สรุป! Google Marketing Live 2024 เปิดตัวเครื่องมือโฆษณาพลัง AI สร้างประสบการณ์ “ยิง Ads-เห็น Ads” ดีขึ้น

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่นามา Google จัดงาน Google Marketing Live 2024 เป็นงานที่จะเปิดตัวเครื่องมือในการทำการตลาดในแพลทฟอร์ม Google ตัวใหม่ๆออกมาทุกปี โดยในปีนี้ก็มีการเปิดเครื่องมือใหม่ๆออกมาซึ่งนักการตลาดจะได้สัมผัสและบางส่วนก็กำลังจะปล่อยออกมาให้ได้ใช้กันในเร็วนี้แล้ว

1.Ads ใน AI Overview กำลังมา

นอกจากพลังของ Gemini ที่ Google ใส่มาใน Search Engine เพื่อยกระดับประสบการค้นหาข้อมูลของพวกเราในระบบที่เรียกว่า AI Overview ที่บางคนอาจได้เคยลองกันไปแล้วและก็เริ่มปรับตัวกับการใส่คำถามค้นหา เป็นคำถามที่ยาวมากขึ้นกว่าคีย์เวิร์ด เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การค้นหาที่เฉพาะเจาะจงและกลายเป็นการสนทนาแบบ 2 ทางมากขึ้น

ล่าสุด Google ประกาศแล้วว่าจะทดลองติดตั้ง Search Ads และ Shoping Ads ลงใน AI Overview ด้วย โดยหากสินค้าหรือบริการของแบรนด์ที่ลงโฆษณาเกี่ยวข้องกับคำถามที่แสดงผล AI Overview ขึ้นมา Ads ที่เกี่ยวข้องที่จะมาพร้อมกับสัญลักษณ์ Sponsored จะโผล่ขึ้นมาให้เลือกด้วย นับเป็นอีกหนึ่ง Placement ที่น่าสนใจทั้งสำหรับผู้ใช้รวมไปถึงนักการตลาดที่จะลงโฆษณาด้วยเช่นกัน

สำหรับระบบนี้เริ่มทดสอบในกลุ่มเล็กๆแล้วในสหรัฐอเมริกา และคาดว่าจะขยายไปสู่กลุ่มใหญ่ขึ้นเร็วๆนี้

2.Search Ad Experience โหลดภาพ AI ช่วยหา

ในงาน Google Marketing Live 2024 ก็มีประกาศด้วยเช่นกันว่าระบบ Search Ads ที่เป็นโฆษณาเด้งขึ้นมาในหน้าแรกของผลการค้นหานั้นจะใส่ระบบ Generative AI เข้าไปเพื่อช่วยผู้ใช้งานได้ประสบการณ์ใหม่ในการตัดสินใจซื้อสินค้าจากข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้ใช้งานเลือกอัพโหลดเข้าไปในระบบได้

ยกตัวอย่าง ลูกค้าค้นหาโดยใส่คียเวิร์ดใน Google ว่า “โกดังเก็บสินค้าแบบระยะสั้น” ระบบ Search Ads จะแนะนำ link ของโกดังขึ้นมาพร้อมกับ “ปุ่มยาวๆสีฟ้า” ที่กดเข้าไปอีกหน้าแล้วผู้ใช้งานสาารถอัพโหลดรูปภาพหรือข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปได้ อย่างในตัวอย่างก็เป็นการแนะนำขนาดของโกดังจาก “รูปภาพสิ่งของที่จะเก็บ” ที่อัพโหลดขึ้นไปทันที ระบบนี้แน่นอนว่าจะช่วยให้ลูกค้าที่ค้นหาสินค้าหรือบริการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามระบบนี้ยังอยู่ในระยะของการทดอบโดยจะปล่อยให้ผู้ลงโฆษณาในสหรัฐอเมริกาเริ่มทดลองใช้กันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

3.Brand Profiles ข้อมูลแบรนด์ที่มากขึ้นจากผลการค้นหา

Google เปิดเผยว่าการค้นหาเพื่อหาซื้อสินค้าใน Google นั้นคียเวิร์ดจำนวนมากถึง 40% มีการระบบแบรนด์ไปด้วย ดังนั้น Google จึงประกาศด้วยว่า Brand Profile แบบใหม่จะแสดงผลให้ผลการค้นหาด้วยเช่นกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะมาจากข้อมูลที่แบรนด์ใส่เอาไว้ใน Google Merchant Center ข้อมูลเหล่านี้มีรูปแบบลักษณะคล้ายๆกับ Business Profile ใน Search แบบเดิมรวมถึงใน Google Map ที่เราคุ้นเคย

ระบบใหม่นี้ก็เป็นอีกช่องทางให้กับแบรนด์ในการนำเสนอสินค้าและบริการด้วยข้อมูลที่มากขึ้นรวมไปถึงรีวิวจากผู้ใช้งานที่เป็นวิดีโอก็ทำได้นั่นเอง สำหรับฟีเจอร์นี้จะปล่อยให้ใช้งานทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

4.Performance Max ที่ตรงความต้องการมากขึ้น

Performance Max เป็นระบบที่สร้างความสะดวกสบายในการยิง Ads ในอีโคซิสเท็มของ Google ให้ง่ายมากขึ้น สามารถสร้างแคมเปญเดียวแล้วยิง Ads ไปโชว์ในช่องทางต่างๆของ Google ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาใน Google Search, แบบเนอร์ตามเว็บไซต์ต่างๆของ Gogole Display Network, ไปโผล่ใน Google Shopping, เป็น Ads ใน YouTube ใน Gmail รวมถึง Google Map ซึ่งการจะสร้างแคมเปญในหลายๆ Placement ความยุ่งยากเดียวก็คือจะต้องมีสื่อเช่นรูปภาพหรือวิดีโอที่นักการตลาดรวมถึงแบรนด์ต้องเตรียม

ล่าสุด Google ก็ใช้พลังของ Generative AI มายกระดับการควบคุมงาน Creative ที่เราจะปล่อยไปในแคมเปญ Performance Max ได้มากขึ้น เช่นสามารถอัพโหลด Font ของแบรนด์ สีเฉพาะของแบรนด์ รวมไปถึง Gen ภาพด้วย Promt โดยมีภาพ Reference เพื่อเป็น Guideline ให้ AI นำไปสร้างภาพในขนาดที่เหมาะกับ Plancement ต่างๆใน Ecosystem ได้ โดยระบบนี้จะเปิดให้ใช้ทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป

นอกจากนี้เครื่องมือในการ Edit ภาพถูกอัพเกรดขึ้นใหม่ด้วยความสามารถของ Generative AI โดยสามารถลบวัตถุ หรือแทนที่วัตถุ ขยาย Backgroundได้ด้วยการพิมพ์ Prompt สั่งเข้าไปได้ ความสามารถนี้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Google Merchant Center ด้วยโดยช่วยให้สามารถเพิ่มภาพสินค้าเข้าไปใน creative ที่มีอยู่แล้วได้เช่นกัน

5. ประสบการณ์ใหม่ของ Shopping Ad

Google ประกาศด้วยว่าจะยกระดับประสบการณ์ช็อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้นกระตุ้นให้คนซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุดจะมีการใส่ฟีเจอร์โชว์ภาพสินค้าเป็น “3 มิติ” เข้าไปด้วย เช่น Ads โฆษณารองเท้าจะรองรับการแสดงภาพเป็น 3 มิติ เพียงแค่อัพโหลดภาพในมุมต่างๆโดยรอบเข้าไปเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังมีระบบใหม่ที่เรียกว่า Virtual Try-On เช่นแบรนด์เสื้อผ้าที่ลงโฆษณาสามารถเพิ่มฟีเจอร์นี้ให้ลูกค้าที่มีรูปร่างแตกต่างกันสามารถทดลองใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นดูได้ เป็นอีกระบบที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การค้นหาและเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์ต่างๆให้สร้างผลลัพท์แคมเปญได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้คืออัพเดทสำคัญๆจากงาน Google Marketing Live 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นอีกช่องทางเพิ่มความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณาให้กับนักการตลาดได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน