ของแรร์ที่ควรหามาติดบ้านไว้สักเล่ม “หนังสือ CRAFT TREND 2018” จาก SACICT วิเคราะห์เทรนด์ ‘งานคราฟต์ไทยยุคใหม่’ อย่างมืออาชีพ

  • 301
  •  
  •  
  •  
  •  

SACICT_1

“คราฟต์” เราได้ยินคำนี้กันบ่อยขึ้นในช่วงหลังมานี้ คราฟต์เป็นเสมือน Adjective หรือคำคุณศัพท์ที่เมื่อนำไปผสมกับอะไรแล้วก็จะทำให้สิ่งนั้นดูมีคุณค่าขึ้นในแง่ของความละเมียดละไม ความเป็นหัตถศิลป์ ชิ้นงานที่ทำด้วยฝีมือและหัวใจของความมานะ ซึ่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมางานออกแบบทุกแขนงมีความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ศิลปะหลายแขนงถูกผสมผสานกันจนออกมาเป็นงานแปลกตาหน้าใหม่ที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะงานหัตถศิลป์หรืองานคราฟต์  แล้วคุณเชื่อไหมว่า ประเทศไทยมีช่างฝีมือและมีวัตถุดิบชั้นดีอยู่มากมายในการสร้างงานหัตถศิลป์ พูดถึงตอนนี้เราอยากให้คุณลบภาพงานหัตถศิลป์ที่เป็นลักษณะของดีประจำจังหวัดแบบเดิมๆ ออกจากหัวก่อน แล้วมองแก่นของงานหัตถศิลป์ไทยในมุมมองใหม่ที่อิงกับโลกปัจจุบัน

“งานหัตถศิลป์ไทยไม่ใช่แค่ภาพที่คนต่างชาติมองเห็นเรา แต่ในทุกผลงานประกอบด้วยช่างฝีมือตัวจริง มีการใช้งานที่ตอบโจทย์ มีเรื่องเล่าที่จะบอกต่อไปยังลูกหลาน ช่วยกล่อมเกลาชีวิตของผู้คน….”

หนึ่งในประโยคน่าสนใจจากหนังสือ “SACICT CRAFT TREND 2018” หนังสือที่รวบรวมเทรนด์ศิลปหัตถกรรมไทยตามแนวคิด ‘Social Craft Network’ จัดทำขึ้นโดย SACICT ภายในเล่มมีการพูดถึงความเคลื่อนไหวและทิศทางงานหัตถกรรมในตลาดโลก มีแหล่งข้อมูลที่สามารถเอาไปพัฒนา Product ที่เป็นงานศิลปหัตถกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้คนทั้งในปัจจุบันและมองไปถึงอนาคต และยังมีอีกหลายเรื่องในหนังสือเล่มที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาชิ้นงานที่คุณสามารถต่อยอดไปสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

SACICT_2

การสรุปอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วบอกว่ามันคือเทรนด์ไม่ใช่เรื่องง่าย การกำหนดเทรนด์ต้องผ่านกระบวนการคิด กระบวนการทำ ทำซ้ำ รวบรวม วิเคราะห์ต่อเนื่องหลายปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 14 ที่ SACICT ทำงานกับงานหัตถศิลป์ไทย หรืองานคราฟต์ไทยมาต่อเนื่องจนเกิดองค์ความรู้แบบรู้จริง เพราะคลุกคลีอยู่กับกลุ่มดีไซน์เนอร์ ช่างฝีมือ ชุมชน ผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ และภูมิปัญญาชาวบ้านมาโดยตลอด  SACICT จึงมีองค์ความรู้เกี่ยวกับงานคราฟต์ตั้งแต่งานดั้งเดิมพื้นบ้าน ไปจนถึงงาน Innovative Craft (นวัตศิลป์) จนสามารถกลั่นออกมาเป็นการกำหนดแนวโน้มหรือเทรนด์ของหัตถศิลป์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี ไม่ใช่เทรนด์ที่เกิดขึ้นและจบไปแบบปีต่อปี แต่เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นแล้วสร้างร่องรอยหรือรากฐานที่จะนำไปสู่ Craft Trend ในปีถัดๆ ไปเป็นลูกโซ่

งานสวยงามที่เห็น เอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงมั้ย?

ประเด็นที่เราอยากโฟกัสคือ “งานสวยๆ ที่เราเห็นตามนิทรรศการเอามาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันมั้ย?” หากคิดแบบผู้บริโภค เรามองว่างานหัตถกรรมที่สวยไม่ควรอยู่แค่ในแกลเลอรี่ มันควรอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนได้ด้วย ประเด็นที่น่าสนใจนี้ถูกเล่าผ่าน “SACICT CONCEPT” ไลฟ์สไตล์ช้อปที่ชูให้เราเห็นถึงสมการที่น่าสนใจ

“Local wisdoms + Design >> Today Life’s Craft” คือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นบวกกับดีไซน์และนำไปสู่ งานคราฟต์ในชีวิตประจำวันของผู้คน ขมวดให้เข้าใจง่ายคือ งานหัตถกรรมไทยสวยๆ ที่ซื้อกลับบ้านไปใช้ได้ แนวคิดนี้คือการมองไปถึงกลุ่มตลาดที่มีโอกาสจะสนใจงานคราฟต์ไทย ซึ่งไม่สามารถแบ่งได้จากสาขาอาชีพหรือว่าอายุ แต่แบ่งได้จากรสนิยมและสไตล์

SACICT_3

ยกตัวอย่างง่ายๆโต๊ะดีไซน์สวยที่ตั้งโชว์อยู่ในงานนิทรรศการตัวหนึ่ง เกิดจากการร่วมมือระหว่างช่างฝีมือในชุมชนจักสาน ช่างไม้ท้องถิ่นในอยุธยา และดีไซน์เนอร์ที่ทำงานอยู่แถวทองหล่อ ฟังเรื่องราวคร่าวๆ แล้วคุณอยากจะได้โต๊ะตัวนี้มั้ยงานพวกนี้มีเสน่ห์ ไม่ใช่เสน่ห์ในลักษณะที่เล่าความเป็นชาติ แต่เป็นเสน่ห์ที่เล่าความเป็นคน ความเป็น Craft-man ภูมิปัญญาและรสนิยมที่อยู่ในตัวของคนที่รักการทำงานหัตถศิลป์ พวกเขา นำองค์ความรู้และฝีมือมาสร้างผลงานเพื่อสื่อสารและให้ผู้คนได้ใช้งาน

“Social Craft Network”

คำว่า Network หรือเครือข่ายของกลุ่มคนทำงานคราฟต์ ถูกพูดถึงในหนังสือ “SACICT CRAFT TREND 2018” ซึ่งถูกพูดไว้ได้ลึกกว่าประเด็น ‘โลกออนไลน์และออฟไลน์’ เพราะ Social Craft Network ในความหมายของ SACICT คือแนวคิดที่บอกเล่าถึงการรวมกลุ่มในสไตล์นอกกรอบ คือเอาคนที่มีความถนัดต่างกันแต่มีใจรักในงานคราฟต์เหมือนกันมาทำงานและสร้างงานหัตถศิลป์ร่วมกัน มันจึงเกิดเน็ตเวิร์คการทำงานแบบข้ามสายอาชีพ ข้ามความถนัด ข้ามพื้นที่ เพื่อให้ได้ผลงานที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์อันเกิดจากการผสมผสานตัวตนของคนหลายแบบ โต๊ะหนึ่งตัว อาจจะเกิดจากการร่วมมือของดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่น ช่างไม้อยุธยา ชุมชนผ้ามัดย้อมในเชียงใหม่ SACICT จึงเป็นเสมือนแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงเหล่า Craft-man ในภูมิภาคต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีคนที่รักในงานหัตถศิลป์สมัครเข้ามาร่วมทำงานกับ SACICT กว่า 1,500 ราย และมี Projects ที่เกิดขึ้นและกำลังรันอยู่กว่า 60 โครงการ ทั้งงานดั้งเดิม งานร่วมสมัย งานองค์ความรู้ งาน Innovative Craft (นวัตศิลป์) รวมถึงงานด้านการตลาด ชุมชนหัตถกรรม 18 ชุมชนทั่วประเทศที่กำลังร่วมกันทำงานกับ SACICT แบบครบวงจร

SACICT_4

หากใครยังไม่ทราบ อันที่จริง SACICT นั้นก็คือองค์กร ศ.ศ.ป. หรือศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ส่วนชื่อ SACICT นั้นมาจากชื่อเต็มภาษาอังกฤษว่า “The Support Arts and Craft International Centre of Thailand” ชื่อย่ออ่านพ้องเสียงกับคำภาษาไทยว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’

ปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่ SACICT ได้ขับเคลื่อนโครงการ “SACICT CRAFT TREND” จากประสบการณ์และองค์ความรู้ที่สั่งสมมาตลอด 14 ปี ต้องบอกตามตรงว่าเราดีใจและรู้สึกภาคภูมิที่ได้เห็นองค์การมหาชนไทยแท้ที่พัฒนาตัวเองเพื่อให้ก้าวทันกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่งที่จะส่งเสริมและให้ความรู้แก่แวดวงหัตถกรรมไทย และยังพยายามสร้างเน็ตเวิร์คทเพื่อเชื่อมโยงคนมีความรู้จากหลากหลายถิ่นแต่สนใจในงานหัตถศิลป์ให้มาอยู่ร่วมกันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเล็กๆ นี้ให้เติบโต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ดีไซน์เนอร์ นักการตลาด ชุมชนช่างฝีมือและแหล่งวัตถุดิบ อีกทั้งยังมีการใช้พลังจากแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสื่อสารผลงานออกไปสู่สายตาชาวไทยและชาวโลก เป็นการทำงานอย่างชาญฉลาดที่เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ

SACICT_5

ความเก๋ที่เราต้องปรบมือให้อีกอย่างหนึ่งคือ แม้จะมีวิสัยทัศน์ที่เปิดรับโลกดิจิทัลอย่างเต็มที่ แต่ SACICT ก็ ไม่ทิ้งแก่นแห่งความเป็น Craft-man ขององค์กร ยังคงเลือกที่จะทำ ‘หนังสือ Craft Trend’ เป็นรูปเล่มออกมาต่อเนื่องทุกปี

(แม้จะทำเป็น E-book อย่างเดียวก็ทำได้ ประหยัดกว่าด้วย) หนังสือ “SACICT CRAFT TREND 2018” จึงไม่ใช่แค่หนังสือ แต่เป็นผลงานหัตถกรรมที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งอนาคตของวงการหัตถกรรมไทยที่คุณไม่ควรพลาดที่จะหามาติดบ้านไว้สักเล่ม

SACICT_6

หากคุณสนใจหนังสือ “SACICT CRAFT TREND 2018” เล่มนี้ สามารถโทรติดต่อได้ที่ 1289 หรือ Facebook.com/sacict

ดาวน์โหลด E-book ได้ที่ www.sacict.net/scripts/news_sub.php?id=1439


  • 301
  •  
  •  
  •  
  •