่อง What (Solution), Why (Purpose) มากกว่า How ที่เป็นเรื่องของประสบการณ์ ดังนั้นแบรนด์ที่สามารถตอบเรื่อง What กับ Why ได้ชัดเจนมากกว่าในตอนนี้จะทำให้ Gen Z นั้นเลือกแบรนด์นั้นเข้ามาตัดสินใจได้อย่างทันที

What (Solution) เป็นสิ่งที่ Gen Z กำลังมองหา ซึ่งเป็นเรื่องของความเรียบง่ายของแบรนด์ และการใช้งานได้จริงของแบรนด์ โดย Gen Z มองว่าประสบการณ์ของแบรนด์เป็นเรื่องรอง แต่แบรนด์ที่จะสามารถทำให้ Gen Z สนใจได้ ต้องมีความตรงไป ตรงมาในการสื่อสาร มีประโยชน์ที่ใช้งานได้จริง และความเรียบง่ายออกมา นอกจากนี้ยังชอบแบรนด์ที่มีการสื่อสารที่ชัดเจนนำเสนอความต้องการของคนธรรมดาขึ้นมาได้ เข้าใจชีวิตของคนธรรมดา สื่อสารที่ไม่กระตุ้นมาไปทำให้หลาย ๆ แบรนด์เพิ่ม Brand Archetype ของตัวเองโดยมี Archetype Everyman/Care Giver/innocent เข้ามาด้วยเพื่อให้จับ Gen Z เข้าไปได้

Why (Purpose) เป็นเรื่องที่ Gen Z มองหาจากแบรนด์ว่า แบรนด์นี้มีมาเพื่ออะไร โดย Gen Z มีความสนใจเรื่องอนาคตที่จะเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเรื่องโลก สิ่งแวดล้อม การเมือง สังคมของตัวเอง จะเห็นได้จากว่า Gen Z ในเมืองไทยสนใจว่าแบรนด์ไหนสนับสนุนการเมืองฝ่ายไหน หรือเรื่องพลังงานไฟฟ้า ดังนั้นการเห็นแบรนด์ว่ามีการกระทำ การสื่อสารที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แบรนด์ที่จะสื่อสารกับ Gen Z ในยุคนี้ต้องมีจริยธรรมอย่างเด่นชัด มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ให้ Gen Z ซึ่ง Gen Z ให้คุณค่ากับความซื่อสัตย์ ความมีคุณธรรม ทำให้แบรนด์ที่เปิดเรื่องกระบวนการทำงาน ที่มาที่ไปของวัตถุดิบ และการช่วยสังคมและโลกจะถูกเลือก

How (Experience) เป็นเรื่องที่ Gen Z สนใจในท้ายที่สุดอย่างมากด้วยการที่เติบโตมาในยุคที่มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง เผชิญวิกฤตของโลกมา และเจอสังคมที่พูดมากกว่าทำ หรือการปฏิสัมพันฑ์อย่างฉาบฉวย ทำให้ Gen Z มองว่าประสบการณ์ของแบรนด์ในอดีตนั้นไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองในยุคนี้อีกต่อไป แต่กำลังมองหาแบรนด์ที่มีการปฏิสัมพันธ์อย่างจริงใจ หรือมองว่าเทคโนโลยีคือคำตอบในการหลีกหนีความอคติต่าง ๆ ออกไป และมองหาแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับวิธีคิดของ Gen Z ตัวตนของ Gen Z มากกว่าอย่างอื่น