LG ประเทศไทย ปรับโครงสร้างมุ่ง 4 ธุรกิจ สร้างการเติบโตใหม่ ชูจุดแข็ง AI – มีแผนทำ EV Charger

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

LG Thailand

ถ้าพูดถึง LG” (แอลจี) คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีก ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็น ไปจนถึงขนาดเล็ก เช่น ไมโครเวฟ เครื่องกรองน้ำ ซึ่งนั่นเป็นธุรกิจดั้งเดิม และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักเท่านั้น ภายใต้อาณาจักร LG ยังมีธุรกิจโซลูชันอื่นๆ ที่ต้องการผลักดันให้เป็นการเติบโตใหม่

หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา LG Electronics” (แอลจี อีเลคทรอนิคส์) บริษัทแม่ได้ประกาศปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ มีเป้าหมายเพื่อเร่งการดำเนินกลยุทธ์ระยะกลางและระยะยาวของบริษัทตามวิสัยทัศน์ “Future Vision 2030″ เพื่อขับเคลื่อน LG ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันชีวิตอัจฉริยะ (Smart Life Solution Provider) ล่าสุดเปิดปี 2568 LG ประเทศไทย” ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรรูปแบบใหม่ตามบริษัทแม่

 

4 กลุ่มธุรกิจ มีแผนเปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

LG ดำเนินธุรกิจในไทยมากว่า 37 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โฟกัสธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าจำหน่ายเชน Modern Trade และร้านดีลเลอร์ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเป็นหลัก แต่ก้าวต่อไปนับจากนี้ ภายใต้โครงการองค์กรรูปแบบใหม่ ตามวิสัยทัศน์ Future Vision 2030 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ และสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ ได้แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliance Solutions: HS) ผสานเทคโนโลยี Affectionate Intelligence (AI) ของ LG อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อยกระดับความสะดวกสบายภายในบ้าน

กลุ่มธุรกิจโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิง (Media Entertainment Solution: MS) ที่ปรับเปลี่ยนจากผู้ให้บริการฮาร์ดแวร์ ไปสู่ผู้ให้บริการคอนเทนต์และบริการ ด้วย webOS Platform รวมคอนเทนต์ต่างๆ ทั่วโลก

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco Solution: ES) ผ่านการพัฒนาโซลูชัน HVAC และโซลูชันที่มีเฉพาะสำหรับประเทศไทย

กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ (Vehicle Solution: VS) ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกลุ่มธุรกิจนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป อย่างไรก็ตาม LG ประเทศไทย ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย โดยมีแผนทดลองทำสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทย (EV Charger) พร้อมทั้งจับมือกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้

LG Thailand

 

4 กลยุทธ์การตลาด มุ่งสู่ Smart Life Solution Company

LG ประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์ปี 2568 ภายใต้แนวคิดLife’s Good 24/7 with Affectionate Intelligence: ชีวิตดีดีทุกเวลา ด้วยความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์” มุ่งสู่การเป็น Smart Life Solution Company อย่างเต็มรูปแบบ

คุณซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์ปี 2568 ว่า “แอลจีกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Smart Life Solution Company ตามวิสัยทัศน์ Future Vision 2030 โดยผสาน AI และความยั่งยืนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างรูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน และการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ที่ผสานกับเทคโนโลยีได้อย่างไร้รอยต่อ โดยมุ่งเน้น 4 เสาหลัก ได้แก่ การเติบโตในธุรกิจหลัก การขยายบริการแพลตฟอร์ม การสร้างการเติบโตให้กับโซลูชัน B2B และการแสวงหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ

สำหรับกลยุทธ์ในตลาดประเทศไทย LG เดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

– More Insight การเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งด้วย Affectionate Intelligence หรือเทคโนโลยี AI เฉพาะของ LG ที่จะช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถเรียนรู้และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ

– More Integrated การพัฒนาโซลูชัน B2B แบบครบวงจรเพื่อสร้างความไว้วางใจและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจไทย 

– More Seamless การยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ให้สะดวกสบายแบบไร้รอยต่อยิ่งขึ้นผ่าน LG Online Brand Shop หรือ LG.com

– More Reliable การมอบบริการการดูแลระยะยาวที่น่าเชื่อถือผ่าน LG Subscribe เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในทุกมิติ

LG Business Direction 2025
คุณซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

 

 

เจาะลึกเทคโนโลยี “Affectionate Intelligence

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ LG ปีนี้ คือ ชูเทคโนโลยี Affectionate Intelligence หรือ AI ของ LG ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความเข้าใจและและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล ผ่าน  3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย (Connected Devices) จากการเข้าซื้อกิจการ Athom ทำให้แอลจีสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT กว่า 170 แบรนด์ทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของแอลจีได้อย่างไร้รอยต่อ

เอเจนต์ AI อัจฉริยะ (Capable AI Agents) ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับ LG FURON ด้วย AI เชิงสร้างสรรค์จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบการใช้ชีวิต พร้อมประสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ภายใต้การปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่เข้มงวด

บริการที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว (Integrated Services) LG ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ผสานผลิตภัณฑ์ LG กับเทคโนโลยี AI ของไมโครซอฟท์ เพื่อนำไปสู่การให้บริการแบบครบวงจรด้วย AI ที่เข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชัน LG ThinQ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจสอบและสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งปัจจุบันลูกค้า 70% ที่ใช้ LG ในไทย ดาวน์โหลดแอปฯ LG ThinQ

LG Thailand

คุณอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเพิ่มเติมว่า LG พัฒนา Affectionate Intelligence มาอย่างต่อเนื่อง จากการเก็บข้อมูลการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า LG ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากกว่า 700 ล้านเครื่องทั่วโลก เพื่อให้ AI เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้แต่ละคน เช่น เครื่องซักผ้า, ทีวี, เครื่องปรับอากาศ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อปรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล หรือแต่ละครอบครัว โดยที่การใช้ในครั้งต่อๆ ไป ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาตั้งค่า หรือปรับโหมดการใช้งานใดๆ ซึ่งตอบโจทย์ความสะดวกยิ่งขึ้น

“สำหรับประเทศไทยในปี 2568 LG มีแผนเปิดตัวสินค้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี Affectionate Intelligence โดยรวมเฉลี่ย 40% ของสินค้า LG ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 20% โดยผลิตภัณฑ์ที่ผสานเทคโนโลยี LG AI จะอยู่ในเซ็กเมนต์กลาง บน แต่สำหรับกลุ่มสินค้าทีวีกว่า 90% มีเทคโนโลยี LG AI ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์แล้ว”

LG Business Direction 2025
คุณอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

 

เพิ่มฐานธุรกิจ B2B และ D2C

ขณะที่ช่องทางการขาย ปี 2568 LG โฟกัส 3 ส่วนหลักคือ

1. ตลาด B2C (Business to Consumer) จำหน่ายสินค้าผ่าน Modern Trade และ Traditional Trade โดยปัจจุบันมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ และได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยรักษาสัดส่วนไว้ที่ 70%

2. ตลาด B2B (Business to Business) ตั้งเป้าการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจนี้จาก 11% เป็น 15%

3. ตลาด D2C (Direct to Consumer) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “LG.com” เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 15%

นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าธุรกิจ LG Subscribe โมเดลธุรกิจแบบ Subscription ผ่านการแบ่งจ่ายค่าบริการรายเดือน ที่มาพร้อมกับบริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญของ LG ตลอดอายุสัญญา ครอบคลุมระยะเวลา 5 – 7 ปี และเมื่อครบสัญญาแล้ว กรรมสิทธิ์ในเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ จะเป็นของลูกค้า โมเดลนี้จึงเป็นเช่าซื้อ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการของ LG ได้ง่ายขึ้น

“ตอนแรกเราคิดว่า Subscription ในไทย ซื้อเพราะราคา แต่ผลปรากฏลูกค้าใช้บริการ LG Subscribe เพราะ 1. ต้องการบริการหลังการขายครบวงจร และ 2. เป็นเหมือนการผ่อนระยะยาว ส่วนสินค้าที่ลูกค้านิยมสมัคร subscribe เป็นหมวดเครื่องกรองน้ำ, เครื่องปรับอากาศ และตอนนี้เริ่มมีทีวี”

ขณะที่ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “LG Laundry Crewไทยถือเป็นประเทศแรกที่พัฒนาโมเดลธุรกิจดังกล่าว ปัจจุบันมี 10 สาขา ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ LG ประเทศต่างๆ ต้องการเรียนรู้โมเดลธุรกิจนี้จากไทย

LG-Subscribe

 

สำรวจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ปี 2568 – LG ตั้งเป้าโต 15%

แม้เศรษฐกิจไทยจะผันผวน กำลังซื้อในประเทศจะซบเซา และตลาดอสังหาริมทรัพย์จะไม่เป็นใจ แต่สำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงเติบโต โดยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มทีวี, เครื่องซักผ้า, ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ในปี 2567 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 82,881 ล้านบาท โต 3.5% จากปีก่อน

ส่วนแนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มทีวี, เครื่องซักผ้า, ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ปี 2568 คาดการณ์ว่าจะโต 5% อยู่ที่ 87,025 ล้านบาท ปัจจัยการเติบโตมาจากภาคการท่องเที่ยว บวกกับมีการซื้อซ้ำ และบางกลุ่มสินค้ายังมีโอกาสขยาย Penetration

ขณะที่ผลการดำเนินงาน LG ประเทศไทย ในปี 2567 ยอดขาย 15,200 ล้านบาท โต 5%  จากปีก่อน และปี 2568 ตั้งเป้าโต 15% ยอดขาย 17,500 ล้านบาท เนื่องจากทั้งธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านตัวแทนจำหน่าย คาดว่าโต 5 – 7% และการรุกตลาด B2B และ D2C ผ่าน LG.com รวมทั้งโมเดลธุรกิจ LG Subscription และ LG Laundry Crew

LG Thailand


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ