เรียนรู้ ‘วิถีใหม่ของผู้บริโภค’ ที่แบรนด์และนักการตลาดห้ามพลาด ผ่าน Tetra Pak Index 2021: The Rewired Consumer

  • 2.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การจะดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเดินหน้าต่อได้อย่างแข็งแกร่งในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หนึ่งใน Key success ที่บรรดาแบรนด์และนักการตลาดห้ามพลาด ก็คือ การเข้าใจเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้สามารถนำเสนอหรือพัฒนาโปรดักท์ให้ตอบโจทย์ความต้องการได้ ‘โดน’ และ ‘ตรงใจ’ ผู้บริโภคให้มากที่สุด

ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้มีการจัดทำรายงาน เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ (Tetra Pak Index)  ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคใน 9 ประเทศทั่วโลก อาทิ อเมริกา อังกฤษ อินเดีย จีน ฯลฯ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในเชิงลึกได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งในปีนี้จัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ภายใต้ชื่อ Tetra Pak Index 2021: The Rewired Consumer หรือ วิถีใหม่ของผู้บริโภค

“เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ จะโฟกัสการเปลี่ยนแปลงของการใช้ชีวิตผู้บริโภคแบบรอบด้าน โดยเทรนด์เหล่านี้ก็เกิดขึ้นในไทยเช่นเดียวกัน และเราเชื่อว่า แม้การระบาดจะคลี่คลายแต่นิสัยและพฤติกรรมใหม่เหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไป” คุณสุภนัฐ  รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

 

สรุปรายงาน Tetra Pak Index 2021:The Rewired Consumer – วิถีใหม่ของผู้บริโภค

สำหรับการสำรวจผู้บริโภค เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ 2564: วิถีใหม่ของผู้บริโภค สามารถสรุปออกมาเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ Habit-นิสัยใหม่, Health-สุขภาพ และ Environment-สิ่งแวดล้อม โดยเทรนด์ที่น่าสนใจและมาแรง มีดังต่อไปนี้

  • โควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิต และพฤติกรรมของคนไปอย่างมาก หนึ่งพฤติกรรมหลักที่พบ ก็คือ ‘การเป็นตัวเองที่ดีขึ้น’ หรือ Better Me ทั้งการดูแลตัวเอง การเลือกรับประทานอาหาร และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และทำให้ผู้คนมีนิสัยที่ ‘ยึดติดอยู่’ ซึ่งนิสัยเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดไปแม้การระบาดโควิด-19 จะหายไป

 

 

  •  จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีการตีความคำว่า ‘บ้าน’ ใหม่ จากเดิมเป็นที่อยู่อาศัย ตอนนี้กลายเป็นทุกอย่าง ทั้งสถานที่พักผ่อน ที่ทำงาน ห้องเรียน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และอื่น ๆ เพราะตลอดการระบาดของโควิด-19 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คนอยู่บ้านมากขึ้น ใช้ชีวิตนอกบ้านน้อยลง ทำให้ผู้คนเกิดพฤติกรรม Back to basics หรือการกลับไปมีชีวิตแบบเดิม ๆ มากขึ้น เช่น การใช้ชีวิตที่บ้านมากขึ้น ทำอาหารทานเองมากขึ้นถึง 61% รวมถึงมีพฤติกรรม ‘บริโภคอย่างรับผิดชอบ’ มากขึ้น

 

 

  • ยกตัวอย่างเช่น 62% ของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพของสิ่งที่พวกเขาเลือกรับประทาน ขณะที่ 54% ผู้บริโภคทิ้งอาหารน้อยลงกว่าในช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ และ 55% มีความรอบคอบในการเลือกซื้ออาหารมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการทิ้งและสร้างขยะอาหาร, 46% ชี้ว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ พวกเขาพยายามคัดแยกขยะ ไม่ว่าจะเป็นกล่องกระดาษ แก้ว หรือพลาสติก เพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างเหมาะสมต่อไป
  • ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น โดย 49% ของประชากรโลกตระหนักถึงผลกระทบที่ทางเลือกในชีวิตประจำวันมีต่อสิ่งแวดล้อม และเกือบ 3 ใน 4 ตระหนักถึงความจำเป็นในการลงมือทำในขณะนี้ เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นต่อไปในอนาคต, 50% บอกว่า พวกเขาจะหันมารีไซเคิลให้มากขึ้นในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
  • ผู้บริโภคมองหาผู้ประกอบการที่จะช่วยนำและส่งเสริมนิสัยรูปแบบใหม่เหล่านี้ให้กับพวกเขาได้อย่างยั่งยืน โดย 35% จะเลือกแบรนด์จากข้อมูลรับรองด้านความยั่งยืนมากกว่าในช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่, 50% จำเป็นอย่างยิ่งที่บรรจุภัณฑ์อาหารจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, 61% คาดหวังให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มก้าวมาเป็นผู้นำในการหาแนวทางโซลูชันอันยั่งยืนด้วยและมากกว่า 1ใน 3 เลือกแบรนด์จากการพิจารณาข้อมูลการรับรองความยั่งยืน

 

โอกาสธุรกิจจาก Tetra Pak Index 2021 ที่แบรนด์ห้ามพลาด

“Tetra Pak Index ถูกจัดทำขึ้นทุกปี เพื่ออัพเดทข้อมูลทั้งสำหรับเต็ดตรา แพ้ค และไปแชร์กับลูกค้าไม่ว่าจะผู้ผลิตหรือแบรนด์ที่ทำงานร่วมกันกับเราแบบพาร์ทเนอร์ เพื่อให้สามารถนำเสนอและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคสำหรับต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้” คุณสุภนัฐอธิบาย  พร้อมเสริมว่า

แม้วิถีใหม่ของผู้บริโภคจาก Tetra Pak Index 2021 จะไม่มีเทรนด์ใหม่ที่เซอร์ไพร์สเรามากนัก ทว่าโควิด-19 เป็นตัวเร่งจากการรับรู้และตระหนัก เข้าสู่ยุคปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเทรนด์ที่น่าจับตามองและมาแรงมาก ๆ ได้แก่

1.‘การเป็นตัวเองที่ดีขึ้น’ หรือ Better Me ซึ่งในมุมผู้ผลิตและแบรนด์ต้องตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคมองหาที่สินค้าสามารถทำให้สุขภาพดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร การเสริมออกกำลังกาย วัตถุดิบต่าง ๆ ฯลฯ ที่สำคัญนอกจากสุขภาพดียังต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วย สะท้อนจากการเติบโตของอาหารและเครื่องดื่มที่ส่งเสริมเรื่องนี้โตขึ้นถึง 500%

2.การเปลี่ยนจากการดูแลสุขภาพไปเป็นการป้องกันการเจ็บป่วย’ หรือ From Protection to Prevention 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าการมีสุขภาพดีหมายถึงความปลอดภัย นั่นหมายถึงผู้บริโภคจึงกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อจิตใจและดีต่อร่างกาย และอาหารถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี

ผู้บริโภคต้องการรับประทานแล้วไม่รู้สึกผิด สิ่งที่รับประทานเข้าไปไม่ว่ามื้อหลัก มื้อรอง ต้องมีประโยชน์ตอบโจทย์สุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ ดังนั้นการออกนวัตกรรมของสินค้า จึงควรต้องตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและภูมิคุ้มกันเป็นอันดับแรก ๆ เพื่อให้ได้เป็นหนึ่งในรายการช้อปปิ้งของผู้บริโภคยุคหลังโควิด-19 นี้

3. ‘การบริโภคอย่างรับผิดชอบ หรือ Responsible Consumption’ เป็นเทรนด์ที่ชัดเจน และคลอบคลุมหลายส่วน อาทิ สุขภาพ จะบริโภคในสิ่งที่ดีต่อร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน และต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจากการวิจัย 1 ใน 3 ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม

สำหรับเทรนด์นี้ ผู้ผลิตและแบรนด์ต้องสื่อสารอย่างชัดเจนและโปร่งใสว่า จะทำอย่างไรในเรื่องนี้ เช่น บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล ทำจากวัสดุที่เกิดใหม่ได้จากธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเร่งมือหรือปรับตัวให้รวดเร็ว เพราะผู้บริโภคสนใจเรื่องนี้มากขึ้น หากแบรนด์สามารถส่งเสริมนิสัยรูปแบบใหม่นี้ให้สะดวกสบายได้มากขึ้น จะทำให้นิสัยใหม่นี้คงอยู่ต่อไป และมีโอกาสที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกแบรนด์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้นด้วย

“เรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายของแบรนด์ในเรื่องนี้ แต่ผู้ผลิตและแบรนด์พร้อมที่จะลงมือทำมาก ๆ เพราะเทรนด์เรื่องการบริโภคแบบมีความรับผิดชอบและสิ่งแวดล้อมมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และทางเต็ดตรา แพ้ค เองก็พร้อมทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อฝ่าความท้าทายต่าง ๆ ในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นไปให้ได้”

ทางผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่ผู้ผลิตและแบรนด์ต้องตระหนักและให้ความสำคัญอยู่ตลอดเวลา คือ ต้องรู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่มีอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถปรับตัวให้ทันและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ สามารถครองใจผู้บริโภคได้ในระยะยาว โดยรายงาน เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ ที่ทางเต็ดตรา แพ้ค จัดขึ้นทำต่อเนื่องทุกปี ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการบอกเทรนด์ ‘วิถีใหม่ของผู้บริโภค’ ให้ผู้ผลิตและแบรนด์ได้รับรู้ เพื่อวางกลยุทธ์ให้ทันกับเทรนด์ในอนาคตแบบไม่ตกกระแสเลยก็ว่าได้

สนใจอ่านรายงานฉบับเต็มของ “เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ 2564” ได้ที่ https://www.tetrapak.com/insights/tetra-pak-index/tetra-pak-index2021

 


  • 2.7K
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE