10 อันดับบริษัทที่มีกำไรสูงสุดของผลดำเนินงานไตรมาส 1/2552 (ไม่รวมกลุ่มธุรกิจการเงิน ธนาคาร ประกันภัย และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์)
กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry)
ธุรกิจการเกษตร (AGRIBUSINESS)
- 1) เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กำไรสุทธิ 770.53 ล้านบาท
- 2) (STA) ศรีตรังแอโกร อินดัสทรี กำไรสุทธิ 217.11 ล้านบาท
- 3) ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) กำไรสุทธิ169.86 ล้านบาท
อาหารและเครื่องดื่ม (FOOD AND BEVERAGE)
- 1)ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ กำไรสุทธิ 653.04 ล้านบาท
- 2) น้ำตาลขอนแก่น กำไรสุทธิ 413.57 ล้านบาท
- 3) ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กำไรสุทธิ 400.36 ล้านบาท
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products)
แฟชั่น (FASHION)
- 1) ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล กำไรสุทธิ 114.14 ล้านบาท
- 2) ไทยวาโก้ กำไรสุทธิ 105.86 ล้านบาท
-
3) ธนูลักษณ์ อันดับ 3 กำไรสุทธิ 41.99 ล้านบาท
ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน (HOME & OFFICE PRODUCTS)
- 1) โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป กำไรสุทธิ 56.02 ล้านบาท
- 2) ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ กำไรสุทธิ 15.21 ล้านบาท
-
3) อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ กำไรสุทธิ 12.77 ล้านบาท
ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (PERSONAL PRODUCTS & PHARMACEUTICALS)
- 1) ดีเอสจีอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กำไรสุทธิ 49.26 ล้านบาท
- 2) ไทยออพติคอล กรุ๊ป กำไรสุทธิ 39.41 ล้านบาท
- 3) เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ กำไรสุทธิ 27.93 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials)
ธนาคาร(BANKING)
- 1) ธนาคารไทยพาณิชย์ กำไรสุทธิ 5,547.11 ล้านบาท
- 2) ธนาคารกรุงเทพ กำไรสุทธิ 4,868.63 ล้านบาท
- 3) กสิกรไทย กำไรสุทธิ 3,799.76 ล้านบาท
เงินทุนและหลักทรัพย์ (FINANCE AND SECURITIES)
- 1) อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) กำไรสุทธิ 1,192.19 ล้านบาท
- 2) บัตรกรุงไทย กำไรสุทธิ 101.29 ล้านบาท
- 3) ฐิติกร กำไรสุทธิ 64.59 ล้านบาท
ประกันภัยและประกันชีวิต (INSURANCE)
- 1) ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต กำไรสุทธิ 372.54 ล้านบาท
- 2) กรุงเทพประกันภัย กำไรสุทธิ 276.30 ล้านบาท
- 3) ไทยรับประกันภัยต่อ กำไรสุทธิ 132.45 ล้านบาท
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials)
ยานยนต์ (AUTOMOTIVE)
- 1) ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ กำไรสุทธิ 77.79 ล้านบาท
- 2) สยามภัณฑ์ กรุ๊ป กำไรสุทธิ 52.64 ล้านบาท
- 3) อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) 41.59 ล้านบาท
วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (INDUSTRIAL MATERIALS & MACHINERY)
- 1) ค้าเหล็กไทย กำไรสุทธิ 103.53 ล้านบาท
- 2) จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล กำไรสุทธิ 44.60 ล้านบาท
- 3) เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ กำไรสุทธิ 34.29 ล้านบาท
บรรจุภัณฑ์ (PACKAGING)
- 1) อลูคอน กำไรสุทธิ 135.62 ล้านบาท,อันดับ 2 อุตสาหกรรมถังโลหะไทย กำไรสุทธิ 50.56 ล้านบาท และอันดับ 3 ฝาจีบ กำไรสุทธิ 37.80 ล้านบาท
กระดาษและวัสดุการพิมพ์ (PAPER & PRINTING MATERIALS)
- 1) ไทยเคนเปเปอร์ กำไรสุทธิ 28.24 ล้านบาท
- 2) ยูไนเต็ด เปเปอร์ ขาดทุน -35.79 ล้านบาท
ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETROCHEMICALS & CHEMICALS)
- 1) อินโดรามา โพลีเมอร์ส กำไรสุทธิ 681.12 ล้านบาท
- 2) ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ กำไรสุทธิ 645.64 ล้านบาท
- 3) วีนิไทย กำไรสุทธิ 327.01 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction)
วัสดุก่อสร้าง (CONSTRUCTION MATERIALS)
- 1) ปูนซิเมนต์ไทย กำไรสุทธิ 5187.97 ล้านบาท
- 2) ปูนซีเมนต์นครหลวง กำไรสุทธิ 804.85 ล้านบาท
- 3) เอสทีพี แอนด์ ไอ กำไรสุทธิ 609.30 ล้านบาท
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (PROPERTY DEVELOPMENT)
- 1) พฤกษา เรียลเอสเตท กำไรสุทธิ 687.27 ล้านบาท
- 2) แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กำไรสุทธิ 643.91 ล้านบาท
- 3) เซ็นทรัลพัฒนา กำไรสุทธิ 603.18 ล้านบาท
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (PROPERTY FUND)
- 1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน กำไรสุทธิ 159.51 ล้านบาท
- 2) กองทุนรวมอสังหาฯควอลิตี้ เฮ้าส์ กำไรสุทธิ 153.14 ล้านบาท
- 3) กองทุนรวมอสังหาฯ ลักซ์ชั่วรี่ กำไรสุทธิ 121.07 ล้านบาท
กลุ่มทรัพยากร (Resources)
พลังงานและสาธารณูปโภค (ENERGY & UTILITIES)
- 1) ปตท. กำไรสุทธิ 7,448.71 ล้านบาท
- 2) ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม กำไรสุทธิ 5,746.26 ล้านบาท
- 3) บ้านปู กำไรสุทธิ 4,797.54 ล้านบาท
เหมืองแร่ (MINING)
- 1) ทุ่งคาฮาเบอร์ ขาดทุน 60.99 ล้านบาท
- 2) ผาแดงอินดัสทรี ขาดทุน 170.41 ล้านบาท
กลุ่มบริการ (Services)
พาณิชย์ (COMMERCE)
- 1) ซีพี ออลล์ กำไรสุทธิ 1,246.61 ล้านบาท
- 2) บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กำไรสุทธิ 726.72 ล้านบาท
- 3) สยามแม็คโคร กำไรสุทธิ 296.90 ล้านบาท
การแพทย์ (HEALTH CARE SERVICES)
- 1) กรุงเทพดุสิตเวชการ กำไรสุทธิ 454.44 ล้านบาท
- 2) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กำไรสุทธิ 338.06 ล้านบาท
- 3) บางกอกเชนฮอสปิทอล กำไรสุทธิ 175.14 ล้านบาท
สื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA & PUBLISHING)
- 1) บีอีซี เวิลด์ กำไรสุทธิ 544.23 ล้านบาท
- 2) อสมท กำไรสุทธิ 293.01 ล้านบาท
- 3) จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กำไรสุทธิ 106.32 ล้านบาท
บริการเฉพาะกิจ (PROFESSIONAL SERVICES)
- 1) เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน กำไรสุทธิ 4.09 ล้าน บาท
- 2) บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขาดทุน -14.01 ล้านบาท
- 3) โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) ขาดทุน 304.04 ล้านบาท
การท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM & LEISURE)
- 1) โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา กำไรสุทธิ 124.06 ล้านบาท
- 2) ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล กำไรสุทธิ 109.31 ล้านบาท
- 3) โอเอชทีแอล กำไรสุทธิ 95.61 ล้านบาท
ขนส่งและโลจิสติกส์ (TRANSPORTATION & LOGISTICS)
- 1) การบินไทย กำไรสุทธิ 7,868.57 ล้านบาท
- 2) ท่าอากาศยานไทย กำไรสุทธิ 1,832.91 ล้านบาท
- 3) พรีเชียส ชิพปิ้ง กำไรสุทธิ 843.09 ล้านบาท
กลุ่มเทคโนโลยี (Technology)
ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์(ELECTRONIC COMPONENTS)
- 1) ลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กำไรสุทธิ 511.36 ล้านบาท
- 2) ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ กำไรสุทธิ 152 ล้านบาท
- 3) เอสวีไอ กำไรสุทธิ 152.67 ล้านบาท
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (INFORMATION & COMMUNICATION TECHNOLOGY)
- 1) แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กำไรสุทธิ 4,567.27 ล้านบาท
- 2) ชิน คอร์ปอเรชั่น กำไรสุทธิ 1,746.61 ล้านบาท
- 3) โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กำไรสุทธิ 1,479.53 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)
ธุรกิจขนาดกลาง (MIDSIZED)
- 1) ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส กำไรสุทธิ 107.18 ล้านบาท
- 2) ถิรไทย กำไรสุทธิ 88.70 ล้านบาท
- 3) ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง กำไรสุทธิ 67.48 ล้านบาท
** หมายเหตุ: การจัดอันดับงบการเงินรายไตรมาส 1 /52 ของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทย่อย ในกลุ่มธุรกิจบางบริษัทอาจยังไม่มีงบ ดังนั้นการจัดอันดับจึงจัดเฉพาะกลุ่มที่มีข้อมูลเท่านั้น
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์