สร้าง Recurring Income อย่างไร ? เรียนรู้แนวคิด อนันดาฯ กับการปั้น เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ให้เป็นรายได้ประจำ 20%

  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ช่วงนี้แวดวงอสังหาริมทรัพย์มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ใช่จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในมิติเดิม ๆ แต่เป็นเพราะความแปลกใหม่ จากรูปแบบและสีสันที่มากขึ้น ซึ่งไอเดียที่เรียกเสียงฮือฮาได้ล่าสุดคงหนีไม่พ้นการที่ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เพิ่งเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์แบบรวดเดียว 5 โครงการ

 

จับตา ‘เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์’ โมเดลสร้างรายได้ระยะยาว

ถึงจุดแข็งของอนันดาฯ จะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า แต่ก็ต้องยอมรับว่า การเสริมศักยภาพด้วยความแข็งแกร่งจากการสร้างรายได้นั้น เป็นหนทางที่ดีที่สุดของแบรนด์ในยุคนี้ ซึ่งอนันดาฯ เองก็อาจจะมองถึงจุดนี้ เราจึงได้เห็นอนันดาฯ ร่วมทุนกับพันธมิตรกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัง เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งในการลงทุน ขณะเดียวกัน ก็ยังร่วมกับ The Ascott Limited หรือ Ascott (ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด) ผู้นำด้านเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ระดับโลกที่มีระบบ CRM ให้บริการลูกค้ากว่า 120,000 ยูนิต ใน 200 เมือง 35 ประเทศทั่วโลก เพื่อคว้าโอกาสจากธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ บิสสิเนสโมเดลใหม่

ความคาดหวังที่ อนันดาฯ ตั้งเป้ากับเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ทั้ง 5 โครงการนั้น จะเป็นรายได้ประจำ หรือ Recurring Income ที่อาจเติบโตสูงถึง 20% ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่ายังไม่ใช่เวลาทำรายได้จากธุรกิจกลุ่มดังกล่าว แต่สำหรับ อนันดาฯ นี่ถือเป็นการมองข้ามซ็อต เพราะสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศซึ่งแน่นอนว่าสอดคล้องกับตลาดอสังหาฯ ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับธุรกิจโรงแรมที่พัก ที่พบว่าผู้คนเริ่มออกไปใช้ชีวิตและท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้นอย่างชัดเจน

แม้ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่จะมองว่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ มีโอกาสทำรายได้ไม่เท่ากับกลุ่มโรงแรมที่พักในช่วงไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริงแล้ว พบว่าภาพรวมของอัตราการเข้าพักเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์อยู่ที่ 50-55% ขณะที่ โรงแรมอยู่ที่ 27% เท่านั้น ซึ่งหากวิเคราะห์ข้อมูลระยะยาวจะพบว่า ดีมานด์การเข้าพักระยะสั้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวนั้นน้อยกว่า ประกอบกับสถานการณ์ COVID-19 ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการเข้าพักแบบเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์มากเท่ากับธุรกิจโรงแรม

 

Insight ทำเลทอง กับดีมานด์แบบ Long Stay

หากได้ทำความเข้าใจกับข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์แล้ว ก็จะพบว่าตลาดดังกล่าวมีเสน่ห์อย่างชัดเจนสามารถตอบโจทย์ผู้เข้าพักระยะยาวได้ เช่น มีบริการครบครัน เติมเต็มความสะดวกสบาย ห้องขนาดใหญ่สามารถพักอาศัยได้เป็นครอบครัว ระยะเวลาในการเช่าที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าคอนโดมิเนียม และแม้ว่าจะมีค่าเช่าต่อเดือนสูงกว่ากลุ่มคอนโดฯ แต่ก็ยังถูกกว่าหากเทียบกับการใช้บริการโรงแรม

นอกจากนี้ทำเลที่นิยมก็น่าสนใจ โดยเฉพาะย่านทองหล่อ ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น เกาหลี และย่านสาทร ที่มีสำนักงานจำนวนมาก เช่นเดียวกับ ย่านสีลม และย่านอื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมีความต้องการกระจายอยู่ทั่วไปด้วย

 

อนันดาฯ คว้าโอกาสทอง Unboxing รวดเดียว 5 โครงการ

ไม่น่าแปลกใจที่ อนันดาฯ จะวางแผนสร้างรายได้ระยะยาวจากบริการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เพราะนี่คือช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมหลังจากวิกฤต COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ภายใต้ปัจจัยที่เอื้อกันทุกด้าน ทั้งศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกหมายปอง และยังมีนักธุรกิจ ชาวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาทำงาน (Expat) หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้ชีวิตระยะยาวในไทยอีกเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น อนันดาฯ จึงเลือกช่วงเวลานี้ ร่วมทุนกับพันธมิตรกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัง เพื่อเปิดตัว 5 โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์พร้อมกันในคราวเดียว กว่า 1,809 ยูนิต ในมูลค่า 12,000 ล้านบาท ภายใต้ 3 แบรนด์ ได้แก่ Ascott เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มธุรกิจ, Somerset ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว และ Lyf ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่

– Ascott Thonglor Bangkok (แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก)

จุดเด่น : เซอร์วิสเรสซิเดนซ์และโรงแรมหรูย่านทองหล่อ แบบ 451 ห้องพัก มีหลายขนาดตั้งแต่ห้องพักในโรงแรมที่ 35 ตร.ม. จนถึงห้องพักอาศัย 3 ห้องนอน ขนาด 140 ตร.ม. บาร์ริมสระและอาหารสุดหรูที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพ เช่น ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ ฟิตเนส โยคะสตูดิโอ เลานจ์ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ และห้องเล่นสำหรับเด็ก ทั้งยังมีชั้นสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมและจัดงานโดยเฉพาะ และเดินทางสะดวกเพียง 350เมตรถึง BTS สถานีทองหล่อ ทั้งยังง่ายต่อการเดินทางไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษชลบุรีและภาคตะวันออก

 

 

– Ascott Embassy Sathorn Bangkok (แอสคอทท์ เอ็มบาสซี่ สาทร)

จุดเด่น : เซอร์วิสเรสซิเดนซ์และโรงแรมหรูใจกลางย่านธุรกิจสาทร มี 393 ห้องพัก ตั้งแต่ห้องพักแบบโรงแรมขนาดเริ่มต้น 35 ตร.ม. จนถึงห้องพักอาศัย 3 ห้องนอน ขนาด 150 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านอาหารตลอดทั้งวัน บาร์ริมสระ สกายเลานจ์ และบาร์บนชั้นดาดฟ้า รวมถึง สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ ห้องรับรองพิเศษ และห้องฟิตเนสที่มองเห็นเส้นขอบฟ้า

 

 

– Somerset Rama 9 (ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9)

จุดเด่น : เซอร์วิสเรสซิเดนซ์และโรงแรมระดับสากลแห่งแรกย่านรัชดา มี 445 ขนาด 35 – 123 ตร.ม. พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มในหลากหลายโซนพักผ่อน เช่น ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ ฟิตเนส โยคะสตูดิโอ เลานจ์เรสซิเดนซ์ สระว่ายน้ำลอยฟ้า และห้องเล่นสำหรับเด็ก พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมขนาดกลางและจัดงาน ใกล้กับ ห่างจากสถานีพระราม 9 350m และ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพียง 450 เมตร

 

 

– Somerset Pattaya (ซัมเมอร์เซ็ต พัทยา)

จุดเด่น : ทำเลรีสอร์ทระดับพรีเมียมกลางเมืองพัทยา ห้องพักมาพร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามาขนาด 35 – 115 ตร.ม. มีสวนน้ำบนดาดฟ้าและสระว่ายน้ำอินฟินิตี้สำหรับผู้ใหญ่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครอบครัว รวมถึง บาร์ริมสระน้ำและห้องอาหารให้บริการตลอดวัน เอ็กซ์เซ็กคูทีฟคลับเลานจ์ ห้องรับรอง ห้องฟิตเนส และห้องเล่นสำหรับเด็ก

 

 

– Lyf Sukhumvit 8 Bangkok (ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก)

จุดเด่น : ตอบโจทย์วัยมิลเลนเนียลกับแนวคิด Coliving ทั้งหมด 196 ห้องพัก ห่างจาก BTS สถานีนานา เพียง 50 เมตร พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้เข้าพัก เช่น Co-working Space ห้องครัวส่วนกลาง ห้องซักรีด ฟิตเนส และพื้นที่สีเขียวบนชั้นดาดฟ้า รวมถึง พันธมิตรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เช่น Ted Talks Forbes 50 Under 50 Social Scoota Tours Pub Crawls และ Iron Chef เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

 

 

อย่างไรก็ตาม จากแนวทางทั้งหมด ทำให้ อนันดาฯ วางเป้าหมายธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในปี 2565 เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมา และกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจากการเปิดตัวโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ทั้ง 5 โครงการนี้ จะสามารถสร้างรายได้ประจำกว่า 20% โดยบันทึกเป็นรายได้ภายใน 5 ปี จากทำเลที่คัดสรรมาตอบโจทย์ทั้งเชิงธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย


  • 3K
  •  
  •  
  •  
  •