เทคนิคคว้าใจคนดูให้เกิดความรักต่อแบรนด์ ผ่าน Video content จาก 4 แบรนด์ดัง ไมโล, ซีพี, ไทยประกันชีวิต และไวเซอร์

  • 31
  •  
  •  
  •  
  •  

การทำ Video Content ให้ประสบความสำเร็จในระดับคว้าใจคนดูให้เกิดความรักต่อแบรนด์ได้นั้น ถือเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการทำโฆษณา  ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลงานการตีความ สร้างสรรค์ และผลิตจากทีมงาน Creative Agency ที่สามารถตีโจทย์และนำเสนอในมุมมองที่เข้าถึงใจของผู้ชม ไปพร้อมกับข้อความที่แบรนด์ต้องการจะสื่อ   ซึ่งในหลายๆครั้ง ผู้ชมอย่างเราๆก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทีมงานครีเอทีฟมีเทคนิคอะไร ถึงสามารถคว้าใจคนดูให้กับแบรนด์ได้

ครั้งนี้ Marketing Oops! ได้มีโอกาสคุยกับ Ogilvy และ Manolamer  (มโนละเมอ) Creative Agency ชื่อดังที่สร้างสรรค์ผลงานให้กับแบรนด์ ไมโล, ซี.พี., ไทยประกันชีวิต และกล้องวงจรปิด Vizer จนได้รับรางวัล YouTube Ads Leaderboard ปีล่าสุดไปครอง เพื่อสัมผัสให้ถึงแก่นว่า เทคนิคหรือกลยุทธ์ใดคือสูตรลับสู่การทำให้ Video Content ประสบความสำเร็จได้อย่างสวยงาม

ไมโล เจาะให้ถึง Insight เข้าใจคนเป็น “แม่” กับคำถามง่ายๆ แต่โดน

กุลวดี ดอกสร้อย Creative Director, Ogilvy ประเทศไทย ผู้สร้างสรรค์ผลงานให้แบรนด์ ไมโล บอกว่า ความอิสระของ Video Content คือ ไร้รูปแบบ ทำอะไรก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่ถ้า Content ไม่โดนใจ ผู้บริโภคก็พร้อมจะ Skip ได้ภายใน 5 วินาที   สำหรับการผลิตงาน Video Content ให้กับแบรนด์ไมโลนั้น  สำคัญคือต้องเข้าใจ Insight ของแม่ที่มีต่อลูกจากใจจริง และหาให้ได้ว่าอะไรคือคำถามที่แม่ทุกคนสงสัยอยากรู้   และหลังจากการทำงานอย่างหนัก  เราได้คำถามที่โดนใจว่า “หรือฉันเป็นแม่ที่แย่ที่สุด?” เพราะ ไมโล คือ ผลิตภัณฑ์ที่ลูกเป็นผู้บริโภค แต่แม่คือคนเลือก ดังนั้นเป้าหมายหลัก คือ เราต้องสร้าง Engagement กับแม่ให้ได้มากที่สุด

Picture2

“ไมโล คือแบรนด์ที่กล้าจะเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ต้องบอกว่า ดื่มไมโลแล้วดีอย่างไร มีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร แต่ Video Content ชิ้นนี้ไม่บอกอะไรเลย แทบไม่มีโลโก้ด้วย ใช้เพียงสีที่เป็นสัญลักษณ์ และมุ่งสร้าง Inspiration ในการเลี้ยงลูก”

หรือฉันเป็นแม่ที่แย่ที่สุด ?

httpv://youtu.be/sgv_9nJOeqw

 

เรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม สู่ Video Content ที่น่าจดจำของ CP

Picture3ภานุ มีไพบูลย์ Creative Director, Ogilvy ประเทศไทย กับผลงานโฆษณาให้ CP บอกว่า อันดับแรกอยากให้แบรนด์เข้าใจว่า การทำภาพยนตร์โฆษณาทั้ง Video และ TVC มีงบการผลิตไม่ได้ต่างกัน  งบสำหรับ Video อาจจะมากกว่าด้วย เพราะเวลาการนำเสนอยาวกว่า ไม่ใช่ 15-30 วินาที แต่อาจจะยาวถึง 5 นาทีได้

สำหรับการทำวิดีโอคอนเท้นท์ให้กับซีพี  ทางเราได้รับบรีฟจากลูกค้า  และเห็นภาพชัดเจนว่า ลูกค้าอยากได้เรื่องที่ใกล้ตัว ที่เคยสัมผัส แต่อาจจะลืมหรือมองข้ามไป  คล้ายกับเวลาเรานั่งดูแม่ทำกับข้าว แล้วมีเครื่องครัวแขวนอยู่ ในทุกๆบ้านของคนไทย เหมือนเราโตขึ้นมาด้วยกับข้าวที่แม่เป็นคนทำ เช่น “จำได้หรือไม่ แม่ผัดข้าวให้เรามากี่กระทะแล้ว?” เป็นคำถามง่ายๆ แต่โดนใจที่สุด 

“หัวใจของการทำงานคือ ทำแล้วได้อะไรจากการดู ได้ความคิด ได้ความรู้สึก หรือได้เปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง แบบนั้นแล้วผลงานจะเป็นที่จดจำไปอีกนาน”

ทุกคำมีความหมาย | Every Mouthful is Meaningful

httpv://youtu.be/1MG8KeZIuO4

 

ต้องเข้าถึงจิตใจ แม้ไม่ได้เอ่ยถึงแบรนด์ แต่สามารถจดจำได้ไม่ลืม

Picture4เด่นชัย คีรีรักษ์ Associate Creative Director, Ogilvy ประเทศไทย ผู้สร้างสรรค์งานวิดีโอโฆษณาให้กับไทยประกันชีวิต บอกว่า  Video Content เปิดโอกาสให้ครีเอทีฟสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับโจทย์ที่ยากกว่าเดิม เครียดกว่าเดิม เพราะต้องดูด้วยว่าผู้ชมจะดูจนจบหรือไม่  ซึ่งถือว่ามีการวัดผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น  และเมือมียอด View ได้ถึงจุดหนึ่ง จะเกิด Organic Growth โดยอัตโนมัติทำให้สามารถมียอด View เพิ่มขึ้นได้อีก

“ส่วนการทำงานกับ ไทยประกันชีวิต ถือเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะแบรนด์ ไทยประกันชีวิตมีคาร์แรกเตอร์ที่ชัดเจน คนมีความคาดหวังอยู่แล้ว หลังจากได้โจทย์เกี่ยวกับในหลวง เลยตั้งคำถามง่ายๆ ชวนทุกคนออกไปหาคำตอบว่า ทำไมเราต้องยืนในโรงภาพยนตร์ และทำไมในหลวง จึงเป็นพระมหากษัตริย์ที่คนไทยรักมากที่สุด ซึ่งคำตอบที่ได้จะทำให้การลุกขึ้นยืนในโรงภาพยนตร์ครั้งต่อไป มีความหมายมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”

นี่คือการทำ Video Content ที่เข้าไปถึงจิตใจที่แท้จริงของคนไทยทุกคน โดยที่ไม่ได้โฆษณาอะไรเลย แต่คนไทยจะจดจำเนื้อหานี้ได้เป็นอย่างดี

“เหตุผล: The Reason” (Official HD) : ไทยประกันชีวิต Thai Life Insurance

httpv://youtu.be/BGW3SrEgB-g

เทคนิคสร้างงานมัดใจคนดู ในสไตล์ของ Manolamer

ฐาปกรณ์ อยู่สกุล Creative Director Manolamer ผู้สร้างสรรค์ผลงานให้กับกล้องวงจรปิด Vizer เผยถึงเบื้องหลังการทำงานให้ไวรัลจาก Vizer ว่า วันแรกที่รับโจทย์ ลูกค้าอยากได้มุมมองที่มันแตกต่างจากกล้องวงจรปิดยี่ห้ออื่น เพราะว่าถ้ายี่ห้ออื่นก็จะพูดถึงแต่เรื่องจับโจร จับคนร้าย ความปลอดภัยเสียส่วนใหญ่ แล้วลูกค้าก็อยากที่จะฉีกแนวของตัวเองออกมา ก็เลยให้โจทย์มาว่าอยากให้นำเสนอเรื่องดีๆ ที่มาจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพอรับบรีฟมาก็รู้สึกว่ามันใหม่และแปลกดี น่าจะคิดไอเดียที่ดีออกมาได้

ถ้าถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้งานชิ้นนี้ของ Vizer ไวรัล จริงๆ ก็มีหลายอย่างประกอบกัน แต่หลักๆ คือ 1. ต้องกระทบกระเทียบสังคม เสียดสีสังคมเล็กๆ  2. ต้องมี Entertainment value ที่ดี ที่มันทำหน้าที่ได้ครบ 3. ต้องมีคอนเท้นต์ที่ดีด้วย ด้วยการที่เราเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อคนจรจัดเปลี่ยนไป ผสมกับความกวนเล็กๆ ที่บางคนอาจจะเห็นว่า โห.. โฆษณากล้องวงจรปิดทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ บวกกับตอนนั้นก็มีเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์พอดีด้วย ซึ่งตอนนั้นกระแสสังคมกำลังวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการใช้งานกล้องวงจรปิดของพื้นที่เสี่ยงอยู่ด้วยอีก สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มันไวรัลขึ้นมาก็ได้

Picture5

“ส่วนตัวมีทีวิธีในการคิดงานให้ไวรัลอยู่เหมือนกัน คือคนออนไลน์จะมีเวลาไม่มาก ดังนั้น อะไรที่ดึงเค้าไม่ได้ภายใน 3-5 วินาที ก็จะ skip ข้ามไป เพราะฉะนั้นเทคนิคส่วนตัวก็คือ เวลาที่จะดีไซน์หนัง ในส่วนของการเปิดเรื่องนั้นจะต้อง Grab attention คนให้ได้ภายใน 5 วินาที เพื่อให้เขาดูหนังเราต่อ และสร้างความอยากรู้ของเขาไปเรื่อยๆ และในระหว่างทางเราก็จะทำให้หนังมันมี Entertainment คื อความสนุก ไม่ว่าจะสนุกในแบบ ดราม่า หรือคอมเมดี้ เราก็จะเอาเรื่องนี้ entertain เขาไปเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่งที่เราจะ twist หนังให้กลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่น ตลกมาอยู่ดีๆ ก็เศร้าเลย เพื่อสร้างความคาดไม่ถึงให้กับคนดู สุดท้ายก็คือการขยี้อารมณ์”

“ความจริงที่ไม่เห็นด้วยตา” โดย กล้องวงจรปิด Vizer

httpv://youtu.be/S-fvxEq_3DA

สร้างงานให้ดี ไม่ต้องรีบขายของ ถ้าได้ใจ เดี๋ยวยอดขายจะตามมา

ในฐานะครีเอทีฟ พวกเขายังได้ฝากข้อคิดที่น่าสนใจให้กับแบรนด์ที่ต้องการทำ Video Content ว่า งบประมาณการทำ Video Content ไม่ได้น้อยกว่าการทำหนังโฆษณาทาง TVC เลย  ซึ่งอาจจะต้องใช้งบมากกว่าด้วย และหากสามารถสร้างสรรค์งานที่ดีมีคุณภาพ โดนใจผู้บริโภคได้   ก็เห็นผลได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทอง และถ้าเนื้อหาสากล ก็จะสามารถขยายไปต่างประเทศได้อีกด้วย  และที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า การโฆษณา คือ การต่อสู้กับความเบื่อของคน ต้องหาสิ่งใหม่มานำเสนอตลอดเวลา นี่คือโจทย์ที่ต้องร่วมกันตีให้แตก และอย่ารีบขายของ แต่ทำให้คนชอบและรักในแบรนด์ จากนั้นยอดขายจะตามมาเอง

ขณะที่ในมุมของคนทำโฆษณา เมื่องานเสร็จแล้วมีคนชอบ มีคนดูจำนวนมาก คนทำรู้สึกดีใจแน่นอน แต่ก็พยายามลืมงานที่ผ่านมา ไม่ให้มากดดันการทำงานชิ้นใหม่ เพราะต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก เรียกว่างานโฆษณาเป็นสิ่งที่ต้องทำซ้ำ และดีขึ้นเรื่อยๆ

จะเห็นว่า Video Content เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานโฆษณา ยอด View และ Share ไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันถึงความสำเร็จ   แต่ Video Content ที่ดีต้องไม่จบแค่ในคลิป แต่ต้องเป็นแคมเปญโฆษณาที่สามารถขยายผลได้ ตั้งคำถามให้ถูกต้อง หาคำตอบที่ออกมาจากใจ เพราะ Video Content เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ต้องสร้าง Consumer Journey ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่ภาพยนตร์หรือโฆษณาเรื่องเดียว  การรู้เทคนิคและเข้าใจผู้บริโภค ก็สามารถผลิตงานออกมาให้คนรักได้อย่างแน่นอน ใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Video Advertising ได้ที่ Building Brand Love with YouTube หรือดูบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่

ทำไม Online Video Advertising ถึงสำคัญสำหรับการทำโฆษณาออนไลน์
สู้ด้วยคอนเทนต์! – เปิดมุมมองจากแบรนด์และเอเยนซี่ กับแนวรบใหม่ในการทำ Video Advertising

 

Copyright © MarketingOops.com


  • 31
  •  
  •  
  •  
  •