ปัจจุบันมีแบรนด์ไทยจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก มีหลายแบรนด์สามารถโกอินเตอร์ได้ หรือหันมาจับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ หรือชื่อของผลิตภัณฑ์ แต่ยังมีอีกแบรนด์หนึ่งที่ยังคงเสน่ห์ของความเป็นไทยแท้ โดยเชื่อมั่นว่าของไทยแท้ๆ ก็สามารถไปได้ไกลไม่แพ้ใคร นั่นคือ “อินทรชิตร์” แบรนด์ขี้ผึ้งยาตำรับสมุนไพรของไทยที่ยังคงสูตรยาตามตำรับไทยแบบโบราณ
วันนี้ เราลองมาฟัง คุณจีน ชัชศรัญ จินดารัตนวรกุล หัวเรือใหญ่ของแบรนด์ขี้ผึ้งยาตำรับไทย “อินทรชิตร์” เล่าถึงจุดยืนและกลยุทธ์ในการสื่อสารเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับจากคนไทยและชาวต่างชาติ และยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยแท้ได้อย่างภาคภูมิใจ
“ความเชื่อมั่น” คือหัวใจให้แบรนด์ยาไทยไปต่อได้
คุณจีนเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของอินทรชิตร์ ว่าเกิดขึ้นมาได้เพราะความเชื่อมั่นและศรัทธาในสมุนไพรไทยที่ดีไม่เป็นสองรองใคร และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา เพราะมีสรรพคุณมากมายถ้าใช้ให้ถูกกับโรคหรืออาการที่เป็นก็จะได้ผล ด้วยความเชื่อมั่นนี้ทำให้มีการศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติม และต่อยอดจนได้สูตรยาของอินทรชิตร์ที่มีคุณภาพตามตำรับยาสมุนไพรแบบไทยแท้ในที่สุด
“ขี้ผึ้งยาอินทรชิตร์ของเราผลิตตามหลักของยาตำรับแบบโบราณ โดยเราให้ความสำคัญกับรายละเอียดในส่วนต่างๆ ทั้งเรื่องการเก็บสมุนไพรเพื่อนำมาใช้ปรุงยาแต่ละสูตรที่ช่วยรักษาได้ตรงตามโรคหรืออาการ ซึ่งถึงแม้ว่าสมุนไพรที่นำมาใช้บางตัวจะหายาก แถมยังเก็บเอาไว้ไม่ได้นานก็ต้องทิ้ง แต่ถ้าตามตำรับบอกว่าดีและต้องใช้เราก็จะหามาให้ได้”
นอกจากความยากในการหาสมุนไพรแล้ว การที่จะให้ผลิตภัณฑ์อยู่ได้ภายใต้ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ชอบความง่าย ก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่ง ซึ่งคุณจีนกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ถ้ายาดีจริง หายจริง ก็เชื่อว่าผู้บริโภคก็จะยอมปรับตัวเข้าหา เพราะการหายจากอาการป่วย เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังมากที่สุด
“ถามว่าอยากทำให้มันง่ายกว่านี้มั้ย? จริงๆ ก็อยากนะ (หัวเราะ) แต่ถ้าทำแล้วได้ไม่ตรงตามตำรับที่ถูกต้อง ลูกค้าใช้แล้วไม่หาย ก็ไม่มีประโยชน์ นี่คือเหตุผลที่เราต้องมีตัวยาของอินทรชิตร์ออกมาหลายสูตร หรืออย่างยาจินดามณีข์ ซึ่งเป็นยาต้มสมุนไพรของเรา จริงๆ หลายคนถามว่า ทำไมต้องต้มอย่างต่ำ 15 นาที ทำไมไม่ทำให้เป็นแบบชงน้ำร้อนง่ายๆ ? เราก็ต้องยืนยันว่าไม่ได้ ยิ่งต้มนานจะเป็นการรีดสรรพคุณของตัวยาสมุนไพรออกมาให้เข้มข้นมากที่สุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในแง่ของผลการรักษาได้ดียิ่งขึ้นด้วย เราจึงไม่คิดเปลี่ยน”
เมื่อมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ว่าหายจริง นั่นก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือคือการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงวิธีการใช้ และสรรพคุณต่างๆ ซึ่งคุณจีนยังได้แนะไอเดียเกี่ยวกับการปรับกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าใจและจดจำสูตรยาที่มีหลากหลายได้ง่ายขึ้น
“เนื่องจากเรามีหลายสูตร จึงต้องคิดกลยุทธ์ในการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจง่าย จำได้ ซึ่งเมื่อก่อนเราก็จะมีการออกบูธเพื่อแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าตามงานต่างๆ และเปิดให้คำปรึกษากับลูกค้าที่เข้ามาสอบถามทางโทรศัพท์ในแต่ละวัน ซึ่งตอนนี้มีออนไลน์ อย่าง Facebook เราก็ใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าได้ตรงขึ้น รวดเร็วขึ้น แต่คนออนไลน์จะต้องการการสื่อสารที่รวดเร็วกว่า ง่าย กระชับ เราเลยเอาสูตรของเรามาแต่งเป็นกลอนให้คนจำง่าย และใช้ตัวเลขของสูตรต่างๆ มาทำให้เด่น ให้คนเกิดภาพจำ ซึ่งผลตอบรับก็ดีมากๆ”
ยาสมุนไพรไทย…เอกลักษณ์ไทยที่ควรส่งเสริม
นอกจากยาสมุนไพรจะเป็นสินค้าหรือธุรกิจที่ตอบโจทย์ในการรักษาอาการต่างๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว สูตรยาต่างๆ ยังเป็นเหมือนภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชนชาตินั้นๆ ประเด็นนี้คุณจีนได้ยกตัวอย่างไว้ได้น่าสนใจว่า ประเทศจีนมีบัวหิมะซึ่งเป็นครีมสมุนไพรที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก เมืองไทยของเราก็มียาตำรับสมุนไพรท้องถิ่นของไทยแท้ๆ ที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน เช่น ขี้ผึ้งยาอินทรชิตร์ สูตร 7 ที่ช่วยเรื่องแผลสด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แต่คนไทยสมัยใหม่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่พอได้ลองใช้หลายคนก็ติดใจ แล้วเกิดการบอกต่อ เนื่องจากตำรับที่คนโบราณคิดมาดีจริง หายจริง หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐเหมือนกับบัวหิมะก็อาจแผ่ขยายให้เกิดความนิยมได้มากกว่านี้
“ความเป็นไทยแท้” คือเสน่ห์มัดใจชาวต่างชาติ
เมื่อแบรนด์ไทยจะไปทำตลาดต่างประเทศ บางแบรนด์อาจพยายามปรับตัวเองให้เอาใจตลาด โดยทำให้สินค้ามีความเป็นสากลมากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว ความเป็นไทยแท้ๆ ที่ชาวต่างชาติไม่มีนี่แหละกลับเป็น “จุดขาย” สำคัญที่มัดใจคนต่างชาติ ซึ่งเมื่อถามถึงผลตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีต่อแบรนด์ “อินทรชิตร์” คุณจีนถึงกับยิ้มและอธิบายให้เราฟังอย่างภูมิใจว่า
“ผลตอบรับถือว่าดีเกินคาดเลยค่ะ สาขาที่ขายดีที่สุดต้องยกให้ที่ Central Embassy เลย ซึ่งในย่านนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติทั้งคนจีน และทางฝั่งยุโรปเยอะ หลายคนซื้อของเราแล้วก็กลับมาซื้อใหม่อีก เพราะเค้าชอบความเป็นไทย และรู้สึกว่ายาตำรับของเราทำให้เค้าหายได้จริงๆ ลูกค้าบางคนถึงขนาดกลับมาซื้อซ้ำ หรือจะขอซื้อไปขายต่อที่ประเทศของเค้าเลย (หัวเราะ)”
และนี่คือ “อินทรชิตร์” แบรนด์ไทยแท้ ที่พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าของดีของไทยแบบดั้งเดิมก็สามารถมีจุดยืนอยู่ได้อย่างสง่างาม ไม่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดูเป็นสากล สามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงและภาคภูมิใจ ขอแค่มั่นใจว่า “ของไทยแท้นี่แหละดีจริง” เท่านั้นก็พอ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากแฟนเพจอินทรชิตร์ www.facebook.com/IndrajidThai