T2P เปิด DeepPocket บริการ e-Wallet ใหม่ พร้อมรับลงทุนจาก 500 Startups

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

DeepPocket-logo

ธุรกิจ Startup ในไทยกำลังมาแรงโดย FinTech คือประเภทของ Startup ที่กำลังมาแรงที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาททั่วโลก และกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวโน้มที่เห็นได้ชัดว่า FinTech จะมา Disrupt ธุรกิจการเงินการธนาคาร เริ่มตั้งแต่ระบบชำระเงิน, บริหารจัดการการเงิน, บัตรเครดิต, การเช่าซื้อขาย ซึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในไทย ถือว่าอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น

T2P ผู้พัฒนาโซลูชั่นทางด้านเทคโนโลยีและให้บริการด้าน FinTech เห็นถึงโอกาสนี้ จากเดิมที่ให้บริการในลักษณะ B2B โดยมีร้านค้าใช้บริการกว่า 1,500 แห่ง มียอดผู้ใช้งานประมาณ 900,000 ราย ซึ่งเป็นบริการลักษณะ Loyalty Program Solution เน้นการสะสมแต้มเพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นหลัก และครั้งนี้ได้ขยับมาเปิดบริการประเภท B2C ในชื่อ DeepPocket แอพพลิเคชั่น e-Wallet อีกราย ด้วยยอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 70,000 ราย

13106605_10153407360546020_1188859432_o

ทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร T2P บอกว่า การเปิด DeepPocket เป็นการขยับมาให้บริการผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะในประเทศไทย ยังมีสัดส่วนผู้ใช้บริการ e-Wallet ประมาณ 7.6% ของประชากร ขณะที่สัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟน มีมากกว่า 53% ของประชากรแล้ว หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ฟิลิปปินส์ 17%, สิงคโปร์ 23%, เวียดนาม 15.9% แสดงว่าตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีโอกาสอีกมาก

DeepPocket สามารถเติมเงินผ่าน ibanking, ร้านสะดวกซื้อ, ห้างสรรพสินค้า ได้ทันทีเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ และได้จับมือเป็นพันธมิตร Master Card ทำให้สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์จากร้านค้าที่รับบัตรของ Master Card ได้ทันที รวมถึง โอน จ่าย ถอน มีกำหนดสูงสุด 50,000 บาทต่อรายการ และยังมีฟีเจอร์สำคัญที่สร้างความแตกต่างระหว่าง DeepPocket กับ e-Wallet รายอื่นๆ ในตลาดคือ ระบบ Social Pocket มีลักษณะ Friend and Family Sharing ให้ผู้ใช้ในก๊วนเดียวกัน ยืม-คืนเงินกันได้อัตโนมัติ ไม่เกิน 50 บาทต่อคน

DeepPocket เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งอาจจะเติมเงินผ่านช่องทางอื่นๆ แต่พอจะซื้อของออนไลน์ เกมออนไลน์ แล้วเงินไม่พอ ระบบ Friend and Family Sharing ในก๊วนเพื่อนที่อนุญาตให้ยืมกันได้ (สูงสุดไม่เกิน 50 บาทต่อคน) จะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการ และจะคืนเงินอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เติมเงินเข้าสู่ระบบ

13105849_10153407361496020_245669404_o

และด้วยบริการ DeepPocket ทำให้ล่าสุด T2P ได้รับการลงทุนจาก 3 ผู้ลงทุนใหญ่ ได้แก่ กลุ่มบริษัทเบญจจินดา ของตระกูลเบญจรงคกุล, กองทุน 500 TukTuks และ กองทุนระดับโลก 500 Startups

กระทิง พูนผล ผู้ก่อตั้งกองทุน 500 TukTuks บอกว่า 500 TukTuks ลงทุนใน Startup ซึ่งกลุ่ม FinTech เป็นประเภทหนึ่งให้ความสนใจ ซึ่งปัจจัยที่ลงทุนใน T2P มาจากทีมงานที่ดี มีประสบการณ์ด้านการเงินสูงมาก มีความเข้าใจในธุรกิจ FinTech เป็นอย่างดี และส่งผลให้กองทุนใหญ่ของ 500 Startups ให้ความสนใจร่วมลงทุนด้วย ยิ่งในประเทศในภูมิภาคนี้ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร เช่นในไทย มีกว่า 30% ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ถือเป็นโอกาสที่ธุรกิจจะขยายตัวได้

13105799_10153407362041020_550070093_o (1)

ทั้งนี้ เงินลงทุนที่ กลุ่มบริษัทเบญจจินดา, 500 TukTuks และ 500 Startups ร่วมทุนอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์

ทวีชัย คาดว่าในปีนี้ยอดผู้ใช้ DeepPocket จะอยู่ที่ประมาณ 300,000 ราย และรายได้จะเติบโตขึ้นประมาณ 300% โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ 10 ล้านบาทจากบริการ B2B ส่วนปีนี้มีบริการ B2C เพิ่มขึ้นมา แม้จะยังมีสัดส่วนน้อย แต่เชื่อว่ารายได้จะโตขึ้นเป็นกว่า 30 ล้านบาท


  •  
  •  
  •  
  •  
  •