ธุรกิจ วิดีโอสตรีมมิง หรือ OTT เป็นตลาดที่ เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยอย่างมาก ช่วง COVID-19 ทำให้ “WeTV” แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งของจีน ถูกพูดถึงในวงกว้าง เพราะด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่สดใหม่ การถ่ายทำที่โมเดิร์น ดูแล้วฟินไม่แพ้เกาหลี แต่ยังมาพร้อมกลยุทธ์ที่ช่วยให้มัดใจคอซีรีส์ให้อยู่หมัด ไม่แปลกใจที่ WeTV จะติดท็อปสามของแพลตฟอร์มผู้ให้บริการสตรีมมิงชั้นนำในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากกระแสความนิยมซีรีส์จีนที่ร้อนแรงในประเทศไทยทำให้ WeTV ได้ประกาศแผนธุรกิจปี 2024 โดยจะมีเป้าไหม หรือกลยุทธ์ อะไรบ้าง Marketing Oops! จะมาสรุปให้ทุกคนได้รู้กัน
เทรนด์ซีรีส์วาย ครองใจตลาดจีนและไทย
กระแสความนิยมของซีรีส์วายหลายเรื่องดัดแปลงมาจากนิยายวาย ซึ่งเป็นนิยายแนวชายรักชายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน นิยายวายมักนำเสนอเรื่องราวความรักที่โรแมนติกและน่าติดตาม ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก ด้วยความหลากหลายของเนื้อหาครอบคลุมทุกแนว ทั้งแนวโรแมนติก แนวดราม่า แนวคอมเมดี้ แนวแฟนตาซี แนวแอ็กชัน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซีรีส์วายนั้นได้รับความนิยมอย่างมากจริง ๆ จึงทำให้ WeTV เห็นเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบ จึงอยากดันซีรีส์วายให้ไปไกลมากกว่านี้ โดยจะเพิ่มซีรีส์ในแพลตฟอร์มให้มากขึ้น และจะจัด OTT เพิ่มเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน และในปีหน้า WeTV เตรียมผลิตซีรีส์วายที่เป็น WeTV ORIGINAL 6-8 เรื่อง ร่วมกับผู้ผลิตชั้นนำ อาทิ Kongthup Production, Dee Hup House และ Mandeework ฯลฯ
WeTV เปิดเผยภาพรวมตลาด ตั้งเป้าเติบโต 15-20% ในปีหน้า
โดยคุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ We TV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วีทีวี (WeTV) ให้บริการในไทยก้าวสู่ปีที่ 5 และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยข้อมูลว่ามียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 45 ล้านครั้ง และยอดผู้ใช้งานประจำ 13.5 ล้านคนต่อเดือน ถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมียอดรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบเสียเงินรายเดือน เติบโตขึ้นถึง 62% โดยผู้ชมใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม 120 นาทีต่อวัน
สำหรับภาพรวมของวิดีโอสตรีมมิ่ง หรือ OTT ในภูมิภาคอาเซียน ถือว่าที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด จากผู้เล่นหลายแบรนด์ในตลาด มีอัตราเติบโต 15-20% ทางวีทีวี ก็ตั้งเป้าหมายเติบโต 15-20% เช่นกันในปีหน้า นอกจากนี้คนไทยนิยมรับชมคอนเทนต์ของ WeTV ผ่านอุปกรณ์ Home Entertainment มากขึ้น โดยมีสัดส่วนเติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สถิติของผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีต่อ We TV
-We TV เปิดเผยข้อมูลว่า 70% เป็นผู้หญิงที่รับชม ส่วน 30% เป็นผู้ชาย
-50% ของผู้ชาย ช่วงอายุ 18-34 ปี นิยมดูอนิเมะ
-80% ของผู้หญิง ช่วงอายุ 25- 44 ปี นิยมดูซีรีส์จีน
-90% ของผู้หญิง ช่วงอายุ 18- 34 ปี นิยมดูซีรีส์ไทย
-ในกรุงเทพและปริมณฑลรับชม We TV 60% และต่างจังหวัด 40%
“ฟังเสียงแฟน ๆ” จึงสามารถใช้กลยุทธ์ได้ถูกใจ
การฟังเสียงของแฟนหรือผู้บริโภคว่าชื่นชอบคอนเทนต์อะไร ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงบนโซเชียลมีเดียเพราะใช้กลยุทธ์ที่โดนใจผู้บริโภค จึงทำให้คนรู้จัก WeTV มากขึ้นแต่ยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานได้ โดยปี 2565 WeTV จะส่งท้ายปีด้วยการส่งซีรีส์ “เด็กฝึกหน้าใส เติมหัวใจนายหญิง (Intern in My Heart)” ผลิตโดย บราโว่ สตูดิโอส์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไปออกอากาศพร้อมกันกับประเทศจีน
พร้อมกันนี้ WeTV เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ความบันเทิงครั้งใหญ่ ด้วยการแต่งตั้ง “จ้าวลู่ซือ” เมกะสตาร์ดาวรุ่งจากจีนที่มีผลงานโดดเด่น และมีฐานแฟนคลับทั่วโลกขึ้นเป็น “โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์” ซึ่งจะมาช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ WeTV ไปยังผู้บริโภคในวงกว้างยิ่งขึ้น
โดยสำหรับแผนธุรกิจของ WeTV ประเทศไทย ในปี 2567 จะมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงอีโคซิสเต็ม โดยจะมีสองกลยุทธ์หลัก ได้แก่ หนึ่งกลยุทธ์ด้านออริจินัลคอนเทนต์ หรือ WeTV ORIGINAL นำโดยคอนเทนต์กลุ่มซีรีส์วาย และรายการไอดอลเซอร์ไววัล CHUANG ASIA ที่เป็นเรือธงในการทำตลาด ซึ่งมี “แจ็คสัน หวัง” นั่งแท่นลีดเมนเทอร์ รวมถึงการนำเสนอออริจินัล คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายส่งตรงจากเทนเซ็นต์ วิดีโอ เพื่อสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของคนไทยเพิ่มขึ้น
ส่วนกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อเชื่อมบริการจากโลกออนไลน์สู่โลกออฟไลน์แบบครบวงจร และสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแกร่ง อาทิ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Bubble” ที่เปิดให้แฟนๆ สามารถแชทพูดคุยกับศิลปินและดาราที่ชื่นชอบอย่างใกล้ชิด เชื่อมโยงประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ และฟีเจอร์สำหรับนักโฆษณาอย่าง New VDO Splash Screen ที่จะช่วยเพิ่ม CTR ได้ถึง 100% เป็นต้น
“จากแผนกลยุทธ์ทั้งการผลิตออริจินัล คอนเทนต์ กับพันธมิตรผู้ผลิตชั้นนำ รวมถึงการเฟ้นหาศิลปินและนักแสดงมาร่วมงานในโปรเจกต์ของ WeTV โดยจะร่วมมือกับ “เฮดไลเนอร์ ไทยแลนด์” ธุรกิจบริหารจัดการและพัฒนานักแสดง-ศิลปิน แบบครบวงจรที่เปิดโอกาสให้เป็นศิลปินทำงานในวงการบันเทิงไทยและต่างประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้ WeTV มีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง การสร้างประสบการณ์ให้กลุ่มผู้ใช้งาน เรามั่นใจว่าจะสามารถทำให้จำนวนผู้ชมคอนเทนต์ไทยเติบโตขึ้น 2.5 เท่าภายในปีหน้า”
ในขณะเดียวกัน WeTV จะเดินหน้ารักษาการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชียอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสานต่อพันธกิจในการผลักดันคอนเทนต์ไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ตลอดจนเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้ครบวงจร 360 องศา ให้กับลูกค้า นักการตลาด และมีเดียเอเยนซีชั้นนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ