เป็นข่าวใหญ่สะเทือนแวดวงสตาร์ทอัพไม่ใช่เล่นเมื่อล่าสุดยูนิคอร์นแถวหน้าของวงการสตาร์ทอัพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลุกขึ้นมาประกาศรีแบรนด์ชื่อบริษัทใหม่จาก Garena interactive ที่ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อปี 2009 เป็น Sea Ltd พร้อมมอตโต้เก๋ไก๋ว่า connecting the dots สะท้อนการเชื่อมโยงกันของทุกๆตลาดภายใต้ SEA
โดยบริษัทให้เหตุผลออกสื่อว่า การเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นเพราะเป็นไปตามแผนการระดมทุนรอบใหม่ (ซีรีส์ E จำนวน 550 ล้านดอลลาร์) ซึ่งบริษัทตั้งใจจะใช้เม็ดเงินส่วนใหญ่จากรอบนี้เพื่อขยายธุรกิจ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซช้อปปิ้งออนไลน์ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นในตลาดเป้าหมายสำคัญอย่างอินโดนีเซีย รวมถึงสะท้อนความเป็นผู้นำในทุกแพลตฟอร์มไม่เฉพาะเกมที่ถือเป็นธุรกิจแรกเริ่มของบริษัทเท่านั้น
พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้งที่ปรึกษาใหม่ 3 ราย ประกอบด้วย George Yeo อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์, Mari Elka Pangestu อดีตรัฐมนตรีด้านการค้าของอินโดนีเซีย และ Pandu Sjahrir ผู้อำนวยการจากโรงงานผลิตถ่านหินในอินโดนีเซีย เป็นไกด์สำคัญตอกย้ำแผนรุกขยายตลาดในอินโดนีเซีย
นอกจากนี้บริษัทยังแถลงว่า GMV ซึ่งเป็นมูลค่าการซื้อขายสินค้าที่เกิดขึ้นบนแพลชตฟอร์ม Shoppee เติบโตขึ้นมากกว่าเท่าตัวในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าแล้วมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์
ด้วยเหตุที่ว่ามานี้จะพอเป็นเหตุเป็นผลให้ถึงกับต้องประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อครั้งใหญ่ก็อาจจะเพียงพอหรือไม่ก็ยังไม่ชัดเจน 100%
ผู้จับตาในวงการมองว่า แผนดัน SEA ซึ่งย่อมาจาก South East Asia เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ในอาณาเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Garena เพื่อรับมือกับคู่แข่งรายใหญ่ที่พาเหรดเข้าสู่ภูมิภาคอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Alibaba ที่เริ่มใส่เกียร์รุกขยายตลาดในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างช้าๆ แต่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่การเข้าลงทุนในเว็บอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Lazada ในปีที่ผ่านมา และแผนลงทุนระดับประเทศร่วมกับรัฐบาลมาเลเซีย รวมถึงไทย
หรือแม้แต่ JD.com อีคอมเมิร์ซแถวหน้าของจีนอีกรายที่เริ่มสนใจตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีกระแสข่าวเล็ดลอดมาเช่นกันว่าบริษัทเริ่มขั้นตอนเจรจาเข้าลงทุนใน Tokopedia แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขึ้นชื่อในอินโดนีเซียที่มีมูลค่าทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว ซึ่งหากดีลนี้ประสบความสำเร็จก็จะทำให้ JD เริ่มมีภาษีต่อกรกับคู่แข่งใหญ่อย่าง Alibaba ที่ลงทุนใน Lazada ในระดับพันล้านดอลลาร์เช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมียักษ์อีกรายอย่าง Tencent ที่ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศเพิ่มทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์ให้กับ Go-Jek บริการแอพร่วมเดินทางของอินโดนีเซียส่งผลให้มูลค่าธุรกิจของ Go-Jek ขยับขึ้นมาสูสีรายใหญ่อย่างแกร็บในภูมิภาคเดียวกันแล้ว
สำหรับ SEA เอง ในปีที่ผ่านมาซึ่งยังเป็น Garena อยู่นั้นก็ได้รับเงินลงทุนในซีรีส์ D รวมแล้วกว่า 170 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลากหลายรวมถึง SeaTown Holdings Internaional, GDP Venture และ Mistletoe ก่อนจะขยับขึ้นสู่ซีรีส์ E ในวันนี้ แต่ภาพจำของคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่วายมองว่า Garena เป็นบริษัทเกมที่กำลังน่าสนใจ
อย่างไรก็ตามถึงแม้การเปลี่ยนชื่อจะเป็นการสลัดภาพลักษณ์ของบริษัทเกม แต่ก็ยังต้องจับตาดูกันยาวๆอีก เพราะสินค้าหลักก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ รวมถึงธุรกิจของ Garena ในไทยที่ก็ยังดำเนินไปภายใต้ชื่อเดิมคือ การีนา ประเทศไทย (แพลตฟอร์มเกม), แอร์เพย์ ประเทศไทย (แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เพย์เมนท์) และช้อปปี้ ประเทศไทย (แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ)
ดังนั้นก็เป็นไปได้มากว่าการเปลี่ยนแปลงชื่อของ Garena ครั้งนี้นัยสำคัญอยู่ที่การแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมเปิดระดมทุนครั้งใหญ่หรือ IPO ในตลาดสหรัฐที่มีกระแสสะพัดมาอย่างต่อเนื่องว่าเป้าหมายคือหลักชัยที่ 1,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
แหล่งที่มา
http://www.seagroup.com
https://e27.co
