ใครจะรู้ล่ะว่าอีกศตวรรษข้างหน้าระบบอัตโนมัติในร้านค้าจะมาแทนที่งานในสายค้าปลีกถึง 4 ตำแหน่งซึ่งจะทำให้คนอีก 7.5 ล้านคนต้องตกงานทันที จากรายงานของคอร์เนอร์สโตนแคปิตอลกรุ๊ป
ไม่ใช่เพราะว่าคนงานในตลาดค้าปลีกอยู่ทำงานกะดึกไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่คนจะตกงานอีกเป็นร้อยเพราะการมาของการช็อปปิ้งออนไลน์และพื้นที่บนโลกออนไลน์ที่ฉีกข้อจำกัดของอุตสาหกรรมค้าปลีกแบบเดิมๆไปเลย แค่ร้านค้าปลีกยักษ์ที่ลุยทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่าง Sears ที่อเมริกาออกมาประกาศแล้วว่าจะปิดร้านอีก 30 ที่เป็น 150 ที่ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์จึงมองว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกนับวันยิ่งจะนองเลือดขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ร้านค้าต่างๆจึงต้องหาทางพัฒนาซุ้มของตัวเองให้ทันสมัย ไม่เว้นแต่รถเข็นที่ติดระบบให้กลับเข้าที่เองได้ แข่งกับธุรกิจคู่แข่งที่มีเทคโนโลยีไฮเทค งานอย่างแคชเชียร์จึงมีสิทธิตกงานเอาง่ายๆเพราะถูกแทนที่เพราะระบบอัตโนมัติ
และผลกระทบนี้จะชัดขึ้นเรื่อยๆ
อีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ก็มีร้านค้าออนไลน์อย่าง Amazon Go ที่แค่หยิบของที่อยากได้ แต่ละร้านก็จะมีคนงานน้อยลงแต่งานจะล้นมือมากขึ้น ส่วน Intel ก็หันมาเล่นโอกาสในค้าปลีกบ้างโดนลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะการสร้างระบบที่รวมฟังก์ชั่นหลักๆของร้านเข้ากับระบบที่เชื่อมกับอินเตอร์เน็ต Intel ยังเอาหุ่นยนต์ที่รูปร่างเหมือนเสาแท่งอย่าง Simbe Robotics’ Tally ที่วิ่งรอบๆเพื่อเช็คสินค้าในร้าน
ถึงเทคโนโลยีจะแทนที่งานบางอย่างในตลาดค้าปลีก แต่สำหรับคนที่มีงานที่เทคโนโลยียังไม่สามารถทดแทนได้ มันก็จะช่วยทำให้คนงานทำงานได้มากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆได้
ร้านค้าปลีกในไทย หากไม่ปรับตัว ก็อาจจะถูก “Disrupt” เอาง่ายๆเช่นกัน
แหล่งที่มา
http://mashable.com/2017/05/22/study-retail-jobs-automation/#QzAe3PdG9qqE